ในสังคมไทยมีข่าวคราวเกิดขึ้นเป็นประจำ ในประเด็นที่คนจำนวนไม่น้อยถูกหลอกลวงให้เสียทรัพย์ แต่บางรายก็ต้องเสียตัว บ้างก็ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง ต้องนำทรัพย์ไปไถ่ตัวออกมา แต่ที่สาหัสยิ่งกว่าคือบางรายต้องเสียชีวิต ด้วยน้ำมือของกลุ่มมิจฉาชีพสารพัดชนิดที่มีอยู่มากมายเหลือคณานับในเมืองไทย แต่มิจฉาชีพบางกลุ่มก็ไม่ได้ตั้งหลักปักถิ่นฐานอยู่ในเมืองไทย แต่ทว่าไปตั้งหน่วยหลอกลวงอยู่ในประเทศรอบๆ ไทย อาทิ ลาว กัมพูชา เมียนมา เป็นต้น
ในเมื่อรอบๆ ตัวเราทุกคนมีกลุ่มมิจฉาชีพรายล้อม ก็จึงเป็นเรื่องเสี่ยงมากที่เราอาจจะตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพเข้าได้ในวันใดวันหนึ่ง ถ้าหากเราไร้สติ ไร้ความยับยั้งชั่งใจ แล้วหลงเชื่ออะไรโดยง่าย
ไม่ใช่เรื่องผิดที่เราอยากรวย อยากสวย อยากหล่อ อยากดูดี อยากมีปริญญาบัตรแบบง่ายๆ อยากเป็นเศรษฐีอยากได้ของดีราคาถูก อยากไปเที่ยวต่างประเทศโดยจ่ายเงินถูกๆ อยากเป็นเจ้าของกิจการ อยากให้ลูกหลานได้เรียนในโรงเรียนดีๆ อยากให้ลูกหลานได้ทำงานในหน่วยงานดีๆ ได้รับเงินเดือนค่าตอบแทนแพงๆ ฯลฯ
แต่ช้าก่อน แล้วเราเคยคิดบ้างไหมว่า โลกนี้ไม่เคยมีของฟรี ไม่เคยมีของดีราคาถูก แล้วที่สำคัญคือเราทุกคนก็ไม่สามารถถูกหวยรางวัลที่ 1 กันโดยง่าย ดังนั้น ก่อนที่จะควักเงินออกจากกระเป๋าของเราในแต่ละครั้ง จึงจำเป็นต้องคิดและต้องคิดให้มาก คิดให้ถี่ถ้วน รอบคอบ คิดให้หลายๆ ตลบ อย่าหลงเชื่อคนง่ายๆ อย่าคิดว่าเราจะกลายเป็นเศรษฐีได้ภายในพริบตา
กรณีที่กำลังตกเป็นข่าวใหญ่ในขณะนี้ก็คือเรื่องบริษัท ดิไอคอน ที่มีผู้ไปร้องเรียนกับตำรวจว่าถูกหลอกลวงทำให้เสียทรัพย์จำนวนหลายสิบล้านบาท หลังมีผู้ไปร้องเรียนกับตำรวจ ก็ทำให้ตำรวจตื่นตัวตั้งคณะติดตามทำคดีบริษัทนี้ โดยเราจะได้ยินคำคุ้นๆ หูว่า หากพบว่ามีความผิด จะดำเนินคดีกับคนทำผิดทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้น อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่าคำอ้างของตำรวจที่บอกว่าหากพบว่าผิดจริง จะจับกุมโดยไม่มีข้อยกเว้น เป็นคำที่แสนจะตลก ก็เลยทำให้สงสัยว่า แล้วมีกี่คดีที่พบว่ามีความผิดจริง แต่ตำรวจไม่จับกุมคนกระทำผิด หรือปล่อยให้คนทำผิดลอยนวล
ก่อนอื่นต้องบอกว่าการทำมาค้าขาย และการทำธุรกิจนั้น สิ่งที่สำคัญและจำเป็นยิ่งก็คือ ผู้ค้าขายต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้งก่อนเป็นอันดับแรก หากปราศจากความซื่อสัตย์สุจริตแล้ว ก็ถือว่าเป็นการทำการค้าที่ไม่สุจริต ซึ่งเข้าข่ายฉ้อโกงและหลอกลวงผู้ซื้อ ผู้บริโภค
แต่ขณะเดียวกัน คนที่จะซื้อจะหาข้าวของและสินค้าใดๆ หรือบริการใดๆ ก็ตาม ก็ต้องมีสติปัญญา ต้องมีความรอบคอบต้องมีความยั้งคิดด้วย ไม่ใช่หูเบา เชื่อง่าย เขาบอกเขาพูดอะไรก็เชื่อไปเสียทั้งหมด เชื่อโดยขาดสติ ขาดความยับยั้งชั่งใจ หรือเชื่อเพราะลุ่มหลงไปตามภาพลวงตา หรือภาพมายา
ต้องบอกว่าทุกวันนี้มีการหากินด้วยกลอุบายที่เต็มไปด้วยความฉ้อฉลสารพัดชนิด มีทั้งหลอกให้ซื้อ หลอกให้ลงทุนหลอกให้เข้าไปเป็นสมาชิก หลอกให้เข้าไปร่วมอบรม และสารพัดจะหลอก แต่ที่น่าสมเพชคือก็ยังมีคนเข้าไปเป็นเหยื่อตลอดเวลา
เวลาคนบางประเภทเห็นคนบางกลุ่มอ้างว่าตนเองรวยแสนรวย แล้วเกิดอาการตาโตเพราะไร้สติต้องการจะรวยเหมือนเขาบ้าง ก็ต้องบอกว่าคนที่ไร้สติจำพวกนี้แหละที่จะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้โดยง่ายดาย อันที่จริงต้องดูให้ลึกดูให้ถี่ถ้วนว่าเขาคนนั้นที่อ้างว่ารวย รวยเพราะอะไร รวยจากการทำอาชีพสุจริต หรืออาชีพทุจริต แล้วหากจะคิดให้ลึกลงไปอีกสักนิด ก็ต้องถามตัวเองก่อนว่าแล้วการที่เขามาชวนเราทำธุรกิจนั้น เขามีเงื่อนไขอะไร มีสัญญาอะไร มีอะไรเป็นเครื่องค้ำประกันหรือไม่ไม่ใช่แค่เห็นเขารวย เห็นเขาแต่งตัวดี หน้าตาดีมีเครื่องประดับหรูหรา มีรถยนต์ราคาแพงขี่ แล้วก็หลงเชื่อโดยง่ายดาย หากเป็นแบบนี้ก็หมายความว่าเรานั่นเองที่ยอมตกเป็นเหยื่อของเขา
คนที่จะรวยจริงๆ นั้นเขาไม่เชื่อคนง่าย ไม่หูเบา และไม่คิดฝันว่าเงินจะหล่นร่วงลงมาจากฟากฟ้าโดยง่ายแต่คนรวยที่แท้จริงนั้น เขาต้องใช้สติปัญญาในการทำมาหากิน แต่ก็มีคนรวยบางคนใช้สติปัญญาก็จริงแต่ก็ยังแอบแฝงเล่ห์เหลี่ยมกลโกงเอาไว้มากมาย ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่คู่ค้า คู่เจรจาทางธุรกิจต้องรู้เท่าทันกลอุบายของเขาด้วย
ขอย้ำว่าไม่ผิดที่ดารา นักร้อง นักแสดง นางแบบ นายแบบ พิธีกร ดาวยั่ว ดาวโป๊ ตัวตลกจะทำมาค้าขายแต่ก็ต้องขอเตือนสติคนกลุ่มดังกล่าวว่า เคยถามหรือเคยตรวจสอบหรือไม่ว่าสินค้าที่ตนเองรับทำหน้าที่เป็นผู้โฆษณาให้นั้น เป็นของดีจริงๆ มีคุณภาพ มีมาตรฐานสินค้าหรือไม่ เพราะคนดังที่รับงานโฆษณาขายสินค้านั้น บางคนก็อ้างว่า ฉันไม่รู้ว่าสินค้าคืออะไร เพราะฉันไม่ได้ใช้เอง แต่ฉันแค่เพียงรับจ้างเป็น presenter ให้เท่านั้น ส่วนคุณภาพและมาตรฐานสินค้าก็เป็นเรื่องที่ทางการต้องเข้าไปตรวจสอบเอง
หากจะเปรียบเทียบการซื้อสินค้าเพราะบ้าดารา หรือบ้า presenter ก็อาจจะเปรียบได้กับการที่คนไทยบางกลุ่มเลือก สส. โดยดูจากหน้าตา ดูจากป้ายโฆษณาหาเสียง ดูจากชื่อ สกุล แต่ไม่เคยดูพฤติกรรมการเมือง แนวคิดการเมือง หรืออุดมคติการเมืองของผู้สมัคร สส.
ผู้เขียนเคยถามคนมีสิทธิเลือก สส. ว่า ทำไมเลือกคนคนนั้น คำตอบคือ เลือกเพราะหล่อ หน้าตาเหมือนดาราเกาหลี หรือเลือกเพราะนามสกุลดัง บางรายตอบว่าเลือกเพราะเห็นว่าจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยดีเด่นดัง ก็ไม่ผิดที่จะตอบแบบนั้น ก็ต้องถามกลับว่า ตกลงพวกที่เลือก สส. โดยดูจากหน้าตานั้น
สรุปแล้วต้องการเลือก สส. หรือเลือกคู่นอนกันแน่ เพราะการตอบว่าเลือกเพราะหน้าตาไม่ใช่คำตอบที่จะนำไปสู่การเป็น สส. คุณภาพ
บางคนเลือก สส. โดยดูจากการศึกษา เช่น ดูว่าจบจากอังกฤษ หรือจากยุโรป หรือจากสหรัฐฯ แต่ไม่เคยดูให้ลึกว่าคนที่จะเลือกนั้นหนีเกณฑ์ทหารหรือไม่ หรือมีวัฒนธรรมการเมืองแบบใด มีความเชื่อหรือทัศนคติการเมืองที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนหรือไม่
คนไทยบางจำพวกเชื่อคำโกหกว่า ผมรวยแล้วไม่โกง ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีใครรับรองว่าคนรวยที่เล่นการเมืองแล้วไม่คดไม่โกง การเชื่อว่าคนรวยแล้วการเมืองแล้วไม่โกง คือการประกาศให้สังคมรู้ว่าคนที่เชื่อแบบนั้นเป็นพวกที่อยากรวย แต่ไม่สนใจว่ารวยด้วยเหตุผลใด รวยโดยสุจริตหรือทุจริตก็ได้ ใช่หรือไม่
ขอย้ำว่าคนรวยที่ไปเล่นการเมืองแล้วโกหกว่าไม่โกง เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีทฤษฎีการเมืองใดๆ รองรับหรือรับรองแต่ต้องบอกว่าคนที่รวยแล้ว หากเขาตั้งใจโกง เขาจะไม่สนใจหรอกว่าเขาจะโกงได้มากหรือโกงได้น้อยแต่ต้องรู้ว่าเขาคือคนมีนิสัยคดโกง
เราคงเห็นมาแล้วว่า คนรวยที่อ้างว่าไม่โกงนั้น เวลาเขาโกงบ้านกินเมือง เขาโกงกินหนักหนาสาหัสมากมายเพียงใด และนอกจากเขาจะโกงแล้ว เขายังส่งวงศ์วานวานเครือเข้ามาโกงบ้านกินเมืองอย่างไม่สะทกสะท้านคำครหาใดๆ
ปิดท้ายก่อนลากันในวันนี้ ขอบอกว่า สังคมไทยมีคนโกงมากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งโกงในด้านการเมืองโกงในด้านการทำธุรกิจ และโกงแม้กระทั่งในวงการการศึกษา และศาสนา เพราะฉะนั้น หากเราไม่ต้องการตกเป็นเหยื่อคนโกง เราต้องมีสติ ต้องมีความรอบคอบ ต้องไม่เชื่อง่าย และต้องหมั่นหาข้อมูลให้มากที่สุด แล้วเราอาจจะรอดจากคนโกงสารพัดชนิดในสังคมนี้
ขอย้ำ และย้ำว่า ไม่ผิดที่เราอยากจะรวย แต่ขอให้คิดให้ดีว่าความรวยที่เราอยากมีนั้น เป็นความรวยที่บริสุทธิ์ ขาวสะอาด หรือรวยบนความวิบัติล่มจม ล่มสลายของเพื่อนมนุษย์ที่อยู่ร่วมสังคมเดียวกันกับเรา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี