“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า, สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา”ฉบับนี้ “ไม้หน้าสามย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยมสัมภเวสี, นักการเมืองเสียชาติเกิด, นักเลือกตั้งชังชาติ, สลิ่มติ่งแดงด้อมส้ม, อุปกรณ์ทำการเกษตรใช้สนตะพายเทียมคันไถ อย่างเท่าเทียม”...
nn สุดสัปดาห์นี้เริ่มต้นด้วยสัญญาณอันตรายของสังคมไทยกับ “นโยบายประชานิยมในระบอบทักษิณ” ที่ทำให้บรรยากาศบนตึกไทยคู่ฟ้า, บ้านจันทร์ส่องหล้า เต็มไปด้วยรอยยิ้มและอาการปลื้มปริ่มระริกระรี้อย่างสุดสุดครั้งแรกหลังก้าวขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ “พ่อจุ้นจ้าน”จัดให้ “นังลูกสาว” อย่าง “มาดามแพ, อุ๊งอิ๊งค์ /-แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีสืบสันดานและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หลังลิ่วล้อในหนังจีน,ติ่งนักโทษเด็ดขาดชายคดีทุจริตคอร์รัปชั่นช่วยกันอวยยกหาง “นังลูกสาว” เมื่อผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 3/2567 ของ “สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้าโพล)” สนับสนุน “มาดามแพ, อุ๊งอิ๊งค์ /- แพทองธาร ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี ถึงร้อยละ 35.31...
nn เป็นครั้งแรกที่ได้รับแรงสนับสนุน / คะแนนนิยมเหนือเพื่อนคู่ต่อสู้คนสำคัญตระกูล 3ท. (ทอน – ทา – เท้ง) “เท้ง /- ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ”หัวหน้าพรรคประชาชน ที่ได้รับคะแนนนิยมร้อยละ 22.90 ตามมาด้วย“บิ๊กตุ๋ย /- พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ อย่างน่าเสียดายที่ควรได้รับคะแนนนิยมสนับสนุนในความสามารถและความมุ่งมั่นตั้งใจที่ได้ร้อยละ 8.65 ผลสำรวจครั้งนี้พบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 23.50 ยังมองหาบุคคลที่เหมาะสมมากกว่า ขณะที่ “บิ๊กหนู /- อนุทิน ชาญวีรกูล”รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ที่มุ่งมั่นขยันขันแข็งออกสื่อรับใช้ประชาชนอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยว่าที่ผู้นำฝ่ายอนุรักษ์นิยมคนใหม่ กลับมีคะแนนนิยมมาเป็นลำดับที่ห้า ร้อยละ 4.00 เท่านั้นตามหลัง “เจ๊หน่อย /- คุณหญิงสุดารัตน์เกยุราพันธ์ุ” หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย อีกต่างหาก...
nn ต้องบอกว่าน่าเป็นห่วงอย่างที่สุด...น่าสงสารอย่างสุดใจกับชาวบ้านอำเภอแม่สายและใกล้เคียงในจังหวัดเชียงรายที่ประสบเหตุอุทกภัยซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่จบไม่สิ้น กับ “แอ๊กชั่น”ของ “คณะรัฐมนตรีสืบสันดาน” ภายใต้การบริหารของ “มาดามแพ, อุ๊งอิ๊งค์ /-แพทองธาร ชินวัตร” ที่ลงพื้นที่สร้างปัญหาให้ “พุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย”ที่ไม่ได้อยู่พื้นที่ให้การต้อนรับจนถูก “บิ๊กหนู /- อนุทินชาญวีรกูล” นักการเมืองที่เร่งโกยคะแนนหวังเป็นตัวแทน ฝ่ายอนุรักษ์นิยมคนใหม่ตำหนิอย่างรุนแรง โดยที่ “นังลูกสาว” ก็ไม่ได้สร้างขวัญกำลังใจใดๆ เพราะเป็นการปรากฏตัวแค่ไปตรวจพื้นที่กำกับ 6 มาตรการเยียวยาที่ชาวบ้านอึ้ง/ทึ่ง/เสียวสันหลังวาบ จัดงบประมาณเยียวยาไว้สุดกู่ 3,045 ล้านบาท บ้านไหนเสียหายเกิน 70% ขึ้นไปได้เยียวยาหลังละ 230,000 บาท แล้วมันจะคุ้มแดดคุ้มฝนคุ้มกะลาหัวไหม,ช่วยค่าไฟฟ้า เดือนกันยายนที่จมน้ำไม่ต้องจ่ายค่าไฟ ก็ต้องจ่ายด้วยรึในเมื่อบ้านถูกน้ำท่วม กฟภ.ตัดกระแสไฟ ยุติสถิติการเสียชีวิต ค่าไฟฟ้าเดือนตุลาคม ลดค่าบริการ 30% , ลดขั้นตอนการยื่นเอกสารรับเงินเยียวยา (น่าปลื้มปีติโดยแท้), เร่งหารือกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงแก้ปัญหาน้ำร่วมกัน สุดท้ายตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิเคราะห์รายงานน้ำท่วม 24 ชั่วโมงเพื่อ ???...
nn มาฟังพี่ทางนี้“นังลูกสาวนักโทษคดีทุจริตคอร์รัปชั่น /- นายกรัฐมนตรีสืบสันดาน” ... โรงครัวที่แม่สาย จ.เชียงราย ถอยกลับหมดแล้ว ร้านอาหารตามสั่งก็ฉวยโอกาสขึ้นราคาชาวบ้านไม่มีอาหารกิน เงินก็ไม่มี พื้นโรงเรียนที่ฉีดน้ำไว้ ตอนนี้น้ำก็ท่วมอีกแล้ว ดราม่ามั่กมากน้ำตาจะไหล ขอกำลังใจหน่อยอิ๊งค์ สงสารโรงเรียน, สงสารครู,สงสารคนทำงาน ศูนย์ปฏิบัติการบ้าบอรายงานน้ำท่วม 24 ชั่วโมง ทีมอาสาสมัครในพื้นที่ ขอกระสอบทรายไปจะได้กั้นน้ำทะลักเข้าพื้นที่ก็ไม่ได้ ไอ้จะมากรอกทรายเองก็ไม่ทันเสียแล้ว น้ำทะลักท่วมเข้ามาก่อนจนบัดนี้ฝนยังตกไม่หยุดเลย “นังลูกสาวผู้ฉลาดปราดเปรื่อง”ช่วยทีทำอย่างไรได้บ้างที่ความเสียหายจะไม่ซ้ำซาก...
nn ถึงเวลาต้องตัดสินใจเลิกงบปี 2568 มีผลบังคับใช้ตามก.ม.แล้ว ที่เคยสำรอกออกตัวว่า เรื่องความเสียหายจากน้ำท่วมต้องได้รับการดูแลเร่งด่วนก่อนงบกลางที่ตั้งไว้เพื่อใช้ดูแลกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 1.85 แสนล้านบาท เจียดมาเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมก่อน รัฐบาลมากความสามารถในการหาเงินค่อยหาเม็ดเงินมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจหรือหาแนวทางหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่อย่างที่ “บิ๊กบอย /-สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” เสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เคยนำมาใช้เมื่อครั้งสังคมไทยประสบภัยเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระบาด แต่เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลสร้างรายได้กว่า 800,000 ล้านบาทมาแล้วยอมให้หน้าเป็น “มิชลิน” เพื่อสังคมไทยเพื่อประชาชนคนไทย ไม่ได้เชียวหรือ???...
nn “คนละครึ่ง, เราเที่ยวด้วยกัน” ถึงจะผุดออกมาจากผู้บริหารประเทศที่จนปัญญา จนเอาเงินมาแจกประชาชนอย่างที่ “นักโทษเด็ดขาดชายคดีทุจริตคอร์รัปชั่น โกงบ้านกินเมือง ฉ้อฉลเงินแผ่นดิน – ทักษิณ ชินวัตร” สำรอกค่อนขอด “รัฐบาลลุงตู่ /- พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา” ดัน 2 นโยบาย “คนละครึ่ง กับเราเที่ยวด้วยกัน”ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ ประชาชนชอบอกชอบใจเรียกร้องให้รัฐบาลขยายเพส 2 - 3 - 4 ใช้เงินกันสนุกสนานกล้ากินกล้าใช้กล้าเที่ยว ประชาชนจ่ายครึ่งรัฐบาลจ่ายสมทบครึ่ง ชิลๆ ทุกฝ่ายทั้งผู้บริโภค,ผู้จำหน่ายสินค้า, ผู้ผลิตสินค้า, เกษตรกรชาวไร่ชาวสวนผู้ผลิตวัตถุดิบ ... ผู้ผลิตมีออเดอร์ แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมนั้นๆ ก็มีงานมีรายได้ ก็มีอำนาจในการซื้อสินค้า เงินหมุนกลับมาที่จุดเริ่มต้นที่รัฐบาลเรียกว่า พายุหมุนใช่หรือไม่?? “พ่อจุ้นจ้าน – นังลูกสาว” เข้าใจหรือยังว่าผู้บริหารจนปัญญา, ปัญญาอ่อน กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรเกิดประโยชน์กับสังคมไทย...
nn เราเที่ยวด้วยกัน ในภาพรวมสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 26,127,800,000 บาท ตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการ ครม.สืบสันดานทราบหรือไม่โครงการนี้เพิ่มรายได้แก่ผู้ประกอบการโรงแรม,สายการบิน,ร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยวได้มากกว่า 7.51แสนล้าน บาทตามรายงานของ “สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” (สภาพัฒน์)...
nn ทิ้งท้าย ฉบับนี้ คงไม่ช้าจนเกินไปหาก “ไม้หน้าสาม”จะขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเด็กนักเรียนและคณะครูโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ตำบลลานสัก อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ที่เดินทางไปทัศนศึกษาที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ส่วนกลางใน “โครงการศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานศึกษา” แต่ประสบอุบัติเหตุ เป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่มีนักเรียนและครูเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก “ไม้หน้าสาม” ขออธิษฐานให้น้องนักเรียนผู้ประสบเคราะห์กรรมทั้งหลายไปเกิดเป็น “นางฟ้า/เทวดาน้อย”เป็น “นางฟ้า / เทวดา” บนสรวงสวรรค์ด้วยเทอญ...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี