เต็มไปด้วยสาระและข้อเท็จจริง คือ หนังสือพิมพ์แนวหน้าwww.naewna.com ทุกบรรทัด ตรงไป ตรงมา...nn ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประเด็นหนึ่งซึ่งอาศัยจังหวะที่มีประเด็นใหญ่ที่น่าสนใจกว่า หลบเลี่ยงเรดาร์ความสนใจของผู้คนที่ติดตามข่าวก็คือเรื่องของ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ หรือ การเอาบ่อนการพนันมาเสียภาษีให้ถูกกฎหมาย !!!...
nn โดย พรชัย ฐีระเวช ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ได้ส่งรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. และจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายเสร็จสิ้นแล้ว...
nn รายงานสรุปผลฯ ระบุว่า“เนื่องจากรายได้ท่องเที่ยวลดลงอย่างมากจากการระบาดของโควิด และหลังจากการระบาดเริ่มผ่อนคลาย เห็นว่าการสร้างสถานบันเทิงครบวงจร เป็นการเร่งฟื้นฟูท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรเห็นว่าให้มีกาสิโน เพื่อเป็นการส่งเสริมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่และสร้างรายได้ให้กับประชาชนและประเทศ”...
nn และระบุอีกด้วยว่า “นอกจากนี้ เป็นการทำให้ธุรกิจกาสิโนเข้ามาอยู่ในระบบบริการจัดการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ภาครัฐสามารถกำกับดูแลและจัดเก็บภาษีเพื่อเพิ่มรายได้ของประเทศ แต่เนื่องจากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคมหลายด้าน จึงมีความจำเป็นที่รัฐจะต้องเข้าไปควบคุมดูแลการประกอบธุรกิจให้มีมาตรฐาน รวมทั้งกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อสังคม”...
nn ส่วนบริษัทเอกชนต่างๆ ก็เริ่มความเคลื่อนไหวในเรื่องของการพัฒนาที่ดินรองรับนโยบายดังกล่าว โดยเฉพาะ พสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว กรุ๊ป จำกัด ระบุว่าขณะนี้บริษัทยังสนใจลงทุนหรือเข้าร่วมโครงการพัฒนาเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ของรัฐบาล เพื่อต่อยอดธุรกิจโรงแรมและสวนสนุกที่มีอยู่เดิม โดยที่ผ่านมาบริษัทได้มีการหารือกับนักลงทุนแล้วหลายราย เพื่อเตรียมความพร้อมเรื่องการลงทุนหลังจากรัฐบาลมีรายละเอียดออกมา...
nn สำหรับหลายพื้นที่หลายจังหวัดที่คาดว่า “เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์” จะไปลง โดยเฉพาะท่าเรือคลองเตย ซึ่งถือว่าเป็นทำเลทองอีกที่ที่มีแผนพัฒนาในการใช้ประโยชน์ด้านต่างๆ นั้นเจ๊เดือน - มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ก็ระบุว่า การพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณท่าเรือกรุงเทพ(คลองเตย)ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น ไม่ใช่เป็นการนำพื้นที่ไปใช่เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งต้องรอดูกฎหมายว่าเป็นอย่างไรบ้าง...
nn มีความเห็นจากนักวิชาการที่แสดงความไม่เห็นด้วยต่อเรื่องดังกล่าว เช่น ธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนันระบุว่า ในความเป็นจริงกาสิโนของทุกประเทศทั่วโลก สุดท้ายแล้วลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนในประเทศนั้นๆ ดังนั้นหลายประเทศถึงพยายามผลักดันให้กาสิโนไปอยู่ในพื้นที่ที่ไกลออกไป อย่างไรก็ตาม เรื่องของกาสิโนจึงอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย และระเบียบข้อบังคับต่างๆ ว่าสุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไรและจะเป็นช่องให้คนไทย คนจน เข้าไปเล่นได้หรือไม่...
nn และเลขาฯ มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ยังแสดงความเป็นห่วงว่า ที่อันตรายมากๆก็คือกฎหมายเขียนว่า กาสิโน สามารถปล่อยกู้ หรือให้สินเชื่อกับผู้เข้าเล่นได้ นั่นหมายถึงว่า ให้ทุกคนสามารถใช้บริการสินเชื่อได้ ตรงนี้อันตรายมากเพราะหนี้การพนัน ปัจจุบันเมืองไทยไม่ยอมรับว่าเป็นหนี้ถูกกฎหมาย แต่เมื่อไปก่อหนี้ในกาสิโนถูกกฎหมาย และกฎหมายนี้ผ่าน จะทำให้หนี้พนันเป็นหนี้ถูกกฎหมายในประเทศไทย มีการบังคับ มีการทวงถามได้ ค่อนข้างอันตรายเป็นอย่างยิ่ง ...
nn รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผอ.ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ก็พูดถึงประเด็นการให้สินเชื่อในวงพนันว่าอันที่จริง บางประเทศก็มีการให้สินเชื่อ แต่สินเชื่อของเขาเครดิตน้อยมาก ในบางการพนันเขาจะให้คุณยื่นรายได้ พิจารณาบัตรเครดิต แล้วเขาก็จะกำหนดด้วยรายได้ สมมุติว่าให้เครดิต 50,000 บาท เล่นสองอาทิตย์ ถ้าไม่เคลียร์หนี้ก็จบ เครดิตคุณก็เสีย ฉะนั้นถ้าจะทํากาสิโนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต้องวางแผนให้ดีว่าจะทําอย่างไรให้ดึงผู้เล่นจากต่างประเทศได้มาก แต่คนไทยเล่นให้น้อย...
nn อภิวัชร์ เกตุทัตประธานมูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.) ระบุว่า มีคำถามตามมาว่า ถ้ามีหรือไม่มีบ่อนกาสิโน เศรษฐกิจไทยจะอยู่รอดหรือไม่รอดอย่างนั้นหรือ? ประเด็นคือทำอย่างไรจึงสร้างความสมดุลระหว่างปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาทางสังคม รวมถึงรัฐบาลจะรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้ได้อย่างไร? ซึ่งมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เนื่องจากอาจเกิดผลกระทบต่อเนื่องตามมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาระหนี้สิน, ความสัมพันธ์ในครอบครัว, ปัญหาการฆ่าตัวตาย รวมถึงปัญหาคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ และปัญหาการฟอกเงิน ดังนั้น การจะทำให้สิ่งนี้เป็นเรื่องถูกกฎหมาย ผู้เกี่ยวข้องต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ รับฟังทุกเสียงจากสังคมให้มากกว่านี้...
n“มือปราบ” ก็เขียนถึงเรื่องนี้ไปหลายครั้ง ก็ยังยืนยันว่าการอ้างเอาของไม่ดีมาฟอกให้กลายเป็นดีขึ้นมานั้น สะท้อนว่าที่ผ่านมา สิ่งที่ดีได้รั่วไหลออกเป็นสิ่งสกปรกโสมม เพราะแทนที่ภาษีของรัฐจะนำไปพัฒนาประเทศอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย กลับหายไปเข้ากระเป๋าของคนทุจริตเพียงไม่กี่กลุ่ม รวมทั้ง เป็นการสร้างปัญหาให้คอยตามล้างตามเช็ดอย่างไม่จบไม่สิ้น ...
nn ทั้งนี้ หากยึดหลักคำสอนในทางศาสนา รวมทั้ง ปฏิบัติตนตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ที่ให้รู้จัก ความพอประมาณ ความมีเหตุมีผล การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง เพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ แล้ว เชื่อว่าทั้งคนไทยและเศรษฐกิจไทย จะไปได้ไกลกว่าการนำนโยบายที่สุ่มเสี่ยงต่อการล่มสลายของสังคม มาเป็นธงนำในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ...nn สวัสดีครับ
มือปราบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี