โศกนาฏกรรมรถบัสนำนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งจากอุทัยธานีไปทัศนศึกษา แล้วประสบเหตุเพลิงไหม้รถบัสทั้งคัน ทำให้นักเรียนและครูเสียชีวิตรวมกว่า 20 ศพโศกนาฏกรรมนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณเที่ยงวันของวันที่ 1 ตุลาคม 2567 บนถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้กับอนุสรณ์สถานแห่งชาติ
ขอถามคุณๆ ว่า คุณคิดว่าคนไทยจะได้รับทราบมูลเหตุแท้จริงของโศกนาฏกรรมนี้หรือไม่ หรือคุณคิดว่าเรื่องนี้จะเงียบหายไปในอีกไม่ช้า ซึ่งก็ไม่ต่างไปจากโศกนาฏกรรมอื่นๆ อีกมากหลายที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินไทย ซึ่งเกิดมาแล้วก็เงียบหายไป แล้วก็รอวันเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำๆ ซากๆ ในวันข้างหน้า
หลายต่อหลายเหตุโศกนาฏกรรมที่เกิดในสังคมไทยไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าต้นเหตุแท้จริงเกิดมาจากอะไร เพราะไม่มีการชี้แจงมูลเหตุของโศกนาฏกรรมต่อสาธารณะ เพราะฉะนั้น เมืองไทยจึงเกิดโศกนาฏกรรมในรูปแบบต่างๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ราวกับว่าเป็นสังคมที่ไม่เคยมีบทเรียนใดๆ จากโศกนาฏกรรม
หลายคนยังจดจำได้ดีว่าเกิดเหตุโศกนาฏกรรมเหล่านี้ในประเทศไทย เช่น ไฟไหม้โรงงานตุ๊กตาเคเดอร์ ปี 2536 มีคนตายในเหตุการณ์นั้น 188 ศพ และในปีเดียวกันนั้นก็เกิดเหตุตึกถล่มที่นครราชสีมา ทำให้มีคนตาย137 ศพ แล้วหลังจากนั้นจวบจนปัจจุบันประเทศก็ยังคงมีโศกนาฏกรรมไฟไหม้สถานบันเทิงอีกหลายแห่ง เช่นซานติกาผับ และ Mountain B และอีกสารพัดผับในหลายต่อหลายจังหวัด
และยังมีโศกนาฏกรรมอันเกิดจากอุบัติเหตุทางบกและทางน้ำหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งเกิดแล้วก็ดูเสมือนว่าแล้วกันไป เกิดแล้วก็เกิดอีก ราวกับว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาของสังคมไทยไปเสียแล้ว และทุกครั้งที่เกิดโศกนาฏกรรมต่างๆ นานา ก็พบว่าไม่มีการลงโทษผู้กระทำผิดอย่างจริงๆ จังๆ แต่ที่น่าสังเกตยิ่งกว่าคือข้าราชการและรัฐมนตรีที่อยู่ในกระทรวงและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของสถานที่เกิดโศกนาฏกรรม หรือบนยวดยานที่เกิดโศกนาฏกรรมก็ยังคงลอยหน้าอยู่ดีมีสุขบนตำแหน่งเหมือนเดิม ไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ ไม่มีการไล่เลียงนำตัวผู้กระทำผิดไปลงโทษอย่างจริงๆ จังๆ
โศกนาฏกรรมบนท้องถนนครั้งล่าสุดในประเทศไทย เกิดขึ้นเมื่อเวลาช่วงประมาณเที่ยงวัน วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม2567 ก็คงจะไม่ใช่โศกนาฏกรรมครั้งสุดท้ายของประเทศไทย เพราะไม่ช้าก็เร็วก็จะเกิดโศกนาฏกรรมทำนองนี้ขึ้นอีก ตราบเท่าที่เจ้าของรถบัสรับส่งคนยังดัดแปลงสภาพรถของตนเองให้ผิดกฎหมายอย่างอิสระเสรี โดยไร้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเข้มงวดกวดขันและตรวจสอบ
ข้อมูลที่ปรากฏในสื่อมวลชนหลายสำนักระบุตรงกันว่ารถบัสคันที่เกิดเหตุติดตั้งถังบรรจุแก๊สสำหรับเป็นเชื้อเพลิงของรถยนต์มากถึง 11 ถัง แต่มี 5 ถังติดตั้งโดยไม่ถูกกฎหมาย ถามว่าจะมีแค่เพียงรถบัสคันที่เกิดโศกนาฏกรรมครั้งล่าสุดเพียงคันเดียวเท่านั้นหรือที่ติดตั้งถังบรรจุแก๊สโดยไม่ถูกกฎหมาย แน่ใจหรือว่าไม่มีรถบัส รถบรรทุก และรถอื่นๆ ทำผิดกฎหมายในลักษณะเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน ถามต่อไปว่า กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร กรมการขนส่งทางบกทำงานโดยเข้มงวดกวดขันตามมาตรฐานความปลอดภัยจริงๆ หรือ ถามต่อไปว่าเมื่อรถบัสคันที่เกิดเหตุไปตรวจสภาพเพื่อต่อทะเบียนรถยนต์ ทำไมจึงสามารถต่อทะเบียนได้
เมืองไทยมีโศกนาฏกรรมโป๊ะรอเรือข้ามฟากแม่น้ำต่างๆ ล่มเป็นระยะ เกิดแล้วเกิดอีก เกิดซ้ำเกิดซาก และมีปัญหาตึกเอียง ตึกถล่ม ตึกทรุดเกิดขึ้นเป็นประจำอีก
เช่นกัน การที่ปัญหาเหล่านี้เกิดแล้วเกิดอีกเกิดบ่อยๆ แสดงว่าบ้านเมืองนี้ต้องมีปัญหาการบังคับใช้กฎหมายเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนปัญหาอุบัติเหตุใหญ่ๆ ต่างๆ นานาสารพัดที่เป็นต้นเหตุทำให้คนล้มตายทีละมากๆ ก็เกิดขึ้นเป็นประจำเช่นกัน แต่ไม่เคยเห็นหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันอุบัติภัยเหล่านั้นจะสามารถป้องกันปัญหาได้อย่างจริงจัง เพราะปัญหาเดิมๆ ยังคงเกิดขึ้นแบบซ้ำๆ เป็นประจำ เมื่อเกิดปัญหาแต่ละครั้ง ก็หยิบปัญหานั้นมาพูดกันทีหนึ่ง เมื่อระยะเวลาผ่านเลยไปไม่นาน ก็ไม่หาแนวทางแก้ปัญหานั้นให้ลุล่วงหมดสิ้นไป จนกระทั่งเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมาอีก ก็พูดกันอีกครั้งหนึ่ง
เราน่าจะต้องมาทำสถิติให้สาธารณชนได้รับรู้กันชัดๆ ว่านักการเมืองหน้าไหน ชื่ออะไร จากพรรคไหนบ้างที่เป็นเจ้าของสถิติการเกิดโศกนาฏกรรมบ่อยๆ ซ้ำซาก แล้วก็ต้องดูต่อไปด้วยว่าการเกิดโศกนาฏกรรมแต่ละครั้งนั้น หน่วยงานใดของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง แต่ทำงานได้แสนเลวทราม ไร้ประสิทธิภาพ
เห็นทีว่าสาธารณชนจำเป็นต้องสร้างกลไกหรือมาตรการขึ้นมาเพื่อเอาผิดทางกฎหมายขั้นเด็ดขาดกับรัฐมนตรีที่ปล่อยให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำซาก ดีกว่าปล่อยให้รัฐมนตรีไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ เมื่อเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นบนแผ่นดินไทย มาตรการนี้น่าจะช่วยล้อมคอกเพื่อป้องกันวัวหายครั้งต่อไปได้อย่างเป็นรูปธรรม คุณๆ เห็นด้วยกับมาตรการเอาผิดทางกฎหมายกับรัฐมนตรีหรือไม่ หากเห็นด้วย เรามาช่วยกันกดดันให้เกิดมาตรการลงโทษรัฐมนตรีที่ปล่อยให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำซากด้วยกันเถอะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี