เหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและเด็กนักเรียน-โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี บนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า หน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ตำบลคูคต อำลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นความเศร้าสะเทือนใจเกินกว่าที่จะหาคำใดมาเปรียบแทนได้
นักเรียนและครู 23 ชีวิต..ไม่ควรมาจบชีวิตในสภาพที่ไม่ต่างจากการถูก“เผาทั้งเป็น”..เมื่อนึกถึงภาพคับขันของผู้เสียชีวิตบนรถบัสขึ้นมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง..ก็ต้องหลับตาทุกครั้ง..ไม่อาจคิดถึงนาทีมรณะต่อไปอีกได้
ความประมาทของพนักงานขับรถ, ความหย่อนยานต่อหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และความเห็นแก่ตัวของผู้ประกอบการซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทรถบัสคันนี้..คือต้นเหตุของโศกนาฏกรรม และเป็นบทเรียนซ้ำซากในประเทศนี้ที่ไม่รู้จักจบสิ้น
สำคัญที่สุดก็คือ..โครงการทัศนศึกษาของโรงเรียนไม่ใช่ปัญหา..แต่ปัญหาอยู่ที่สภาพรถยนต์ และความหย่อนยานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง..ที่ยังอนุญาตให้รถบัสคันนี้ซึ่งมีอายุการใช้งานมาแล้วถึง 54 ปีตามที่ได้จดทะเบียนไว้เมื่อปี 2513 วิ่งได้อย่างไร..อีกทั้งนอกจากจะมีการดัดแปลงตัวถังรถพร้อมเปลี่ยนเครื่องยนต์..จากยี่ห้อเดิมอีซุซุของญี่ปุ่นมาเป็นเบนซ์ของเยอรมัน..ก็ยังมีการเปลี่ยนมาใช้แก๊ส NGV โดยถังแก๊สนี้ใช้งานมาแล้ว 15 ปี และจวนใกล้จะหมดอายุในปี 2569
แม้ว่าขนส่งจังหวัดสิงห์บุรีจะออกมายืนยันว่า..รถบัสคันที่เกิดเหตุหมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี ซึ่งเป็นของผู้ประกอบการชื่อนางสาวปาณิสรา ชินบุตร หรือบริษัท'ชินบุตรทัวร์'ได้มีการตรวจสภาพรถครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 แล้ว..และโดยเฉพาะเรื่องประตูรถฉุกเฉินอยู่ในสภาพแข็งแรงใช้งานได้ตามปกติ
แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ขณะเกิดเหตุเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมวานซืนนี้ เวลาเที่ยงเศษ..ซึ่งหลังจากยางหน้าด้านขวาของรถระเบิด..ทำให้รถเสียหลักไปชนกับแบริเออร์จนเกิดไฟลุกขึ้นที่ด้านหน้ารถก่อน..จากนั้นจึงลุกลามไปทั้งคัน..เป็นเหตุให้นักเรียน 20 คน และครู 3 คน-รวม 23 คน..ต้องถึงแก่ชีวิตอย่างน่าเศร้าสลด..เพราะประตูรถฉุกเฉินด้านหลังเปิดไม่ได้..โดยบนรถคันนี้มีผู้โดยสารมาทั้งหมด 45 คน..เป็นนักเรียน 38 คน, ครู 6 คน และพนักงานขับรถ 1 คน
นอกจากประตูทางออกฉุกเฉินหรือประตูรถฉุกเฉิน..คือคำถามแรกที่มีคำตอบอยู่ในตัวของมันเองจากเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้แล้ว..ว่าถูกละเลยอย่างประมาทเลินเล่อ-ใช้การไม่ได้..อันเป็นความรับผิดชอบของ ทั้งหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง, เจ้าของผู้ประกอบการ และพนักงานขับรถ..ส่วนอุปกรณ์อย่างอื่นบนรถบัสคันนี้ที่ควรมีมาตรฐานเพื่อป้องกันเหตุแห่งความสูญเสีย..คงป่วยการที่จะถามว่ามีหรือไม่..หรือมีแล้วใช้การได้หรือไม่..เช่น ถังดับเพลิง และค้อนทุบกระจก
สำคัญที่สุดพนักงานขับรถจะต้องเป็นคนแรกที่อยู่บนรถเพื่อช่วยเหลือผู้โดยสารที่ประสบภัย..และใช้อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่ควรจะมีหรือมีอยู่บนรถบัสคันนี้..เป็นการแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า..แต่ปรากฏว่าพนักงานขับรถที่ชื่อนายสมาน จันทร์พุฒ วัย 48 ปี..หนีเอาตัวรอดออกจากรถ..สิ่งนี้คือ“สำนึกของมนุษย์”ตามภาระหน้าที่รับผิดชอบที่ควรจะมีอยู่..ไม่ว่าจะอาชีพใดก็ตามต้องมี
อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งในยามที่มีเหตุเภทภัยร้ายแรงเกิดขึ้นแก่ประชาชนและประเทศชาติบ้านเมือง..ไม่มีแม้สักครั้งเดียวที่ในหลวงและสมเด็จพระราชินีจะทรงทอดทิ้งพสกนิกร..โศกนาฎกรรมในครั้งนี้ก็เช่นกัน..นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี..ทรงมีความห่วงใย และทรงสลดพระทัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น..ทรงรับผู้บาดเจ็บทั้งเด็กและครูไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทุกราย..ตลอดจนการจัดการเรื่องงานทั้งหมด..รวมทั้งผู้เสียชีวิต..ทางกระทรวงศึกษาธิการจะทำหนังสือขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษต่อไป
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี