เหตุการณ์โศกสลดจากการที่รถบัสนำเด็กไปทัศนศึกษายางระเบิดเกิดเป็นไฟคลอก ทำให้เด็กนักเรียนและครูเสียชีวิต 23 ศพ เป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญและวิปโยคครั้งร้ายแรงอีกครั้งหนึ่งของสังคมไทย ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
ส่วนใหญ่เป็นไปในทางหลงประเด็น เห็นเฉพาะภาพใกล้ตา มองไม่เห็นสาเหตุที่แท้จริงของเรื่องนั่นคือการมองปัญหานี้ว่าเกิดขึ้นจากการที่พาเด็กไปทัศนศึกษา ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดตามมาอีก จึงต้องยกเลิกการจัดทัศนศึกษาทั้งหมดของประเทศไทย
จัดเป็นการมองปัญหาอย่างโง่เขลาเบาปัญญาที่น่าทุเรศทุรังที่สุด แทบไม่น่าเชื่อว่าสังคมไทยของเราจะเกิดกระแสสับสนจนสติปัญญาฟั่นเฟือนไปจนหมดสิ้น เพราะการมองแบบนี้นอกจากปัญหาที่แท้จริงไม่ได้รับการแก้ไขแล้ว กลับจะสร้างปัญหาใหม่ ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยของเรา นั่นคือการทำลายการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนและทำลายเศรษฐกิจของประเทศโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เด็กและเยาวชนเป็นวัยศึกษาหาความรู้ซึ่งจำเป็นต้องมีขอบเขตกว้างไกลออกไปจากโรงเรียน ซึ่งต้องอาศัยการทัศนศึกษา และวิธีการแบบนี้ก็ใช้กันอยู่ทั่วโลก การยกเลิกการทัศนศึกษาจึงเป็นการตัดสิทธิ์ตัดโอกาสของเด็กด้วยความโง่เขลาเบาปัญญาของคนมองแบบนี้
ในขณะที่ต้นรากของปัญหาที่แท้จริงกลับไม่ถูกแตะต้องหรือไม่ได้รับการดูแลแก้ไขเลย ทั้งๆ ที่มีความเสี่ยงมหาศาลดำรงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ควรจะแก้ไขให้ตกไปตั้งนานแล้ว และเหตุการณ์ครั้งนี้ก็จะเป็นการจุดชนวนสำคัญให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างถูกกาลและชอบธรรม
แก่นแกนของปัญหา คือ สภาพที่รถบัสหรือรถขนส่งสาธารณะเกือบทั้งประเทศมีสภาพไม่ต่างกับลูกระเบิดเคลื่อนที่นับหมื่นนับแสนลูกที่วิ่งกันอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ซึ่งจะเกิดเหตุร้ายขึ้นวันไหนใครเล่าจะบอกได้ สภาพเช่นนี้ต่างหากที่ควรได้รับความสนใจดูแลแก้ไขอย่างจริงจัง
เอาตัวอย่างจากรถมรณะคันนี้ก็ได้ เป็นรถบัสขนาดใหญ่ที่ใช้มาแล้วกว่า 50 ปี มีการดัดแปลงสภาพรถจากรถที่เคยใช้น้ำมันมาเป็นรถที่ใช้แก๊ส และติดตั้งถังแก๊สเกินกว่าจำนวนที่จะติดตั้งได้ เพียงเพื่อคิดหาความสะดวกในการที่ไม่ต้องเติมแก๊สบ่อย ข่าวเบื้องต้นระบุว่าสภาพรถแบบนี้มีมาตรฐานให้ติดถังแก๊สได้ 5 ถัง แต่กลับติดถังแก๊สไปถึง 11 ถัง และติดตั้งเกือบทั่วทั้งคันรถ ดังนั้นเพียงแค่แก๊สถังเดียวระเบิดขึ้นก็จะระเบิดต่อเนื่องกันไปและเกิดอันตรายใหญ่หลวงดังที่เกิดเหตุครั้งนี้
การติดตั้งถังแก๊สที่ผิดกฎหมายและเกิดอันตรายลักษณะนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ที่จะต้องจัดการควบคุมดูแลและตรวจสภาพหรือห้ามใช้
นอกจากนั้นสภาพรถเก่ามาก ประตูเปิดเองไม่ได้ทางออกฉุกเฉินก็ไม่มี หน้าต่างรอบคันรถก็เปิดไม่ได้ เหตุนี้เมื่อเกิดเหตุขึ้นผู้โดยสารทั้งหมดจึงถูกกักขังไว้ในตัวรถและเป็นเหตุให้ถูกไฟคลอกตายอย่างทรมานน่าอเนจอนาถยิ่งนัก
สภาพเช่นนี้เกิดขึ้นได้เพราะการคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ตรวจสอบสภาพรถ เพราะมีกฎหมายบังคับเรื่องนี้อย่างชัดแจ้งไว้หลายประการ เช่น เมื่อมีการดัดแปลงสภาพรถก็ต้องขออนุญาตก่อน และต้องดัดแปลงตามสภาพที่ได้รับอนุญาตนั้น ในแต่ละปีก็ต้องมีการตรวจสภาพรถว่ามีความปลอดภัย มีมาตรฐาน สมควรให้ใช้งานได้หรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องเจ้าหน้าที่ก็มีอำนาจที่จะไม่ต่อทะเบียนให้ รถนั้นก็จะวิ่งไม่ได้
แต่ปรากฏว่ารถลักษณะนี้ก็ยังวิ่งกันอยู่ ดังตัวอย่างคือคันที่เกิดเหตุวิปโยคนี้ ซึ่งต้องถูกตั้งคำถามว่ามีการตรวจสภาพรถประจำปีหรือไม่ ถ้าตรวจสภาพรถประจำปี
เหตุไฉนจึงอนุญาตให้รถแบบนี้มาวิ่งอยู่บนถนนได้ ซึ่งสะท้อนอยู่ในตัวว่ามีการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสภาพรถโดยมิชอบ หรืออาจทุจริตก็ได้ จึงทำให้รถที่มีความเสี่ยงอันตราย ผิดกฎหมาย และไม่ได้มาตรฐานออกมาวิ่งให้บริการสาธารณะได้ จนเกิดอันตรายร้ายแรงดังที่ปรากฏขึ้น
รถสภาพเดียวกันนี้ย่อมไม่ได้มีแต่คันที่เกิดเหตุเพียงคันเดียว เพราะขณะนี้ก็มีการกล่าวขวัญกันอย่างกว้างขวางว่า รถดัดแปลงแบบนี้และที่ใช้งานมาจนหมดสภาพแบบนี้ ตลอดจนประตู หน้าต่าง ไม่มีความปลอดภัยแบบนี้ ยังมีวิ่งอยู่บนถนนนับแสนๆ คัน
นึกดูกันเถิดว่าผู้โดยสารทุกคนที่โดยสารรถประเภทนี้จะต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงอันตรายสักเพียงไหน พ่อแม่พี่น้องครอบครัวลูกหลานจะปล่อยให้ผู้คนในครอบครัวไปเสี่ยงอันตรายแบบนี้หรือไม่อย่างไร
มองกันให้ดีก็จะเห็นสภาพตามที่เป็นจริงว่า สภาพของรถแบบนี้ก็ไม่ต่างกับรถบรรทุกระเบิดเพลิงนับแสนๆ คันที่วิ่งกันอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง จะระเบิดขึ้นสักคันในวันไหนและที่ใด ก็เป็นเรื่องที่คนไทยต้องเสี่ยงภัยกันหนักหนา และความเสี่ยงนี้ก็จะเกิดขึ้นกับทุกคนแม้ไม่ใช่ผู้โดยสารก็ตาม
เพราะเมื่อใดที่รถเกิดระเบิดขึ้น ก็อาจส่งผลกระทบต่อบุคคลหรือสถานที่ข้างเคียง เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด ชุมชน หรือที่มีผู้คนหนาแน่น ก็จะเกิดการบาดเจ็บเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก
ถ้ามองให้เห็นตามความเป็นจริงว่า ปัจจุบันเรามีรถบรรทุกระเบิดนับแสนคันวิ่งพล่านอยู่บนถนนจิตใจคนจะหวาดหวั่นขวัญหายสักเพียงไหน ก็นึกกันเอาเอง นี่คือภาระหน้าที่สำคัญของรัฐบาล ของกระทรวงคมนาคม และเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่ทั้งหลายที่จะต้องเร่งรัดจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี