กรรมยุคสมัยนี้ติดจรวดต่อให้คิดว่าตนเองอยู่เหนือกฎเกณฑ์กติกา ใหญ่โตยโสโอหังสักปานใด ย่อมไม่อาจหลบลี้หนีเลี่ยงกรรมที่ก่อไว้ได้อย่างแน่นอน
นักโทษเด็ดขาดชายคดีทุจริตคอร์รัปชั่นฉ้อฉลเงินแผ่นดินก็เช่นกัน วันหนึ่งก็ต้องประสบพบเจอกับปุถุชนที่ไม่ยอมก้มกราบศิโรราบให้กับ “ทุนสามานย์” จึงอาศัยบทบัญญัติมาตรา 49 ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ชินวัตร (ที่ 1) เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพเซาะกร่อนบ่อนทำลายอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โดยร่วมกับพรรคเพื่อไทย (ที่ 2) ซึ่งควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน นับแต่ภายใต้การบริหารของ“เจ้ายักษ์นักกู้ผ้าขาวม้าพันคอ /- เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30” สั่งการรัฐบาล ผ่านกระบวนการยุติธรรมเริ่มจากกรมราชทัณฑ์, กระทรวงยุติธรรม, โรงพยาบาลตำรวจ ให้ร่วมกันเอื้อประโยชน์แก่ตัวเองระหว่างต้องโทษจำคุกให้อยู่ห้องพัก ชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ (88 พรรษา) โรงพยาบาลตำรวจ ในสถานะผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดเพียงเพื่อไม่ต้องรับโทษอยู่ทัณฑสถานเฉกเช่นผู้ต้องขังรายอื่นๆ แม้สักวันเดียว
อันเป็นการกระทำที่ท้าทายและประจักษ์แก่สังคมไทย ทั้งที่มีการเรียกร้องทั้งในที่สาธารณะและในรัฐสภาให้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงอาการป่วยของนักโทษผู้นี้มาโดยตลอด
แต่มีความพยายามบ่ายเบี่ยง โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมายเอื้อประโยชน์แก่นักโทษผู้นี้ อันถือเป็นการใช้พรรคเพื่อไทยเป็นเครื่องมือเซาะกร่อนบ่อนทำลายพระเกียรติยศสถาบันพระมหากษัตริย์
นอกจากนี้ยังฝักใฝ่คบหาร่วมคิดกับจอมพล สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุนเซน ประธานคณะองคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาโดยใช้รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำเอื้อประโยชน์กับสมเด็จฯ ฮุนเซน ยินยอมให้ประเทศกัมพูชา ละเมิดอธิปไตยทางทะเลของไทยเพื่อให้มีการเจรจาพื้นที่ ที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่า เป็นเขตพื้นที่ทับซ้อน
ทางทะเล ตาม MOU อัปยศที่เคยลงนามร่วมกันไว้ในปีพ.ศ. 2544ซึ่งในขณะนั้นมี “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมี “สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ในฐานะรมว.ต่างประเทศ” กับ “นายซก อัน รัฐมนตรีอาวุโส และประธานปิโตรเลียมกัมพูชา” ในขณะนั้น ที่แบ่งผลประโยชน์จากปริมาณก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของไทยให้แก่
ราชอาณาจักรกัมพูชาซึ่งเป็นผลประโยชน์มหาศาล
โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศไทยแม้แต่น้อย จนบันทึกดังกล่าวถูกยกเลิกโดยมติครม.ใน “รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”
เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมไทยว่า “ทักษิณ ชินวัตร” ครอบครอง, ครอบงำ จุ้นจ้าน เจ้ากี้เจ้าการให้พรรคเพื่อไทยเจรจากับแกนนำพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเนื่องจากฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงโดยเฉพาะข้อ 8 มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์เพื่อหารือเสนอบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ทันทีที่ศาลรธน.มีคำวินิจฉัยดังกล่าว ณ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” จนได้ชื่อ “ชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่สองของพรรคเพื่อไทย
ทว่า รุ่งขึ้นเปลี่ยนใจเปลี่ยนเป็น “นังลูกสาวออ.,มาดามแพ /- แพทองธาร ชินวัตร”โดยอาศัยมติพรรคเพื่อไทยเพื่อสร้างความชอบธรรมก่อนที่รัฐสภาจะลงมติตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ.2560 เลือก “นังลูกสาวออ., มาดามแพ /-แพทองธาร ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 สร้างตำนานนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดหลังปฏิวัติสยาม
ผลตอบแทนสังคมไทย, ขโมยศรัทธาของแฟนคลับติ่งแดงติ่งสัมภเวสีไปเป็นผลประโยชน์มหาศาลทั้งคอร์รัปชั่นฉ้อฉลเงินแผ่นดินซึ่ง “ทักษิณ”ให้และรับที่ไม่ใช่ลักษณะ “อัฐยายซื้อขนมยาย” ด้วยซ้ำ
อย่าโอดครวญเสแสร้งว่านี่คือ “นิติสงครามอัปยศ” ที่กล่าวหาใส่ร้ายกลั่นแกล้ง เพราะความลับไม่มีในโลกเมื่อช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด กรรมชั่วก็เช่นกันย่อมแสดงออกและได้รับผลกรรมนั้น
จึงไม่แปลกที่ “กรรมชั่ว” จะตามติดราวจรวด และมาเร็วกว่าที่คาด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี