นายกรัฐมนตรีมีหน้าที่สำคัญหลายประการ แต่มีหน้าที่สำคัญประการหนึ่งคือ การรักษาหน้าตา และเกียรติภูมิของประเทศชาติ และประชาชน โดยเฉพาะในยามที่นายกรัฐมนตรีต้องไปทำหน้าที่ตัวแทนประเทศบนเวทีการประชุมนานาชาติ ไม่ว่าจะระดับโลกหรือระดับภูมิภาคก็ตาม
นายกรัฐมนตรีต้องเตรียมตัวให้ดี ทำการบ้านให้ดี และต้องเตรียมสติปัญญา รวมถึงเตรียมการแต่งเนื้อแต่งตัว และดูแลเรื่องกิริยามารยาทของตนให้สมบูรณ์ก่อนไปร่วมการประชุมนานาชาติ หากรู้ตัวว่าไม่มีความพร้อม ไม่มีความสามารถ และไม่มีสติปัญญาเพียงพอกับการไปร่วมประชุมกับผู้นำจากประเทศอื่นๆ แล้ว ก็ไม่ต้องไปประชุม แต่ต้องให้คนที่มีความเหมาะสมมากกว่าไปทำหน้าที่แทน เพราะหากนายกรัฐมนตรีดันทุรังไปร่วมประชุม ทั้งๆ ที่ไม่มีความพร้อม ไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถ และไม่มีสติปัญญา ก็เท่ากับไปฆ่าตัวตายบนเวทีการประชุม และยังเท่ากับไปทำลายความน่าเชื่อถือชื่อเสียง เกียรติภูมิของประเทศให้ย่อยยับต่อหน้าผู้ร่วมประชุมจากนานาชาติ
การที่ผู้นำของประเทศใดก็ตามต้องอ่านข้อความจากเอกสารซึ่งเตรียมไปนำเสนอต่อหน้าผู้ร่วมประชุมระดับสุดยอด (summit meeting) โดยเฉพาะต่อหน้าผู้ร่วมประชุมที่มีสถานะเป็นผู้นำรัฐ ต้องบอกว่าการอ่านเอกสารไม่ใช่เรื่องผิด และจำเป็นต้องมีเอกสารประกอบการปราศรัยในที่ประชุมระดับนานาชาติด้วย เพราะมันคือการให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าผู้เข้าร่วมประชุม แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าต้องก้มหน้าอ่าน แล้วอ่านแบบลวกๆ รนๆ อ่านโดยไม่รู้ความหมายของสิ่งที่กำลังอ่าน อ่านไปโดยไม่มี eyes contact กับผู้ฟัง หรือผู้เข้าร่วมประชุม แถมยังอ่านผิดๆ ถูกๆ ตะกุกตะกักตลอดเวลา (ดังได้พบแล้วว่าแพทองธารอ่าน notebook ในการแถลงข่าวหลังจบการประชุมคณะรัฐมนตรี แล้วพบว่าอ่านผิด)
ต้องบอกตรงๆ ว่าภาพที่แพทองธาร ชินวัตร ไปก้มหน้าอ่านข้อความบน computer notebook ในการประชุม ACD Summit (Asia Cooperation Dialogue Summit) ครั้งที่ 3ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ คือการแสดงให้เห็นชัดเจนว่าแพทองธารไม่ได้เตรียมตัวทำการบ้านให้ดีก่อนเข้าร่วมประชุม
ภาพที่แสนจะประจานตัวนายกรัฐมนตรีไทยมากที่สุดในการหารือทวีภาคีกับประธานาธิบดีอิหร่าน คือการที่แพทองธารก้มหน้าอ่านจอ computer notebook ถามว่าแพทองธารอ่านอะไรจาก notebookเพื่อเจรจากับผู้นำอิหร่าน ความจริงหากแพทองธารอ่านตัวเลขสำคัญเพื่อเป็นข้อมูลของการสนทนาก็ไม่ผิด แต่เท่าที่ได้ยินเสียงจากข่าวที่ได้ดูคือแพทองธารอ่านประโยคที่ไม่มีตัวเลข ถ้าเช่นนั้นถามต่อไปว่าแพทองธารต้องอ้างอิงข้อมูลที่เป็นปี พ.ศ. หรือช่วงเวลาใดๆ ที่จำเป็นต้องบอกตัวเลขชัดเป๊ะในขณะสนทนาหรือ ก็ตอบว่าไม่ใช่เลย
จากข่าวที่ถูกนำเสนอโดยสื่อฯ ของไทยบางสำนัก โดยอ้างอิงข้อมูลจากนิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ทำให้ทราบว่าแพทองธารได้พบปะกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกาตาร์ แล้วไปเข้าเฝ้าเจ้าผู้ครองนครรัฐกาตาร์ และได้พบปะหารือกับประธานาธิบดีทาจิกิสถาน และเข้าเฝ้ามกุฎราชกุมารผู้ทรงเป็นรองเจ้าผู้ครองรัฐคูเวต นั่นหมายความว่าแพทองธารได้พบปะและเข้าเฝ้าบุคคลสำคัญหลายประเทศ แต่คำถามคือแล้วระหว่างที่แพทองธารสนทนากับคู่เจรจาทุกคน แพทองธารก้มหน้าอ่าน notebook หรือไม่ แต่จากภาพที่ปรากฏคือการเจรจาระหว่างแพทองธารกับประธานาธิบดีอิหร่านนั้น ภาพบอกชัดเจนว่าแพทองธารก้มหน้าอ่าน notebook
ขอย้ำว่าเพิ่งเคยเห็นผู้นำรัฐที่เจรจาทวิภาคี แต่ต้องก้มหน้าอ่าน notebook ในขณะที่คู่เจรจาไม่ได้มี note ใดๆ อยู่ในมือ หากคิดว่าการอ่าน notebook ไปพร้อมๆ กับการเจรจาทวิภาคีเป็นเรื่องดีงาม และเป็นมารยาทที่เหมาะสมในการเจรจา
ความเมือง ก็จงเปิดตาดูผู้นำจากทุกประเทศทั่วโลกที่ไปร่วมประชุมระดับนานาชาติ และนัดเจรจาทวิภาคีกับชาติใดชาติหนึ่ง แล้วจงบอกให้ชัดว่าผู้นำประเทศใดบ้างที่มีพฤติกรรมก้มหน้าอ่าน notebook ในระหว่างการเจรจาทวิภาคี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี