เพื่อไทยการละคร..และรัฐบาลโกหกอย่างเกรียงไกร“อุ๊งอิ๊งค์ 1”..แสดงไม่เนียนแบบขอไปทีชนิดที่แค่สลัด“เห็บสุนัข”ให้พ้นตัวก็เป็นพอแล้ว..ส่วนประชาชนคนไทยในฐานะผู้รับชม จะคิดเห็นอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง..นั่นก็คือกรณีของ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย 1 ใน 7 จำเลย“คดีตากใบ”ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย
พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งเป็น 1 ใน 7 จำเลย“คดีตากใบ”ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตาย และหน่วงเหนี่ยวกักขังเป็นเหตุให้ถึงเเก่ความตาย..และเวลานี้หลบหนีคดีไม่ยอมไปขึ้นศาล ซึ่งรวมถึงจำเลยอีก 6 คนที่หลบหนีด้วยเช่นกัน..ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมวานนี้..อันเป็นผลทำให้ พล.อ.พิศาลต้องพ้นความเป็น สส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยทันทีเช่นกัน
การลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยของ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี วัย 74 ปี..อันเนื่องมาจาก“คดีตากใบ”ที่มีคนไทยมุสลิมเสียชีวิตไปทั้งหมด 85 ศพดังกล่าว..ดูเหมือนพรรคเพื่อไทยการละครจะใช้จินตนาการคิดเองเออเองว่าทุกอย่าง“จบแล้ว”..พิจารณาได้จากเสียงของนักการเมืองพรรคเพื่อไทยหลายคน..ตั้งแต่หัวยันหางที่ดาหน้าออกมาประสานเป็นเสียงเดียวกัน
โดยเฉพาะ“มาดามแพ-แพทองธาร ชินวัตร”หัวหน้าพรรคเพื่อไทย..และนายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย..ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ราวกับว่า“มันจบแล้วท่านผู้ชม”..ซึ่งจากนี้ไปไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย..หากแต่เป็นเรื่องของตำรวจ..รวมทั้งเรื่องของกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่จะต้องดำเนินการต่อ
แพทองธาร ชินวัตร หรือ“มาดามแพ”ออกฉากมาในชุดสวมใส่ที่ไม่เคยซ้ำและไม่เคยลงตัวดูดีเหมาะแก่กาลเทศะแม้แต่วันเดียวตลอดเกือบสองเดือนที่เป็นนายกรัฐมนตรี..ทำทีเหมือนไม่ทราบอะไรมาก่อนล่วงหน้า..ส่งเสียงทำนอง“เอ๊ะ”อุทานออกมาว่า“อ้าว-เพิ่งทราบ”..เมื่อถูกสื่อประจำทำเนียบรัฐบาลถามเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมวานนี้..เรื่องการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยของ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี
จากนั้น..ผู้จัดการเพื่อไทยการละครและผู้จัดการรัฐบาลโกหกอย่างเกรียงไกร“อุ๊งอิ๊งค์ 1”นามว่า“ภูมิธรรม เวชยชัย”ซึ่งเป็นพระอันดับยืนประกบอยู่ใกล้ๆ กับ“มาดามแพ”..ก็เสริมบทในฐานะตัวประกอบ.. ด้วยการแจ้งรายละเอียดให้“มาดามแพ”ทราบพร้อมแสดงใบลาออกของ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี
อย่างไรก็ตาม “มาดามแพ-นายกฯไอแพด”..ให้สัมภาษณ์ไปตามบทเพื่อไม่ให้ออกทะเลออกแม่น้ำโขงตามประสาของนายกรัฐมนตรี“เด็กฝึกงาน”ว่า..เรื่องนี้ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย..และเพิ่งรับใบลาออกของ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี เมื่อช่วงเช้า..พร้อมทั้งได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว..เธอว่า“เพราะเรื่องนี้จริงๆ แล้ว..เราอยากให้เป็นไปตามกระบวนการ ไม่อยากให้มันยากไปกว่าเดิม”
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า..“ในมุมของรัฐบาลจะกดดันอะไรไปยัง พล.อ.พิศาล เพิ่มเติมหรือไม่”, มาดามแพตอบว่า “เราดำเนินการทุกอย่างแล้ว ได้ให้กรอบไปว่า..เราได้ให้ความร่วมมือทางกฎหมาย..และสุดท้ายเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะติดตามดู..ว่าอยู่ที่ไหนอย่างไร”..ผู้สื่อถามต่ออีกว่า“มีกระแสข่าวว่า พล.อ.พิศาล เคลื่อนไหวอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น”, มาดามแพโยนลูกว่า “เรื่องนี้ต้องให้อินเตอร์โพล (ตำรวจสากล) เป็นผู้ติดตามค่ะ”
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ต้องรับบทหนักในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งนอกจากจะต้องเป็นผู้จัดการรัฐบาลแล้ว..ก็ยังต้องกะเตง“มาดามแพ”ผู้เป็น“นายน้อยแห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า”ในฐานะพี่เลี้ยง..ได้แสดงบทอย่างเป็นเรื่องเป็นราวต่อหน้าสื่อ..ด้วยการอ่านเนื้อหาที่เป็นถ้อยความในหนังสือลาออกของ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี..โดยอ้างว่า พล.อ.พิศาล ได้ส่งตัวแทนมายื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย
เนื้อหาในใบลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยของ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ที่“เดอะอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย” อ่านให้สื่อประจำทำเนียบรัฐบาลฟังด้วยใบหน้าสีแดงเลือดฝาดและยิ้มละไมเหมือนยกอกออกจากภูเขา-มีความว่า
“เรื่องขอลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย เรียน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย..ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า กระผมตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาของศาลจังหวัดนราธิวาส ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2547 ดังกล่าวนั้น”
“โดยเหตุที่ขณะนี้ ผมอยู่ในระหว่างรักษาอาการป่วย และอยู่ในระหว่างการพักฟื้น โดยผมได้ยื่นใบลากับสภาผู้แทนราษฎร และได้รับอนุมัติตามระเบียบแล้ว”
“อย่างไรก็ตาม ผมได้ทราบข้อเท็จจริงว่า ได้มีความพยายามนำเอาประเด็นของผมไปเคลื่อนไหว จะมีผลให้เกิดการขยายความขัดแย้งในสังคม และมีการผูกโยง เพื่อให้มีผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งผมเป็นสมาชิกพรรค และดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีความเกี่ยวข้องต่อเรื่องราวดังกล่าวแต่อย่างใด
“ผมจึงเห็นว่า เพื่อไม่ให้พรรคเพื่อไทยได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากตัวผม และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมจึงขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกันถือเป็นการขาดสมาชิกภาพการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อมิให้เป็นภาระต่อสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”
“สำหรับคดีความที่เกิดขึ้น ผมจะขอมาดำเนินการชี้แจงด้วยตัวเอง เมื่ออาการป่วยของผมทุเลาลง”
ส่วนจะทุเลาลงเมื่อไรและ“กี่โมง”นั้น พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ไม่ได้แจ้ง..แต่เชื่อว่าหลังวันที่ 25 ตุลาคมอีกเก้าวันข้างหน้า..เมื่อ“คดีตากใบ”ซึ่งมี“คนตายทั้งเป็น”ถึง 78 ศพจากการขาดอากาศหายใจระหว่าง“ควบคุมตัว-ขนย้าย”ครบ 20 ปีหมดอายุความ..อาการของพล.อ.พิศาลก็คงจะทุเลาและกลับเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน
เหตุที่เชื่ออย่างนั้น..เพราะเพื่อไทยการละครและและรัฐบาลโกหกอย่างเกรียงไกร“อุ๊งอิ๊งค์ 1”คณะนี้..ผู้อำนวยการสร้างชื่อ“ทักษิณ ชินวัตร”..และตัวผู้อำนวยการก็เคยแสดงในบท“ผู้ป่วยวิกฤตใกล้ตาย”มาแล้ว..จากละครน้ำเน่าหมิ่นเย้ยประชาชนคนไทยเรื่อง“นักโทษเทวดาชั้น 14”..ซึ่งหลังจากได้รับการพักโทษกลับไปอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้าอาการป่วยก็หายเป็นปลิดทิ้งทันที
ถึงอย่างไรก็ตามแต่..เรื่อง“คดีตากใบ”นี้..ดีไม่ดีอาจจะบานปลายกลายเป็นเป็น“คาร์บอม”ทำลายล้างรัฐบาลก็เป็นได้..หากกระแสการเคลื่อนไหวของพรรคประชาชน และภาคประชาสังคม..ตลอดจนมวลชนชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จุดติด !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี