ดูเหมือนจะมีขบวนการพยายามบ่ายเบี่ยงจากประเด็นคำถามง่ายๆ ที่ว่า
เหตุใด ปางช้างดังที่มีช้างล้ม 2 เชือก จึงไม่สามารถย้ายช้างหนีน้ำได้เหมือนปางอื่นๆ ?
กลับปล่อยให้ช้างนับสิบเชือกถูกขังอยู่ในคอกที่น้ำท่วม จนควาญช้างและเจ้าหน้าที่ภายนอกเข้าไปช่วยเหลือร่วมกับเจ้าหน้าที่ปางช้างดังกล่าว?
1. มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT ได้โพสต์คลิปอ้างว่าเป็นเบื้องหลังการฝึกช้าง ช้างถูกทำร้าย เพื่อแยกแม่และลูกช้างออกจากกัน
บางส่วนระบุว่า “...ความจริงอันดำมืดที่เป็นการทารุณกรรมช้างอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งมันเกิดขึ้นในสังคมมานานแสนนานโดยไม่มีใครรู้
การตีแผ่ ข้อเท็จจริงของการทารุณกรรมสัตว์จึงเป็นหน้าที่ของ WDT ที่มีอุดมการณ์ในการต่อต้าน ป้องปราม และบังคับใช้กฎหมายการทารุณกรรมสัตว์
เพราะการฝึกลูกช้างและการกระทำการทารุณ ย่ำยีเกียรติและศักดิ์ศรีช้างจะยังคงมีต่อไป
ตราบเท่าที่สังคมไทยยังเสพข่าวโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง
ทีมงาน WDT ได้ทำการติดตามการใช้ช้างทำงานของช้าง และเรามีภาพหลักฐานมากมายที่จะนำมาเสนอให้ท่านได้รับทราบถึงความดำมืดของการทารุณกรรมช้างในหลายรูปแบบ...”
2. เพจ The Echo รู้ทันขบวนการปั่นข่าวปลอมที่หวังผลโอบอุ้มปางเจ้าปัญหา
ระบุว่า “แฉ Fake news จากคลิปเก่ากว่า 20 ปี ตำรวจชี้ เกิดจากการ “จัดฉาก”
ผลการสอบสวนของตำรวจเชียงใหม่ระบุ ภาพการทารุณกรรมลูกช้างในพิธีผ่าจ้านที่จังหวัดเชียงใหม่ในปี 2544 เป็นการจัดฉาก และแต่งเติมโดยหญิงรายหนึ่งและทีมงาน
คาดทำโดยมีผลประโยชน์แอบแฝง อาจมุ่งทำลายการท่องเที่ยวของประเทศไทยหรือเพื่อดึงเงินเข้ามูลนิธิ
The Echo ได้รับเอกสารผลการสอบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งทำถึงวุฒิสภา ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2546 เพื่อรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการทารุณลูกช้างตามข้อร้องเรียนขององค์กร... (NGO ต่างชาติด้านสวัสดิภาพสัตว์)
หนังสือมีใจความว่า จากการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมพานักท่องเที่ยวออกไปถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับสัตว์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางราชการก่อน
พบข้อเท็จจริงดังนี้
1. การกระทำทารุณช้างตามที่ปรากฏในภาพวีดีทัศน์ เป็นการกระทำที่ได้รับการร้องขอจากทีมงานของ... (หญิงรายหนึ่ง) ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ มาถ่ายทำวีดีโอเกี่ยวกับช้าง
โดยทีมงานได้ขอให้ “นายแซ่แล คีรี” ซึ่งเป็นผู้ทำพิธีผ่าจ้านลูกช้างให้ตีหัวช้าง ทีมงานใช้น้ำยาสีม่วงทาที่หลังและหัวช้างทำให้ดูคล้ายมีเลือดไหล แล้วถ่ายภาพเอาไว้
ในการทำพิธีผ่าจ้านนั้น มิได้มีการกระทำรุนแรงหรือทำร้ายช้างแต่อย่างใด เนื่องจากคนเลี้ยงช้างทุกคนรักช้างเหมือนลูกหลาน การทำพิธีผ่าจ้านเป็นการทำเพื่อฝึกสอนช้าง โดยใช้ไม้ตีเบาๆ พอเป็นพิธีเท่านั้น ไม่ถึงกับทำให้เกิดบาดแผลหรือบาดเจ็บ
จากการสอบปากคำผู้ให้ถ้อยคำแล้ว แจ้งว่า ภาพวีดีทัศน์เป็นภาพที่แสดงเกินความจริงและมิใช่เป็นพิธีกรรมที่ถูกต้อง
ซึ่งเชื่อว่า มีผลประโยชน์แอบแฝงอันไม่อาจดาดเดาได้ เช่น อาจต้องการทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทยหรือเพื่อดึงเงินเข้ามูลนิธิ
2. ลูกช้างที่ปรากฏในภาพวีดีทัศน์ ปัจจุบันได้รับการเลี้ยงดูอยู่ที่บ้านห้วยบง ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ในสภาพที่ดี มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง
ส่วนข้อบ่งชี้นั้นมี นายชนัตร เลาหะวัฒนะ ผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เป็นผู้เข้าไปตรวจสอบลูกช้างในกรณีดังกล่าว
3. กระบวนการนำลูกช้างไปกระทำทารุณตามที่ปรากฏ เป็นเพียงกลุ่มบุคคลที่พานักท่องเที่ยวไป ถ่ายทำวีดีโอเท่านั้น
โดยยังไม่ทราบแน่ชัดว่า มีวัตถุประสงค์ทำขึ้นเพื่อประโยชน์ใด พร้อมนี้ได้แนบเอกสารการสอบสวนที่เกี่ยวข้องมาด้วยแล้ว...”
3. “เวทนามาร์เก็ตติ้ง” และ “สามานย์การตลาด” ในโลกของช้าง
The Echo ได้เผยแพร่คลิปสัมภาษณ์คุณหมอช้างอาวุโส คุณหมอต๋อง-น.สพ.ดร.สิทธิเดช มหาสาวังกุล ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสัตวแพทย์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.)
เล่าถึงการทำการตลาดของปางช้างโลกสวยบางแห่ง ที่ใช้วิธีใส่ร้ายโจมตีปางช้างอื่นๆ ที่เลี้ยงช้างตามวิถีไทย
ระบุว่า “ภาพที่มีการเผยแพร่ไปทั่วโลกตั้งแต่ 20 ปีกว่าก่อนซึ่งแสดงให้เห็นว่า การฝึกลูกช้างของไทยมีความโหดร้ายทารุณ ซึ่งต่อมาตำรวจสอบสวนพบว่า เป็นการจัดฉากและแต่งเติมนั้น ยังคงวนเวียนมาใช้โจมตีใส่ร้ายวิถีการเลี้ยงช้างของไทยจนกระทั่งปัจจุบัน
การกระทำดังกล่าว ส่งผลให้ต่างประเทศไม่สนับสนุนการมาท่องเที่ยวในปางช้างวิถีไทยที่มีควาญดูแลช้าง รวมถึงมีการใช้อุปกรณ์สื่อสารกับช้าง เช่น โซ่และขอ
ขณะเดียวกันมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในปางช้างแบบไม่มีควาญ ไม่มีโซ่และขอ (No hook - No chain) หรือที่วงการช้างเรียกว่า #ปางช้างโลกสวย
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการทำการตลาดบนความน่าเวทนาของช้าง ด้วยการหาซื้อช้างพิการ ช้างตาบอด ช้างผอมเพื่อนำมาสร้าง story เรียกนักท่องเที่ยว จนทำให้ราคาช้างเหล่านี้ ราคาพุ่งสูง
คุณหมอต๋องกล่าวถึงทางออกของความเห็นต่างเรื่องรูปแบบการเลี้ยงช้างว่า ควรยึดกฎหมาย
โดยล่าสุด กฎหมายมาตรฐานปางช้างของกรมปศุสัตว์มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 โดยมีวัตถุประสงค์ให้การดูแลและใช้งานช้างในปางต่างๆ เป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับหลักสวัสดิภาพสัตว์ ตลอดจนปลอดจากการทารุณกรรมดังนั้น ปางช้างทั่วประเทศ ไม่ว่า จะเลี้ยงช้างรูปแบบใดย่อมอยู่ภายใต้กฎหมายดังกล่าว”
4. ปางเจ้าปัญหาใช้วิธีขังคอกช้างดุ ช้างฝึกยาก น้ำท่วมปล่อยให้ระดับน้ำชี้ชะตากรรมช้าง
เพจ เดอะ พิซซ่าเมตตาดี ได้โพสต์เนื้อหาชวนคิด และผู้เกี่ยวข้องควรหาทางแก้ไขร่วมกันโดยเร็ว
ระบุว่า
“เมื่อวานฟังคลิป (คลิป คุณหมอต๋อง-น.สพ.ดร. สิทธิเดช มหาสาวังกุล หมอช้างอาวุโส) ก็พอเข้าใจได้ว่า ช้างในปางนั้น (ENP) ผ่านการฝึกครับ ตัวที่ฝึกง่ายเขาเอาไปฝึกปางอื่น พอมันเชื่องค่อยกลับมาเลี้ยง (แล้วสร้างภาพว่า ไม่ต้องฝึกแค่ร้องเพลงกล่อม)
ส่วนตัวดุๆ เขาเลือกที่จะขังคอกตลอดชีวิต เพราะมันฝึกยาก
ความหยาบ คือ ช้างไม่มีควาญประจำ มีแต่ผู้ดูแล คนให้อาหาร
ช้างบ้านของไทย ต้องมีควาญประจำ เหมือนเป็นพี่เลี้ยงประจำตัว ช้างกับควาญต้องมีความเชื่อใจซึ่งกันและกัน ควาญช้างต้องให้ความรัก ดูแลเอาใจใส่ เพราะช้างเป็นสัตว์สังคม มันจำเป็นต้องมีเพื่อน
พอช้างไม่มีควาญประจำ ถูกขังในคอก ความไว้เนื้อเชื่อใจต่อมนุษย์ก็ไม่มี และพอไม่ฝึก ก็ไม่มีโอกาสปรับนิสัย ไม่มีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ โดนขังคอกเป็นปีๆ ที่อยู่ ที่กิน ที่ตาย อยู่แค่ในคอกนี้ ไปไหนก็ไม่ได้ ความร่มรื่นก็ไม่มี อยากไปเล่นน้ำตก เดินป่าก็ไม่ได้ ต้องกินอยู่บนทุ่งหญ้าซาวันนา
เวลาจะตรวจสุขภาพหรือรักษา ต้องใช้การยิงยาสลบ แล้วค่อยเข้าไปตรวจช้างพอเกิดวิกฤตเคลื่อนย้ายไม่ได้ เพราะไม่มีควาญไปพาออกมา (แต่ให้ควาญปางอื่น เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยแทน ทั้งที่ด่าพวกเขาทั้งก่อนหน้าและภายหลัง ก็ยังปล่อยข่าวปลอมหาว่าเขาเนรคุณอีก)
ช้างพวกนี้จะต้องถูกคุมขังไปตลอดชีวิต
คุณว่า พวกมันมีความสุขเหรอครับ?
คุณอาจสร้างภาพว่า ช้าง(ตัวอื่น)มีความสุข เพราะมันฝึกมาแล้ว เข้ากับคนได้อยู่กับคนได้ ส่วนปางอื่นไม่ดี โหดร้าย ทรมานสัตว์ อยู่ปางฉันคือสวรรค์ของช้าง (แล้วตัวที่โดนขังคอกเป็นสิบปีล่ะ)
ผมเห็นช้างปางอื่น ก็มีความสุข ได้หากินในธรรมชาติที่ร่มรื่น ได้เที่ยวป่า เที่ยวน้ำตก ทั้งตัวเมียและตัวผู้ ควาญปางอื่นก็เลี้ยงดูแลดี ไม่มีตัวไหนโดนกักบริเวณคุมขังแบบปางนั้น
ถ้าคุณเลือกใช้ชีวิตได้ คุณจะเอาแบบไหนล่ะ
อยู่กับมนุษย์ มีเพื่อน มีฝูง แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎ ต้องมีความเชื่อใจ และเชื่อฟังกัน
อยู่ในคอก เป็นช้างเสรี ไม่ต้องฟังคำสั่งคน แต่ต้องถูกขังตลอดชีวิต
คุณว่า“พลายดอกแก้ว”เขาต้องการแบบไหน...”
สรุป
หยุดเบี่ยงประเด็น หยุดปั่นกระแส เรียกคะแนนสงสาร เรียกเงินบริจาค ฯลฯ
แต่ควรตีแผ่ความจริง ทำไมปางช้างดังกล่าว จึงมีช้างถูกขังคอกตอนน้ำท่วมนับ 10 เชือก?
ยอมรับความจริง นำไปสู่การแก้ปัญหา
ขอย้ำว่า เหตุการณ์น้ำท่วมที่มีช้างตายนั้น ช้างเป็นผู้ประสบภัย วิธีเลี้ยงช้างจะต่างกันหรือเหมือนกัน ยังไงก็ได้ แต่เมื่อมีวิกฤต ภัยพิบัติน้ำป่า โคลนถล่ม พายุเข้า ช้างที่ดูแลต้องรอด
มันต้องมีอะไรบกพร่องหรือไม่? ช้างปางอื่นรอดหมด แต่ปางนี้ตาย
กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา... เหตุใดปล่อยให้มีช้างติดอยู่ในคอกอีกหลายเชือก จนกระทั่งทีมจากที่อื่นเข้าไปช่วย และที่สำคัญ เมื่อน้ำท่วมสูง ก็ยังมีช้างติดอยู่ในคอกอีกหลายเชือก (แต่สุดท้ายรอด เพราะน้ำลด จึงรอดตาย)
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี