ความจริง คืออะไร?
ปางชื่อดัง อ้างว่าเลี้ยงแบบไม่ใช้ตะขอ ไม่ใช้โซ่ หากินกับเงินบริจาค และต่างชาติที่แอนตี้การเลี้ยงช้างแบบที่มีควาญใช้ตะขอและโซ่ ฝึกช้างให้ถูกควบคุม
เมื่อน้ำท่วมที่แม่แตง ปางช้างแห่งนี้ มีช้างตาย 2 เชือก (ที่อื่นรอดหมด)
ทำไม จึงไม่ย้ายช้างหนีน้ำได้เหมือนปางอื่นๆ ?
ความจริงที่บรรดาควาญช้าง สัตวแพทย์ ทีมคชบาลจากที่อื่นๆ เข้าไปช่วยในนาทีวิกฤต แล้วพบเห็นอะไร?
1. จากเดิม ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง สรุปเป็น “บันทึกเตือนความจำ” ระบุข้อมูลความจริงที่พบเห็นไว้ว่า
“...เบื้องต้นรับทราบมาว่า ให้ช่วยเคลื่อนย้ายและดูแลช้างเพศผู้ที่ยังอยู่ในคอกแต่ไม่สามารถออกมาได้ ในขณะที่ระดับน้ำกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
คณะทำงานถูกตามตัว รวมทีมและประชุมอย่างเร่งด่วน และออกเดินทางในช่วงสายของวันนั้น
เมื่อแรกไปถึง พบว่า เส้นทางเข้าถึงปางช้างถูกตัดขาด ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราด
การติดต่อด้วยโทรศัพท์ไม่สามารถทำได้ ต้องสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสารคลื่นสั้นเท่านั้น
คณะจึงต้องรอจนถึงบ่ายแก่ๆ จึงได้เรือจากหน่วยกู้ภัย จ.กาฬสินธุ์ ข้ามน้ำเพื่อไปดูช้างตัวผู้ในคอกต่างๆ เพื่อประเมินสถานการณ์
เราพบว่า ช้างตัวผู้ยังอยู่ครบทั้งสิบเชือก ในสภาพที่ช้างลอยคออยู่ภายในคอก
แต่ที่แปลกใจ คือ ยังมีช้างตัวเมียอีกหลายสิบเชือกติดค้างอยู่ในคอกด้วย
บ้างก็พิการขาเป๋ ตาบอด
และยังทราบอีกว่า ช้างอีกหลายเชือกได้สูญหายลอยไปกับน้ำด้วย เมื่อช่วงก่อนหน้า
ซึ่งต่อมาพบซากของช้างฟ้าใส(วันเฉลิม)และพลอยทอง เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสีย...”
2. ข้อมูลของคุณภัทร ซึ่งเข้าไปช่วยหน้างานด้วยกลุ่มแรกๆ
บอกเล่ากับเพื่อน คือ คุณ Panprapa Tantivithayapitak แล้วนำมาเผยแพร่ต่อ
เนื้อหาเปิดเผยความจริงที่น่าตกใจ บางตอน ระบุว่า
“...From first hand information ที่ตอนนั้นภัทรบอกว่า off record แต่ตอนนี้ไม่ off แล้ว
คือ เรื่องช้างตัวผู้ ถูกขังอยู่ในคอก เพราะมีนิสัยดุร้าย
เจ้าของช้างบอกให้เอาช้างตัวอื่นออกมาก่อน ตัวดุๆเป็น last priority
ถ้าช่วยไม่ได้ก็ let go
สรุปเป็นไทย คือ ปล่อยไปตามยถากรรม
ภัทรเล่าต่อ “หมดแรงกับคำพูดนี้ พวกเราที่เข้าไปช่วยเพราะมัน crisis แล้ว ช้างกำลังจะจมน้ำ ทุกคนเลี้ยงช้าง เรารักช้าง เราพร้อมใจช่วยเต็มที่ หน้างานคืออันตรายมาก ทุกชีวิตมีค่า เราต้องดูทั้งคน ทั้งช้าง ต้องปลอดภัย ช้างที่ติดอยู่ในคอกมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิต แต่เจ้าของช้างพูดแบบนี้”
เราฟังแล้วเหมือนเจ้าของเลือกให้ใครอยู่ เลือกให้ใครไป?? เราเครียดหนัก
“ควาญต้องดำน้ำลงไปเปิดประตูคอก พี่คิดดูนะ… มันไม่ใช่แค่ลึก ไม่ใช่แค่น้ำมาแรง มันเปิดประตูยากมากเพราะติดโคลน เราทำงานแข่งกับเวลา ต้องช่วยให้มากที่สุด”
“ตอนนี้ที่นอนไม่หลับคือคิดว่าจะช่วยช้างตัวผู้ยังไง ช้างที่นี่ไม่เคยฝึก ไม่มีควาญแบบหนึ่งต่อหนึ่ง มันยากตรงนี้ล่ะ แต่พวกเค้าก็มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตรอด คืนนี้ได้แต่ภาวนาให้ฝนหยุด เพราะถ้าตกมาอีก น้ำป่ามาเพิ่ม ช้างจะจมน้ำ”
ภัทรชวนเราคิด “ช้างเค้าว่ายน้ำได้ แต่คิดดูนะ situation ตอนนี้คือเค้าไม่ได้ว่ายน้ำ เค้าลอยอยู่ในน้ำ วันแรกแรงดี ลอยได้ดี แต่การอยู่ในน้ำ 24 hrs. มันไม่ปกติ วันที่ 2 แรงจะลดลงเรื่อยๆ”
เราฟังแล้วคิดตาม พร้อมมีคำถาม
“ทำไมเค้าไม่ย้ายช้างออกก่อนที่จะ crisis??”
ภัทร… “อันนี้พี่ไม่ต้องถาม เพราะทุกคนถามเหมือนพี่!!!”
ทั้งหมดนี้ คือ ที่เราคุยกับภัทรคืนวันศุกร์ ซึ่งดูเวลาจริงๆ คือตี 2 ของเช้าวันเสาร์
เช้าวันเสาร์ เราลุ้นขอให้ฝนหยุด โชคดีที่ฝนหยุดจริงๆ
ช้างตัวผู้ในคอก still alive
แต่เสียฟ้าใส & พลอยทองไป
แล้วก็ตามมาด้วยดราม่าเรื่องช้างอีกมากมาย ราวกับจะแบ่งข้างเล่นกีฬาสี
ในทีมที่เข้าไป rescue ช้าง ภัทร communicate ได้ดีที่สุดกับเจ้าของปางที่เป็นต่างชาติ เค้า brief พร้อมส่งชื่อช้างที่เขียนด่วนๆ บนกระดาษกล่องข้าวให้ภัทร
เราอ่านที่ภัทรเขียนใน fb ดูรายชื่อทั้งหมดแล้วปาดน้ำตา เมื่อเห็นชื่อ “พลอยทอง”
เราเพิ่งรู้ว่าพลอยทอง คือ ช้างตาบอดที่วิ่งตามมาแล้วติดไม้ที่ขวางกั้น ตอนที่ดู clip นั้นเราคิดว่าเค้ารอดแน่นอน
เกิดคำถามมากมายจนเราต้องโทรหาภัทรอีกรอบ
“ภัทร..เกิดอะไรขึ้นกับพลอยทอง เค้าวิ่งตามเพื่อน 3 ตัวมา แล้วทำไมเค้าถึงจมน้ำ?”
“ใครถ่าย clip?? ทำไมไม่เข้าไปช่วยพลอยทอง??”
“แบบนี้คืออะไร?? พี่ไม่เข้าใจ”
เอาเป็นว่าเราปาดน้ำตาไปถามไป จริงๆ คือปากสั่นด้วย to be honest
ตอนที่จิ้มเขียนนี้ก็น้ำตาไหลนะ พอรู้ว่าช้างใน clip คือพลอยทอง สงสารจับใจจริงๆ
ภัทรอธิบายแบบ clear clear
“clip ที่พี่เอื้อยเห็น คือ วันพฤหัส ดูน้ำใน clip นะ ช้างยังวิ่งได้ พวกเรายังไม่มีใครเข้าไปที่ปางนี้
มีประกาศเรื่องน้ำตั้งแต่วันจันทร์ ปางอื่นเอาช้างออกนอกพื้นที่กันหมดแล้ว
วันศุกร์มัน crisis น้ำมาแรง น้ำมาเยอะจนเอาไม่อยู่ พวกเราดูแล้วต้องช่วยช้างเรารวมตัวกันเข้าไปช่วย ตอนนั้นมันหนักหนาสาหัสจริงๆ”
เรารู้ว่า ที่แม่แตงมีปางช้างมากมาย เกือบทุกปางก็อยู่ติดแม่น้ำ
ปางอื่นๆ ก็ถูกน้ำท่วม office พัง บ้านพักควาญโดนน้ำซัดเสียหาย ข้าวของไปกับน้ำ สะพานในปางหักชำรุด แต่ช้างรอดทุกปาง
ช้างปางนี้เป็นผู้ประสบภัย ช้างพูดไม่ได้ ช้างไม่ได้ล่ามโซ่ แต่ช้างเปิดประตูคอกออกมาเองไม่ได้
ทีมที่เข้าไปช่วยไม่รู้จักช้างปางนี้ แต่เข้าไปช่วยสุดใจ ช่วยเต็มที่ ทุกคนเป็นคนเลี้ยงช้างที่รักช้าง
ขอชวนคิดเรื่องวิธีเลี้ยงช้าง วิธีเลี้ยงจะต่างกันหรือเหมือนกัน ยังไงก็ได้ แต่เมื่อมีวิกฤต ภัยพิบัติน้ำป่า โคลนถล่ม พายุเข้า ช้างที่ดูแลต้องรอด
จากประสบการณ์ professional cabin crew เราถูกสอนฝังหัวเรื่อง Crisis Management มาตั้งแต่วันแรกที่เรียน Safety and Emergency เราเรียนรู้เรื่อง safety is priority และต้องรู้วิธี evacuate อย่างปลอดภัย
เราขอแนะนำให้เจ้าของปาง เมื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้น ต้องคิดเผื่อถึง worst case scenario วางแผนรับมือล่วงหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าทุกชีวิตไม่ว่าคนหรือสัตว์ จะต้องรอดปลอดภัย
และที่สำคัญ คือ อย่าเอาชีวิตของคนอื่นมาแขวนไว้กับทิฐิของตนเอง...”
3. พักการร้องไห้ การบีบน้ำตา การเรียกความสงสาร การอ้างว่าถูกโจมตีใส่ร้าย
ช้าง เป็นผู้ประสบภัย
ช้างพูดไม่ได้
ช้างไม่ได้ล่ามโซ่ แต่ช้างเปิดประตูคอกออกมาเองไม่ได้
วิธีเลี้ยงช้าง จะต่างกันหรือเหมือนกัน ยังไงก็ได้ แต่เมื่อมีวิกฤต ภัยพิบัติน้ำป่า โคลนถล่ม พายุเข้า ช้างที่ดูแลต้องรอด
มันต้องมีอะไรบกพร่องหรือไม่? ปางอื่นรอดหมด แต่ปางนี้ตาย
เหตุใดปล่อยให้มีช้างติดอยู่ในคอกอีกหลายเชือก จนกระทั่งทีมจากที่อื่นเข้าไปช่วย
และที่สำคัญ ยังมีช้างติดอยู่ในคอกอีกหลายเชือก ตอนน้ำท่วมสูง แต่รอดเพราะเทวดาช่วย เพราะน้ำลด จึงรอดตาย
รักช้างแบบใด น้ำท่วม ไม่ย้ายช้างออกจากคอก ขอรับเงินบริจาค ?
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี