เห็นสื่อพาดหัวข่าวว่า “ ‘นายกฯอิ๊งค์'ร่วมเวทีอาเซียน โชว์วิสัยทัศน์ 3 ประเด็นสำคัญ” ทำให้อยากรู้ว่าวิสัยทัศน์ที่“มาดามแพ”ไปโชว์ ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 44 ที่นครหลวงเวียงจันทน์สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมวานนี้ แต่เมื่อฟังแล้วก็คุ้นๆเหมือนไปลอก“วิสัยทัศน์”ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มานำเสนอทั้งดุ้น
การเข้าร่วมประชุมเวทีต่างประเทศครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 2ของ“มาดามแพ” จากครั้งแรกไปประชุมสุดยอดผู้นำ ACD ที่กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ เมื่อวันที่ 3ตุลาคมสัปดาห์ก่อน ก็ตกเป็นข่าวให้ชาวบ้านชาวช่องเขาได้วิพากษ์วิจารณ์กัน..เรื่องที่ต้องท่องโพยจากการก้มหน้าก้มตาอ่านไอแพด จนถูกเรียกขานว่า“มาดามโพยทองธาร”ไปโดยอัตโนมัติ
“มาดามแพ”เผยตัวตนออกมาให้เห็นจากการประชุมที่กรุงโดฮาว่า“ไร้ภาวะผู้นำ” เหมือนมีการนำเด็กฝึกงานมาเป็นผู้นำประเทศ เนื่องจากขาดความรู้ความสามารถและด้อยประสบการณ์ เรียกว่าลำพังแค่การแต่งเนื้อแต่ตัวให้แก่ตนเอง..เธอก็ยังไม่รู้เลยว่า..อย่างไหนดูสวยดูเหมาะสมที่สวมใส่แล้วทำให้เธอดูดีขึ้น ซึ่งเรื่องกาลเทศะนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เหนือขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง สำหรับผู้เป็นนายกรัฐมนตรีที่ควรจะต้องมีวุฒิภาวะในการไตร่ตรองและนึกคิด
อย่างไรก็ตาม จากการประชุมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ สปป.ลาวใครั้งนี้ ภายใต้แนวคิดหลัก“อาเซียน : เพิ่มทวีความเชื่อมโยงและความเข้มแข็งในอาเซียน” (ASEAN: Enhancing Connectivity and Resilience) จากที่เขียนไว้ตอนต้นว่า ฟังวิสัยทัศน์ของ“มาดามแพ”แล้วเหมือนลอกข้อสอบของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาอีกทอดหนึ่ง นึกดูแล้วก็เหมือนตอนข้อสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยรั่วในปี2547 สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยของ“ทักษิณ ชินวัตร” ที่มีชื่อ“คุณหนูอุ๊งอิ๊งค์”ตกเป็นข่าวพาดหัวของสื่อในเวลานั้นด้วย
ประเด็นสำคัญ 3 ประเด็นที่“มาดามแพ”เสนอต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน จากการแสดงวิสัยทัศน์เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมนั้น เน้นเรื่องความยั่งยืนของสมาชิก, ความมั่นคงของมนุษย์และการบูรณาการร่วมกันในระดับภูมิภาค เพื่อเชื่อมโยงประเทศอาเซียนที่แข็งแรงระหว่างกัน อันจะนำไปสู่การกินดีอยู่ดีของประชากรกว่า 700 ล้านคนในภูมิภาคนี้
ด้าน“ความยั่งยืน” “มาดามแพ”กล่าวต่อที่ประชุมจากการอ่านไอแพดอีกเช่นกันว่า..”ประเทศไทยในฐานะผู้ประสานงานอาเซียนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เห็นว่าอาเซียนต้องร่วมกันดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศและความเป็นกลางทางคาร์บอน การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด, การเงินสีเขียวและเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงนวัตกรรมดิจิทัลเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในยุคสมัยใหม่นี้ จะไม่กระทบสิ่งแวดล้อม หรือเกิดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมในภูมิภาค”
ประเด็นที่เกี่ยวกับเรื่อง“ความยั่งยืน”นี้ ลอกข้อสอบมาจากรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชัดเจน ซึ่งเป็นการบ้านที่พล.อ.ประยุทธ์ได้เคยนำเสนอในการประชุมระหว่างประเทศที่ใหญ่กว่าการประชุมระดับอาเซียนมาแล้ว คือ“การประชุมสุดยอดผู้นำเขตเศรฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29” หรือ“APEC 2022 THAILAND” ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2565 ในกรุงเทพฯเมืองหลวงบ้านเรา ภายใต้หัวข้อ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน..สู่สมดุล”
เรื่องความยั่งยืนเกี่ยวกับ“เศรษฐกิจสีเขียว” หรือ “BCG” (Bio-Circular Green Economy Model”ตามที่“มาดามแพ”โชว์วิสัยทัศน์ดังที่ยกมานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเสนอเป็นโมเดลหลักต่อที่ประชุมเอเปค เพื่อต้องการให้เป็นตัวเร่งในการปรับมุมมองและพฤติกรรมไปสู่โมเดลธุรกิจ ที่สามารถสร้างผลกำไรควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม และภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2565 ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคยังได้รับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุม 2 ฉบับได้แก่ “ปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ค.ศ.2022”.. และ“เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจBCG” ซึ่งถือว่าเป็นผลสำเร็จของรัฐบาลไทยในฐานะเจ้าภาพที่จัดการการประชุมครั้งนี้
โดยมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม 3 ประการด้วยกันคือ1.การผลักดันให้เอเปคทบทวนการหารือเรื่องเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิกในบริบทหลังโควิด-19 โดยมีแผนงานการขับเคลื่อนการหารือที่ต่อเนื่องระหว่างปี 2566-2569 เพื่อให้เอเปคสามารถเดินหน้าได้อย่างชัดเจน 2.การฟื้นฟูการเดินทางข้ามพรมแดนที่สะดวกปลอดภัย โดยคณะทำงานเฉพาะกิจที่ไทยเป็นประธาน ได้จัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อให้เอเปคมีกลไกและแนวทางการรับมือกับอุปสรรคต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และ 3.การรับรอง “เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG”ซึ่งเป็นเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนฉบับแรกของเอเปค โดยเน้นเป้าหมายหลัก 4 ข้อได้แก่ การจัดการกับปัญหาสภาพภูมิอากาศ, การค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน,การบริหารจัดการทรัพยากรยั่งยืน และการลดและจัดการของเสียอย่างยั่งยืน
ที่ยกมานี้เป็นเพียงแค่ประเด็นแรกที่“มาดามแพ”ลอกการบ้านรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาโชว์วิสัยทัศน์ในเวทีประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ส่วนอีก 2ประเด็นที่“มาดามแพ”กล่าวถึงก็คือ เรื่อง“ความมั่นคงของมนุษย์” และ“การบูรณาการระดับภูมิภาคที่ลึกซึ้ง” ซึ่งสองประเด็นนี้ก็เป็นการลอกข้อสอบอันเป็นการบ้านที่พล.อ.ประยุทธ์ ทำไว้แล้วทั้งสิ้น
ยกให้เห็นภาพเล็กน้อยเกี่ยวกับ“ความมั่นคงของมนุษย์”ที่“มาดามแพ”ได้โชว์วิสัยทัศน์แบบลอกการบ้านมาอ่านและเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ซึ่ง“มาดามแพ”กล่าวว่า “อาเซียนต้องทำงานร่วมกันในการต่อสู้กับทุกวิกฤต เพื่อให้ประชาชนมีอาหาร, พลังงานและสิ่งจำเป็นพื้นฐาน และควรส่งเสริมการเกษตรอัจฉริยะไปพร้อมๆ กับเกษตรยั่งยืนเพื่อวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับผลผลิตและความมั่นคงทางอาหารในระยะยาวของภูมิภาค นอกจากนี้จะต้องเร่งเสริมสร้างกรอบการทำงานของอาเซียนในด้านพลังงาน เช่นการเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้าของอาเซียน เพื่อการยืดหยุ่นด้านพลังงานในภูมิภาค”
ประเด็นนี้ ไม่เพียงแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะนำเสนอต่อที่ประชุม“สุดยอดผู้นำเขตเศรฐกิจเอเปค”ในปี 2565 เท่านั้น หากแต่ภายใต้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่พรรคเพื่อไทยทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และ“มาดามแพ”ตลอดจนนักการเมืองของพรรคเพื่อไทย กล่าวโจมตีและด้อยค่ามาตลอด..ตั้งแต่ครั้งหาเสียงเลือกตั้งจนกระทั่งมาเป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ว่า“8 ปีไม่มีอะไร”นั้น..รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ได้ทำและปูทางมาแล้วทั้งสิ้นอีกเช่นกัน
เพราะเรื่องของ“BBC”นั้น รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาตระหนักเห็นว่า เป็นเรื่องของโลกในยุคปัจจุบันที่จะก้าวไปสู่โลกแห่งอนาคตที่งดงามอย่าง“สมดุล-มั่นคง-ยั่งยืน” อันเป็นโมเดลของการพัฒนา“เศรษฐกิจใหม่สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ด้วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy), เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy)
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ หากคนทั่วไปเขารู้ว่า..วิสัยทัศน์ที่“มาดามแพ”นำเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งนี้ ไม่ใช่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย“คิดใหญ่-ทำเป็น” แต่เป็นวิสัยทัศน์ที่ลอกข้อสอบรัฐบาล“พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา”มาส่ง“ครู” รับรองขายขี้หน้าไปทั้งสามโลก
เข้าสำนวนไทยที่ว่า“เกลียดตัวกินไข่-เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง”อะไรทำนองนั้น !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี