ประเทศไทยภายใต้การบริหารของรัฐบาล“มาดามแพ”มี 2 ปัญหาใหญ่ที่น่าจับตา..คือ เรื่องการเมืองและเรื่องเศรษฐกิจ
ปัญหาการเมืองเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอำนาจและผลประโยชน์ของนักการเมืองและพรรคการเมืองโดยตรง..จะว่าไม่เกี่ยวกับประชาชนส่วนใหญ่ ก็คงพูดได้..นั่นคือเรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการออกกฎหมายนิรโทษกรรม
ทั้งสองเรื่องที่ว่านั้น..สามารถจะกลายเป็นระเบิดเวลาทำลายล้างให้รัฐบาลต้องมีอันเป็นไปก็ได้..ถ้าหาก สส.จากพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน..ดันทุรังที่จะให้สมประโยชน์ของตน..โดยเฉพาะเรื่องการนิรโทษกรรม ถือว่าอันตรายมีจุดเสี่ยง..หากมีการพ่วงคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เข้ามาด้วย
เพราะใครก็รู้ว่า..พรรคเพื่อไทยต้องการจะช่วยอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ที่มีคดีมาตรา 112 เป็นบ่วงมัดคออยู่..ขณะที่พรรคประชาชนนั้นได้เสียโดยตรง..เพราะทั้ง สส.ลูกพรรค และ“มวลชนด้อมส้ม”ได้ตกเป็นจำเลยและถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกไปแล้วมีจำนวนไม่น้อย..บางรายก็มีโทษติดตัวและหลบหนีออกไปอยู่ในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเศรษฐกิจ..เป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าปัญหาการเมืองว่าด้วยเรื่องรัฐธรรมนูญ และเรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรม..เพราะปัญหาเศรษฐกิจส่งผลกระทบโดยตรงต่อ“การกินการอยู่”ของประชาชนคนไทยส่วนใหญ่..ที่รัฐบาลจะต้องพิสูจน์ฝีมือและเร่งแก้ไขให้ได้
โจทย์ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของ“มาดามแพ” หรือ“คุณหนูอุ๊งอิ๊ง”ที่เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะ“พ่อจัดให้”ตั้งไว้..คือ จะทำให้คนไทย“มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี”..โดยมุ่งหวังเพื่อสร้างความหวังและอนาคตที่ดีกว่าให้ประเทศไทย..ด้วยการเร่งสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจให้แก่คนไทยทุกคน
ปัญหาที่ดำรงอยู่ของสังคมไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็คือ ประชาชนส่วนใหญ่มีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย..หากดูจากตัวเลขเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินครัวเรือนในปัจจุบัน..ก็จะพบว่าสูงทีเดียว..โดยมียอดมากกว่า 16 ล้านล้านบาท..ทั้งหนี้ในระบบและนอกระบบ..เฉลี่ยแล้วเป็นหนี้ครัวเรือนละ 5.4 แสนบาท..โดยที่ยังไม่นับรวมกับหนี้สาธารณะของประเทศ..ที่คนไทยทุกคนจะต้องร่วมกันชดใช้เฉลี่ยคนละ 1.6 แสนบาท..จากยอดทั้งหมดประมาณ 11.4 ล้านล้านบาท
จากการแถลงนโยบายต่อรัฐภาของรัฐบาล“มาดามแพ” เรื่องเร่งด่วนที่จะทำเฉพาะหน้าก็คือ“แก้หนี้-ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้-กระตุ้นเศรษฐกิจ”
เรื่องการแก้หนี้นั้น..ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม และจะกี่รัฐบาลต่อกี่รัฐบาลก็ไม่เคยเห็นมีรัฐบาลไหนแก้ปัญหาได้สำเร็จ..เห็นมีแต่“ยิ่งแก้ก็ยิ่งพอก”กลายเป็นดินพอกหางหมู
สำหรับการลดรายจ่าย..รัฐบาลของ“มาดามแพ”เพิ่งจะตีฆ้องร้องป่าวกดปุ่ม“โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ”ไปเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา..ด้วยคำโฆษณา“ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้-ขยายโอกาส” ให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชน..โดยให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสนับสนุนในทุกมิติ
เช่นว่า การลดค่าเช่า“ร้านค้า-ค่าเช่าแผง”ในพื้นที่หน่วยงานราชการ..และพื้นที่เอกชนที่เข้าร่วมโครงการ..พร้อมทั้งเพิ่มพื้นที่ค้าขายให้ผู้ประกอบการรายเล็กมีช่องทางทำมาค้าขายเพิ่มขึ้น..ด้วยการให้กระทรวงกลาโหมนำพื้นที่ค่ายทหาร และกระทรวงมหาดไทยใช้ลานหน้าศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัดมาทำเป็นตลาดนัด..ส่วนการลดค่าครองชีพให้ประชาชน..ก็ด้วยการจับมือผู้ผลิตและผู้ค้าส่งรายใหญ่เพื่อลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และจัดงานมหกรรมลดราคาสินค้า..ที่มีภาคเอกชนทั้งผู้ผลิตรายใหญ่และห้างสรรพสินค้าเข้าร่วม
จะได้ผลมากน้อยแค่ไหนก็ต้องดูกันต่อไป..แต่“มาดามแพ”เธอแถลงในวันกดปุ่ม“Kick Off”โครงการนี้โดยรัฐบาลคาดการณ์ว่า..จากการผนึกกำลังกันอย่างเข้มแข็งของทุกฝ่าย..จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากถึง 110,000 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้รัฐบาล“มาดามแพ”ก็ได้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจตามโครงการ“ดิจิทัล วอลเล็ต”ไปแล้ว..ด้วยการแจกเงินจากเงินดิจิทัลเป็นเงินสดจำนวน 1.45 แสนล้านบาทให้แก่คนไทยกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา..โดยรัฐบาลตั้งเป้าว่าจะเป็น“พายุหมุน”ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว
แต่ก็แปลก หลังจากแจกเงินก้อนโตที่ไม่ใช่เงินของพรรคเพื่อไทยหรือของ“ตระกูลชินวัตร”..หากแต่เป็นเงินซึ่งคนไทย 70 ล้านคนจะต้องแบกรับภาระหนี้สินร่วมกันไปแล้ว..อย่าว่าแต่เสียงพายุเลย เสียงลมของปีกแมลงหวี่ก็ไม่มีใครได้ยิน..มีแต่ความเงียบวังเวง..แบบทุกบาททุกสตางค์หายไปกับสายลมแผ่วเบา
อีกเรื่องหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยชอบไปวอแวหาเรื่องกับแบงก์ชาติ..พยายามจะกดดันให้มีการลด“อัตราดอกเบี้ยนโยบาย”..โดยอ้างว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เกี่ยวพันกับปัญหาเศรษฐกิจทั้งเรื่องหนี้สิน, เรื่องทำมาค้าขาย และเรื่องการลงทุน..ซึ่งคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็ยอมลดให้แล้วจากการประชุมเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมสองวันก่อนโดยให้มีผลทันที..จาก 2.50 เปอร์เซ็นต์ ลงมาเป็น 2.25 เปอร์เซ็นต์..คือยอมปรับลดให้ 0.25 เปอร์เซ็นต์
อีกไม่นานก็คงมองเห็นว่า..ทุกอย่างจะเป็นไปตามราคาคุยของรัฐบาล“มาดามแพ”หรือไม่..เพราะเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคซึ่งชอบอ้างหาเหตุกันนั้น..ได้มีการปลดล็อคให้แล้ว..ซึ่งสิ้นเดือนธันวาคมอีกสองเดือนข้างจะเห็นผลหรือไม่ยังเร็วเกินไป..พออนุโลมกันได้..แต่ถึงเดือนมีนาคมเมษายนปีหน้าคงได้เห็นกัน
คงจะได้เห็นว่าคนไทย“มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี”..หรือว่าต้องสิ้นเนื้อประดาตัวไปตามๆ กัน !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี