บทบาทการฟื้นระบอบทักษิณด้วยนโยบายประชานิยมเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ “นายกฯสืบสันดาน/- มาดามแพ, อุ๊งอิ๊งค์ – แพทองธาร ชินวัตร” กดปุ่มโอนปฐมฤกษ์เงินประชาชนผสมเงินอื่นๆ โอนจ่ายแจกให้เหยื่อการเมือง (ประชาชนเจ้าของเงิน) ประดุจการซื้อเสียง “โหวตเตอร์” ล่วงหน้าด้วยข้ออ้างว่าด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อนำพาประชาชนคนไทย“มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี”ลดความเหลื่อมล้ำตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลสืบสันดาน
ประเด็นคือคำถามที่ต้องการคำตอบว่าผลสัมฤทธิ์จะออกมาตามนั้นจริงหรือไม่ แล้วถ้าไม่ได้ผลตามนั้น นายกฯฝึกงานจะหาเหตุและข้ออ้างอย่างไรมาอธิบายให้เหยื่อที่กลายเป็นลูกหนี้ที่ต้องชดใช้หนี้ในอนาคตเข้าใจ ... ให้อภัยอย่างไร
เหยื่อประชานิยมในระบอบทักษิณที่ดีใจตื้นตันใจกับเม็ดเงิน 10,000 บาท ที่ได้รับการโอนจากนักการเมืองทั้งหลายทราบไหมว่า นั่นคือภาพลวงตาเป็นมายาของนักการเมืองที่พร้อมจะกลับมาเอาคืนเพื่อตนเองครอบครัวและพวกพ้องอย่างไร ลองพิจารณา “มาตรการบาซูก้า” ของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนภายใต้การนำธงของ “สี จิ้นผิง”ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอันเป็นความต้องการและเป็นเป้าหมายเดียวกันกับ “พ่อจุ้นจ้าน/-ทักษิณ ชินวัตร” แสดงวิสัยทัศน์โชว์สกิลเศรษฐกิจเพื่อสร้างภาพให้สังคมไทยเกิดความเชื่อมั่นรัฐบาลสืบสันดานที่มี “มาดามแพ /- อุ๊งอิ๊งค์ –แพทองธาร ชินวัตร ... เป็นนอมินี” ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนเกิดอาการ “รีบาวน์” อย่างแรงจนเป็นบวก ในระยะสั้น พร้อมประกาศเป้าหมาย GDP ปี 2566 ที่โตกว่า 5% ทันที
“มาตรการบาซูก้าของรัฐบาลสี จิ้นผิง” ไม่ได้เพิ่มภาระหนี้ให้แก่ประชาชนในอนาคตแม้แต่น้อย ขณะที่นายกรัฐมนตรีฝึกงานของไทยยังละล้าละลัง เก้ๆกังๆกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ “รัฐบาลรปภ.โง่ /- ลุงตู่ – พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” อดีตนายกรัฐมนตรีที่เคยถูก“พรรคเพื่อไทย”บูลลี่ประณามการบริหารประเทศจนเกิดวาทกรรมประดิษฐ์ว่า “ทศวรรษที่สูญหาย” ทั้งที่ช่วงเวลาดังกล่าวเงินทุนสำรองของไทยแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะในปี 2564 ทุนสำรองระหว่างประเทศรวม (Gross Reserves) ของไทย อยู่ที่ 2.46 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาทที่ 8.17 ล้านล้านบาท สูงเป็นอันดับที่ 12 ของโลก และถือว่าอยู่ในระดับมั่นคง โดยคิดเป็นประมาณ 3 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น
ทว่านโยบายที่อ้างกันว่าใช้เนื้อสมองนิ่มๆคิดจากทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย หรือจากเนื้อสมองของ “อัศวิน คลื่นลูกที่สาม /- ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่ง “มาดามแพ /- แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีฝึกหัดและครม.สืบสันดานกดปุ่มปฐมฤกษ์แจกเงินคนละ 10,000 บาท กลับได้ผลกระตุ้นเศรษฐกิจแตกต่างไปจากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนของสีจิ้นผิงยิ่งนัก ...เพราะ “มาตรการบาซูก้า” ไม่เน้นการแจกเงินประชาชน ประเทศออกจะร่ำรวยขนาดนั้นกลับดำเนินตามมาตรการที่กล่าวมาขั้นต้น ด้วยการตั้งสติยิงปืนใหญ่ “บาซูก้า”ทางการคลัง 11% เพื่อบรรลุเป้าหมายดันจีดีพีโต 5%
เพราะนักการเมืองเสียชาติเกิดในระบอบทักษิณ ผู้มีอำนาจทางการเมืองผู้บริหารประเทศออกอาการจนปัญญา ไร้วิริยะอุตสาหะ, ความจริงใจ /-สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีความตะกละตะกลาม ตามสันดานเดิมเป็นที่ตั้งออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลอกประชาชนให้กลายเป็นขอทานแบมือไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรี
สุดท้ายก็อับจนสิ้นหนทางแก้ปัญหายอมปัญญาอ่อน “กู้เงิน เป็นแสนล้าน !!มาแจก”...ไม่เป็นการสร้างหนี้เพื่อนำไปลงทุนให้มีผลงอกเงยแก่สังคมชาติแต่อย่างใดเลย
ทว่าเป็นไปตามวาทกรรมประดิษฐ์เมื่อครั้งเป็นฝ่ายค้าน บูลลี่แก้เกี้ยว ประณามวิพากษ์วิจารณ์โจมตี “รัฐบาลลุงตู่ /- พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา”นายกรัฐมนตรีว่าไร้ปัญญาสิ้นคิดแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการนำยาเสพติดมามอมเมาประชาชน แจกเงินใน “โครงการคนละครึ่ง, เที่ยวด้วยกัน” จนสังคมไทยก้าวข้ามผ่านวิกฤตมาด้วยกันทั้งประชาชนผู้ใช้จ่ายเงิน ทั้งผู้ผลิตสินค้าและผู้จำหน่ายสินค้า
... ถามว่า เงิน 10,000 บาทที่โอนเข้าบัญชีเหยื่อใช้จ่ายตรงเป้าและวัตถุประสงค์ของโครงการหรือไม่
ท่านผู้ฉลาดเลอเลิศทั้งพ่อทั้งนางลูกสาวประจักษ์บ้างหรือยัง
“รัฐบาลปัญญาอ่อนเท่านั้นที่กู้เงินมาแจกประชาชน”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี