เหลือเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งเดือน คดีตากใบ คดีสะเทือนความรู้สึกของคนไทยจำนวนไม่น้อย ก็จะหมดอายุความ โดยจะหมดอายุในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 อายุความของคดีนี้นับจากปี 2547 เมื่อครั้งทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในนามพรรคไทยรักไทย
เหตุการณ์ตากใบ หรือบางคนเรียกว่าโศกนาฏกรรมตากใบ เกิดขึ้นเมื่อ 25 ตุลาคม 2547 เป็นเรื่องที่สาธารณชนเห็นได้ชัดว่ารัฐบาลใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุกับผู้ที่ถูกจับกุม หลังสลายการชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจตากใบ นราธิวาส ขอเล่าเหตุการณ์เพื่อย้อนความทรงจำอันเจ็บปวดว่า ในวันดังกล่าวนั้นทางการได้สลายการชุมนุม แล้วจับกุมผู้คนประมาณ 1,300 คน แล้วจับคนกลุ่มหนึ่งมัดมือไพล่หลัง แล้วนำตัวไปนอนทับกันหลายชั้นในกระบะหลังรถบรรทุก โดยจะนำตัวไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร ปัตตานี ซึ่งระยะทางระหว่างค่ายอิงคยุทธฯ กับสถานีตำรวจตากใบมากกว่า 100 กิโลเมตร จึงเป็นเหตุให้มีคนตาย บาดเจ็บสาหัส และพิการมากมาย จากการกระทำอันไร้มนุษยธรรมโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาล
ชาวบ้านที่สูญเสียญาติพี่น้องบอกกับนักข่าวว่า คนจำนวน 85 คนต้องตายในเหตุการณ์ครั้งนั้น หลายคนตายเพราะขาดอากาศ บางคนตายเพราะถูกยิง บางคนคอหัก ร่างกายเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำอย่างแสนสาหัส
แน่นอนว่าคดีนี้เป็นคดีอาญา และเป็นคดีอาญาที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐบาล ชาวบ้านในพื้นที่และผู้สูญเสียญาติพี่น้องวิจารณ์ว่าคดีนี้ไม่ได้รับการเหลียวแลจากรัฐบาล เป็นเพราะว่ารัฐบาลเป็นผู้สั่งการ และผู้ก่อเหตุเป็นข้าราชการระดับสูง
ในที่สุดญาติของผู้สูญเสียจำนวนหนึ่งคือ 48 คนก็ต้องดำเนินการฟ้องร้องคดีด้วยตัวเอง หลังจากที่เห็นว่าไม่สามารถพึ่งพารัฐบาลได้อีกต่อไป แต่แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ได้ดำเนินไปไหน เพราะถูกถ่วง ถูกดองมาโดยตลอดจนอายุความใกล้จะหมดลงในวันที่ 25 ตุลาคมนี้
สำหรับคนคนหนึ่งที่ถูกศาลออกหมายจับในคดีตากใบคือพิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส. พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ในขณะเกิดเหตุโศกนาฏกรรมตากใบ คำถามคือทำไมแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนล่าสุด ซึ่งมีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจึงดูดายเพิกเฉยกับคดีนี้ ทั้งๆที่ สส. ของพรรคเพื่อไทยถูกศาลออกหมายจับ
แม้จะมีข่าวระบุว่าพิศาล วัฒนวงษ์คีรี หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงมีคำถามต่อไปว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะรับผิดชอบอย่างไรกับการที่ สส.รายนี้ของพรรคหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ มีคำถามอีกว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะบอกกล่าวกับคนไทยที่ติดตามคดีนี้อย่างไรในเมื่อ สส. รายที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีตากใบหลบหนีคดีทั้งๆ ที่ก่อนจะหนีคดีนั้นพิศาลยังไปร่วมงานวันเกิดของแพทองธาร เมื่อนักข่าวทำเนียบรัฐบาลถามเรื่องนี้โดยตรงกับแพทองธาร ก็กลับพบว่าแพทองธารปฏิเสธการตอบคำถาม
ส่วนเมื่อสาธารณชนได้ฟังคำพูดของภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทยเมื่อถูกนักข่าวการเมืองถามถึงเรื่องของพิศาล ก็พบว่าภูมิธรรมตอบราวกับปฏิเสธความรับผิดชอบแม้เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับ สส. ของพรรค โดยภูมิธรรมอ้างว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของพิศาล แต่สิ่งที่ภูมิธรรมอ้างเรื่องการชดใช้เงินให้กับญาติของคนตายและผู้บาดเจ็บไปแล้ว ก็ยิ่งทำให้สาธารณชนเห็นว่าภูมิธรรมอาจจะมองว่าจ่ายเงินให้แล้วก็จบจๆ กันไป ไม่ต้องกลับมาเรียกร้องความชอบธรรมใดๆ อีกต่อไป
นอกจากจะทวงถามเรื่องนี้จากรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยแล้ว ก็ยังต้องถามด้วยว่าเหตุใดอัยการสูงสุดจึงทำเสมือนดองเรื่องนี้ไว้ แล้วกว่าจะมีคำสั่งให้ฟ้องคดีโดยอัยการสูงสุด ก็ทำให้เวลาของอายุความใกล้จะหมดลงแล้ว จนญาติผู้เสียชีวิตต้องฟ้องร้องดำเนินคดีนี้เองต่อศาลจังหวัดนราธิวาส เมื่อ 12 มิถุนายน 2567 เพราะเห็นชัดแล้วว่าหากปล่อยเรื่องไว้ คดีจะขาดอายุความในที่สุด แต่มีเรื่องน่าสมเพชเวทนาเกิดขึ้นคือสำนักงานคดีอัยการสูงสุดกลับออกคำสั่งให้ประชาชนยุติการร้องขอความเป็นธรรมจากคดีนี้
คดีตากใบจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยดูดายเรื่องนี้ตลอดมา และดูเสมือนจงใจให้อายุความขาดลง เพื่อจะช่วยให้ สส. รายหนึ่งของพรรคเพื่อไทยไม่ต้องถูกดำเนินคดี เรื่องนี้นอกจากต้องตั้งคำถามไปที่พรรคเพื่อไทยแล้ว ยังต้องตั้งคำถามไปที่อัยการสูงสุด และตำรวจที่ทำสำนวนคดีด้วย เพราะความล่าช้าของคดีนี้่ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย รัฐบาล อัยการสูงสุดและตำรวจเจ้าของคดี และน่าจะจงใจทำให้คดีขาดอายุความ แต่ต้องบอกว่าหากคดีนี้ขาดอายุความ จะเป็นชนวนให้เกิดความไม่สงบสุขในสังคมไทยในอนาคต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี