เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลที่ความนิยมตกต่ำเพราะความล้มเหลวครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ปล่อยให้ฮามาสบุกถล่มตอนใต้ของอิสราเอลสังหารผู้คนไปกว่า 1,000 ศพเมื่อ 7 ตุลาคม 2566 ถือเป็นวันแห่งความตายของชาติที่มีหน่วยข่าวกรองหน่วยที่ดีที่สุดในโลก
นายกรัฐมนตรีขวาสุดขั้วผู้แข็งกร้าวไม่สามารถกอบกู้ความนิยมขึ้นมาได้จากการทำสงครามกับฮามาสที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาสังหารปาเลสไตน์ไปกว่าสี่หมื่นคน แต่น่าประหลาดใจที่ความนิยมของนายกรัฐมนตรี ผู้ดื้อรั้นก้าวร้าว ไม่ฟังใคร กลับมีความนิยมพุ่งสูงขึ้นมาอย่างมีนัย จากแรงส่งของสงครามทำลายฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน เพียงหนึ่งสัปดาห์ ที่กองทัพอิสราเอล สามารถทำให้ศัตรูคู่แค้นยาวนานไม่อาจหนีพ้นการล่าสังหารอันโหดร้ายไปได้
จากการสำรวจความนิยมครั้งใหม่โพลล์ในอิสราเอลระบุว่าคะแนนนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีและพรรคลิคุดของเขาพุ่งสูงขึ้น ผลสำรวจความนิยมของทีวีช่อง 12 ซึ่งเปิดเผย เมื่อคืนวันอาทิตย์ 29 กันยายน บ่งชี้ว่า พรรคลิคุดของนายกรัฐมนตรีจะชนะเลือกตั้งได้ สส.เข้าสภามากกว่าพรรคอื่นๆทั้งหมด หากมีเลือกตั้งหลังสงครามยาวนานผ่านไปทีวีช่อง 12 เปิดเผยด้วยว่า ผู้ตอบคำถาม 38% ยังอยากให้เนทันยาฮู เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปมากกว่านาย Yair Lapid ผู้นำฝ่ายค้านสายกลางที่คะแนนตามมาเพียง 27%
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การเมืองกล่าวว่าชาวอิสราเอลจำนวนมากยังคิดว่าสถานะนักการเมืองขึ้นอยู่กับสงคราม หลายด้านซึ่งกำลังอยู่ในขั้นวิกฤตซึ่งอิสราเอลบอกเป็นนัยว่า จะรุกรานเลบานอนทางชายแดน ที่ทำให้ชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนกังวลว่าจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่ เป้าหมายของอิสราเอลอยู่ตรงจุดไหน? ทำลายโครงสร้างพื้นฐานฮิซบอลเลาะห์ หรือทำให้เลบานอนกลายเป็นกาซาที่สอง
ชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนทางภาคเหนือยังไม่รู้ว่าจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่ หนึ่งในกว่า 60,000 คน ที่อพยพหนีภัยสงครามทางภาคเหนือมาหลบภัยในกรุงเทลอาวีฟ วิเคราะห์ให้แนวหน้าฟังว่า อิสราเอลคงได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา จึงสามารถทำให้ ฮิซบอลเลาะห์เพลี่ยงพล้ำครั้งใหญ่ และ อิหร่านผู้สนับสนุนกองกำลังต่อต้านอิสราเอล ก็ไม่พร้อมทำสงครามใหญ่ เพราะตระหนักว่าศัตรูตัวฉกาจ คือ สหรัฐที่ใช้อิสราเอลออกหน้า
“โดยการสนับสนุนอย่างจริงจังจากสหรัฐทำให้อิสราเอลเหิมเกริมว่า มีอำนาจทางทหารเหนือกว่าใครในภูมิภาคนี้..มีทหารอเมริกันอยู่ตะวันออกกลางกว่าสี่หมื่นนายไม่นับรวมเรือรบสิบลำอยู่บริเวณนั้น และมีรายงานว่า ทหารอเมริกันนับหมื่นคน พร้อมเคลื่อนมาในภูมิภาคนี้ทันทีหากสงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านเกิดขึ้น” แหล่งข่าวกล่าว และเสริมว่า ใครจะรู้ได้ว่าขีปนาวุธที่ถล่มเลบานอน ซีเรีย และเยเมน มาจากกองทัพอิสราเอลทุกนัดหรือไม่
แหล่งข่าวผู้เกาะติดสงครามมากว่าครึ่งศตวรรษ เชื่อว่าอเมริกันมีส่วนสำคัญในการทำลายฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ตั้งแต่การระเบิดเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารเมื่อวันที่ 17 และ 18 กันยายน และตามมาด้วยยิงถล่มอาคารแปดชั้นชานกรุงเบรุตสังหาร อิบราฮิมอากิล พร้อมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง 14 คนในหน่วยงานระดับอีลีทของฮิซบอลเลาะห์
“หลายฝ่ายเชื่อว่าอิสราเอลต้องได้รับการสนับสนุนทางตรงและทางอ้อมจากสหรัฐถึงแทรกซึมเข้าไปในไข่แดงของศัตรูได้”แหล่งข่าวกล่าวและเสริมว่า อิสราเอลปฏิบัติการสังหาร ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในตะวันออกกลางลงได้ต้องได้รับการสนับสนุนและเตรียมการล่วงหน้าร่วมกับพันธมิตรใกล้ชิดมาอย่างยาวนาน อิสราเอลถึงได้สังหารศัตรูตัวฉกาจหนึ่งวัน ก่อนเนทันยาฮูไปรายงานวอชิงตันถึงผลงานชิ้นโบแดง
กองทัพอิสราเอล เปิดเผยว่า ปฏิบัติการสังหารผู้นำสูงสุดของฮิซบอลเลาะห์ และผู้บัญชาการระดับสูงในกำลังต่อต้าน กองทัพอากาศใช้เครื่องบินรบ F-15I จำนวน 8 ลำ จากฝูงบินที่ 69 บินขึ้น เพื่อทำภารกิจ โดยติดตั้งระเบิด GBU-31 ซึ่งเป็นระเบิดเจาะบังเกอร์ที่ใช้หัวรบ BLU-109 ขนาด 2,000 ปอนด์ หรือ1 ตัน และติดตั้งชุดนำวิถีด้วยดาวเทียมแบบJDAM เพื่อให้นักบินสามารถระบุพิกัดเป้าหมายให้ระเบิดร่อนเข้าสู่เป้าหมายโดยใช้สัญญาณดาวเทียม GPS เป็นตัวนำทาง
มีรายงานว่าอิสราเอลใช้ระเบิดถึง 80 ลูกในปฏิบัติการ ซึ่งคำนวณแล้วน่าจะเป็นดินระเบิดที่หนักกว่า 100 ตันในภารกิจเดียว ถือว่าเป็นภารกิจทิ้งระเบิดที่ใช้ระเบิดจำนวนมาก แต่สามารถทิ้งลงได้อย่างแม่นยำ หากไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างใกล้ชิดจากพันธมิตรที่เหมือนน้องร่วมท้องคลานตามหลังกันออกมา อิสราเอลไม่สามารถทำลายฮิซบอลเลาะห์ได้ย่อยยับขนาดนี้ ที่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารถูกทำลายเกือบหมดในเวลาเพียงสองอาทิตย์นอกจากนั้นผู้นำระดับบัญชาการฮิซบอลเลาะห์ เกือบทั้งหมดถูกอิสราเอลลอบสังหารในห้วงเวลาเพียงสามเดือน
นักข่าวชาวเลบานอน อิบราฮิม เบย์รัมวิเคราะห์ว่า ในช่วงเวลาเกือบสี่ทศวรรษ ไม่คาดคิดเลยว่า คนอย่างนัสรัลเลาะห์ จะขึ้นมามีบทบาทสำคัญต่อการต่อกรกับอิสราเอล และอาจจะ “ใช้เวลานานมากกว่าที่จะมีใครที่มีบุคลิกภาพอันโดดเด่นขึ้นมาเทียบชั้นกับนัสรัลเลาะห์ได้” เขาบอกว่า นัสรัลเลาะห์ เป็น “ผู้นำและผู้พิทักษ์ที่น่าทึ่งที่หลอมรวมพรรคเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งในทางการเมืองและทางการทหาร”
แหล่งข่าวผู้ลี้ภัยจากเมืองไฮฟาถึงได้ประเมินว่าอิหร่านไม่พร้อมกระทำสงครามใหญ่กับอิสราเอล เพราะเตหะรานตระหนักดีว่า อิสราเอลมีศักยภาพในการตอบโต้ทำลายล้างร้ายแรงมาก ดังนั้น เพียงแต่อิหร่านขู่ว่าจะแก้แค้นให้ฮิซบอลเลาะห์ก็ประสบความสำเร็จในการทำร้ายอิสราเอลระดับหนึ่งแล้ว “ตัวอย่างง่ายๆคนวัยทำงานหลายหมื่นคนถูกเรียกไปเป็นกำลังสำรองเที่ยวบินนับร้อยเที่ยวยกเลิกไม่บินเข้า-ออกและบินผ่านน่านฟ้าอิสราเอล”
เนทันยาฮู ผู้ก้าวร้าวนอกจากความนิยมกระเตื้องขึ้น จากการทำลายองค์ประกอบสำคัญฮิซบอลเลาะห์ลงได้แล้วยังโชคดีที่ได้คู่ปรับทางการเมืองมาร่วมรัฐบาลช่วยให้เขาลดแรงเสียดทานจากพรรคร่วมรัฐบาลคลั่งจารีตที่เนทันยาฮูต้องพึ่งพาลงได้
ทีวีช่อง 12 รายงานว่า กิเดโอน ซาร์คู่ปรับทางการเมืองคนสำคัญของ เนทันยาฮู ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้นายกรัฐมนตรี ดังที่เนทันยาฮูแถลงว่า “เราจะเคียงบ่าเคียงไหล่ทำงานร่วมกันและผมตั้งใจขอความช่วยเหลือจากเขาในการประชุมที่มีอิทธิพลต่อการทำสงคราม”เนทันยาฮูกล่าว
ทีวีรายงานว่า ซาร์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรี ที่ไม่ได้ประจำกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง แต่มีที่นั่งในคณะรัฐมนตรีความมั่นคง ซึ่งดูแลบริหารจัดการศัตรูอิสราเอลในภูมิภาค
การร่วมรัฐบาล โดยมี สส.สี่คนจากพรรค New Hope ของเขาทำให้รัฐบาลมีเสียงข้างมากเป็น 68 ที่นั่ง ในสภา 120 ที่นั่ง สำหรับ เนทันยาฮู องค์ประกอบใหม่ของรัฐบาล ได้ลดทอนอำนาจของ Ben Gvir รัฐมนตรีความมั่นคง จากปีกขวาสุดโต่ง ที่ขู่จะล้มรัฐบาล หากตกลงยุติสงครามในกาซาเพื่อแลกกับพาตัวประกันกลับบ้านหรือ ตกลงหยุดยิงถาวรกับ ฮิซบอลเลาะห์แต่บัดนี้แรงกดดันการขู่รัฐบาลอาจน้อยลงเพราะองค์ประกอบใหม่ทำให้รัฐบาลอยู่ได้ถึงแม้ว่าหกเสียงจากพรรคพลังยิวถอนตัวออกไป ทำให้เนทันยาฮูปรับยุทธศาสตร์ใหม่ได้คล่องตัวขึ้น
กิเดโอน ซาร์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในพรรคลิคุด เขาเป็นคู่ปรับที่เคยวิจารณ์ว่า เนทันยาฮูไม่ควรเป็นนายกฯ ต่อไป ในเมื่อเขาต้องต่อสู้คดีคอร์รัปชั่นในศาล แต่วันนี้ซาร์ อ้างว่า เข้าร่วมรัฐบาลในฐานะคนรักชาติเพื่อแสดงความเป็นเอกภาพในภาวะสงคราม อย่างไรก็ตาม เขาถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นคนสับปลับทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง
การตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลของซาร์ ได้สร้างความขมขื่นให้แก่ชาวอิสราเอลจำนวนมากที่คิดว่า เนทันยาฮูต้องพ้นจากตำแหน่งได้แล้ว เพราะไม่เพียงแต่เขาถูกดำเนินคดีอาญา ในข้อหาคอร์รัปชั่นมากที่สุดในฐานะนายกรัฐมนตรี เขายังเป็นคนสับปลับมากที่สุด เท่าที่อิสราเอลมีนายกรัฐมนตรีมา Yedioth Ahronoth จากหนังสือพิมพ์ ซิมา คัดมอน กล่าวว่า พฤติกรรมของเขา มักสร้างเสถียรภาพ และส่งเสริมรัฐบาลในทางเลวร้ายที่สุด แน่นอน มีเสียงเพิ่มขึ้นช่วยลดความท้าทายที่อิสราเอลเผชิญกับรัฐบาลขวาสุดโต่งได้
แต่อย่างไรก็ตามภาพบุรุษแห่งความมั่นคงของเนทันยาฮูได้ถูกทำลายยับเยินตั้งแต่วันที่ฮามาสสร้างความประหลาดใจให้กับประเทศที่มีข่าวกรองดีที่สุด แต่ฮามาสใช้เวลาสังหารนานหลายชั่วโมงก่อนอิสราเอลตอบโต้ จึงสงสัยว่าเขามีความนิยมเพิ่มขึ้นตอนไหนเธอสรุปในบทความวิจารณ์เนทันยาฮู
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี