ก่อนอื่นต้องถามว่า คุณๆ เห็นความผิดปกติอย่างชัดเจนในการที่ตำรวจเร่งรัดจับกุมตัวเหล่าบรรดา boss ของบริษัท THE iCON GROUP หรือ THE iCON หรือไม่ และต้องถามต่อไปว่าคุณๆ เห็นความผิดปกติที่รัฐบาลชุดนี้สั่งการให้ตำรวจเร่งรัดทำคดีดังกล่าวหรือไม่
อันที่จริงต้องบอกว่าการที่ตำรวจเร่งรัดทำคดีเป็นเรื่องที่ดี น่ายกย่อง น่าชมเชย แต่คำถามก็คือ แล้วที่ผ่านๆ มานั้น ตำรวจไทยเร่งรัดทำคดีสำคัญที่ผู้คนจำนวนมากได้รับความเสียหายจริงหรือ แต่ทำไมจึงเร่งรัดทำคดี THE iCON มากจนผิดสังเกต
คำถามตามมาคือการเร่งรัดทำคดี THE iCON เป็นความพยายามจงใจเบี่ยงประเด็น หรือกลบเกลื่อนประเด็นการเมืองบางเรื่อง ใช่หรือไม่ เรื่องการเมืองที่หลายคนพูดถึงคือ เรื่องที่รัฐบาลไทยอ้างว่ามีพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทยกับกัมพูชา รวมถึงเรื่องที่อาจจะนำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทย เป็นต้น
ต้องย้ำว่าเรื่องของ THE iCON GROUP ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะบริษัทนี้ไม่ใช่เพิ่งก่อตั้งเมื่อวันหรือเดือนก่อน แต่ตั้งมาอย่างน้อยๆ 5-6 ปีแล้ว โดยจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทเมื่อ 1 มิถุนายน 2561 แล้วหลังจากนั้นก็ขยายกิจการของบริษัทไปอีกหลายบริษัท ซึ่งเรื่องเหล่านี้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบกิจการของบริษัทในเครือ THE iCON จำเป็นต้องรับรู้ เพราะว่าเขาจดทะเบียนบริษัทถูกต้อง ส่วนเรื่องที่มีคนจำนวนมากไปร้องเรียนว่าถูกบริษัทหลอกลวง ก็เป็นเรื่องที่ต้องถามไปยังหน่วยงานรัฐที่ดูแลการดำเนินกิจการของบริษัท THE iCON ว่าเหตุใดจึงปล่อยให้ประชาชนจำนวนมากถูกหลอกลวง อย่าลืมว่าบริษัท THE iCON จดทะเบียนกับหน่วยงานของรัฐ แล้วเหตุใดหน่วยงานของรัฐจึงเพิกเฉยกับการเข้าไปตรวจตราการทำธุรกิจของบริษัท
แน่นอนว่ามีผู้คนจำนวนมากไปร้องเรียนกับหน่วยงานของรัฐว่าได้รับความเสียหายมากบ้างน้อยบ้าง จากการเข้าไปทำธุรกิจกับบริษัท THE iCON อันที่จริงต้องบอกว่าที่เรื่องนี้เป็นข่าวดังข่าวใหญ่ในสังคมไทยนั้น มิได้เกิดมาจากการเข้าไปตรวจสอบบริษัทโดยหน่วยงานของรัฐ แต่เกิดมาจากเรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่เพราะรายการทีวีรายการหนึ่ง (พูดชื่อตรงๆ เลยก็ได้ คือโหนกระแส) นำเสนอเรื่องราว แล้วหลังจากนั้นข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปในรายการประเภทพูดคุยเล่าข่าวตามสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ
ถามต่อไปว่าหากเรื่องนี้ไม่ได้ถูกเขย่าหรือถูกนำเสนอโดยรายการทีวีจำพวกเล่าข่าวคุยข่าวแล้ว ข่าวนี้จะดังเป็นพลุระเบิดเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้หรือไม่ เพราะต้องไม่ลืมว่าอันที่จริงเรื่องต่างๆ ของ THE iCON ได้ถูกนำเสนอใน social media มาโดยตลอด แถมยังมีการติดป้ายโฆษณาบริษัทบน billboard ขนาดมหึมาทั่วเขตกรุงเทพฯ และตามเมืองใหญ่ๆ เช่น พัทยา
ขอถามย้ำว่าหากเรื่องนี้ไม่ถูกสื่อมวลชนนำเสนอ หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ต้องดูแลและควบคุมกิจการของ THE iCON จะตื่นตัวทำหน้าที่หรือไม่ และต้องย้ำว่าทุกวันนี้ก็ยังดูเสมือนว่ามีอีกหลายบริษัทหรือหลายเว็บไซต์ที่ไม่น่าจะขายของหรือโฆษณาขายของอย่างถูกต้องโปร่งใส และขาวสะอาดมากนัก หลายเว็บไซต์ขายของกินของใช้ และขายยาแบบที่ดูแลน่าจะเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง โฆษณาชวนเชื่อ และน่าจะเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค แต่คำถามคือทำไมไม่มีหน่วยราชการไทยหน่วยไหนเข้าไปจัดการกับเว็บไซต์ขายของที่ไม่น่าจะถูกกฎหมายเหล่านั้น
ส่วนประเด็นที่ตำรวจถูกวิจารณ์ว่าเร่งรัดรีบร้อนจับตัวบรรดาบอสต่างๆ ของ THE iCON เป็นการกระทำเพื่อจงใจสร้างประเด็นเพื่อกลบเกลื่อนข่าวการเมืองอื่นๆ หรือเปล่าโดยข่าวการเมืองที่ถูกวิจารณ์ว่าจงใจทำให้ถูกมองคือ ข่าวที่มีผู้ไปร้องยุบพรรคเพื่อไทย ข่าวทักษิณ ชินวัตร มีอิทธิพลเหนือพรรคการเมือง ข่าวทักษิณ ชินวัตร ไม่ติดคุกโดยอ้างว่าป่วยหนัก และข่าวที่รัฐบาลชุดนี้อ้างว่ามีพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทยกับกัมพูชา รวมถึงข่าวคดีตากใบใกล้จะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 และเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเพื่อช่วยคนทำผิดคดีมาตรา 112 เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนยอมรับว่าเรื่อง THE iCON เป็นเรื่องไม่เล็กสำหรับมูลค่าความเสียหายที่สังคมได้รับทราบจากข่าว แต่ก็ต้องถามกลับว่าแล้วในสังคมไทยยังมีเรื่องทำนองเดียวกับ THE iCON อีกหรือไม่ หน่วยงานราชการมั่นใจหรือว่าคดี THE iCON เป็นเพียงคดีเดียวในสังคมไทยที่ก่อความเสียหายร้ายแรงอย่างมากต่อคนจำนวนหนึ่งในสังคมนี้ ถามว่าเรื่องทุจริตต่างๆ นานาในวงการการเมือง และวงการราชการไม่มีแล้วใช่หรือไม่ ต้องขอตอบว่ายังมีเรื่องทุจริตต่างๆ นานา มากมายในสังคมไทย ก็แล้วเหตุใดตำรวจและหน่วยราชการไทยไม่เห็นตั้งอกตั้งใจเร่งรัดเร่งรีบทำคดีให้เหมือนกับที่ทำกับคดี THE iCON
มีคำถามนอกเหนือจากเรื่องจงใจเบี่ยงประเด็นการเมืองแล้ว ก็ยังมีคำถามอีกว่า ที่ตำรวจเร่งรัดทำคดี THE iCON เพราะว่าคดีมีเงินมีทองมหาศาลเป็นเครื่องล่อใจให้เร่งทำคดีด้วย ใช่หรือไม่
คนที่ติดตามข่าวนี้จะทราบว่ามีเรื่องเทวดาที่ต้องเซ่นไหว้ทั้งในสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และมีเทวดาใน DSI (กรมสืบสวนคดีพิเศษ) รวมถึงยังมีนักการเมืองประเภทเปรตอสุรกายเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย ถามว่าต้องเอาอะไรไปเซ่นไหว้บรรดาเทวดาใน สคบ. และ DSI แล้วต้องเอาอะไรไปเซ่นบรรดานักการเมืองผีเปรตคำตอบคือเงิน เงิน และเงินจำนวนมาก เพราะ THE iCON มีรายได้หลายพันหลายหมื่นล้านบาท เพราะฉะนั้น ก็ต้องจ่ายค่าเซ่นไหว้เป็นเงินจำนวนมหาศาลด้วย
แค่เราได้ฟังเสียงนักการเมืองผีเปรตรายหนึ่งที่คุยกับบอสพอล แล้วบอกให้บอสพอลต้องจ่าย เพื่อจะได้เลือกผู้ใหญ่ที่จะเข้าไปคุมหน่วยงานของรัฐบางหน่วยได้ ก็ทำให้เห็นถึงความเสื่อมทรุดเลวทรามของระบบได้อย่างถึงแก่นแล้ว มีบางคนถามว่าเชื่อได้หรือกับคำพูดของนักการเมืองผีเปรต ตอบว่าเชื่อได้ เพราะบ้านเมืองนี้มีนักการเมืองผีเปรตและเหล่าข้าราชการจำพวกซาตานมากมาย หลายคนประจักษ์ดีถึงความเสื่อมโทรมของระบบราชการไทย และประจักษ์ดีถึงความคดในข้องอในกระดูกของเหล่าข้าราชการไทยจำนวนมิใช่น้อย
มีคำถามว่า ทำไมรัฐบาลชุดล่าสุดที่มีนายกรัฐมนตรีชื่อแพทองธาร ชินวัตร ต้องกำชับให้ตำรวจเร่งรัดทำคดี THE iCON แต่ทำไมไม่เห็นรัฐบาลแพทองธารเร่งรัดให้ตำรวจทำคดีทักษิณไม่ติดคุก และทำไมไม่เร่งรัดให้ตำรวจสอบหาข้อเท็จจริงเรื่องทักษิณอยู่ที่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ จริงหรือไม่ ทำไมไม่เร่งรัดให้นำหลักฐานต่างๆ ไปเปิดเผยกับสาธารณชน
ยิ่งเร่งรัดทำคดี THE iCON มากจนเกินพอดี ก็ยิ่งทำให้สังคมตั้งคำถามกลับไปยังรัฐบาลว่าจงใจเบี่ยงประเด็นการเมืองหรือไม่ พร้อมกับถามต่อไปว่ารัฐบาลกำลังจงใจหมกเม็ดเรื่องสำคัญๆ เพื่อให้สาธารณชนเลิกติดตามเรื่องสำคัญเหล่านั้น ใช่หรือไม่
กลอุบายจงใจสร้างประเด็นอื่นๆ ขึ้นมาเพื่อเบี่ยงเบนหรือกลบเกลื่อนประเด็นการเมืองสำคัญๆ เป็นกุศโลบายที่นักการเมืองนิยมใช้กันมาโดยตลอด เพราะสามารถทำให้สาธารณชนลดความสนใจ และเลิกจับตามองความไม่ปกติทางการเมือง แล้วหันไปมองเรื่องอื่นๆ ที่จงใจถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเบี่ยงประเด็น กลอุบายนี้เรียกว่า diversification หรือการสร้างเรื่องเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
ความจริงนั้น สาธารณชนจะไม่ตั้งคำถามใดๆ และจะไม่มีข้อสงสัยใดๆ เลย ถ้าหากตำรวจไทยตั้งใจทำคดีต่างๆ ให้รวดเร็วเหมือนอย่างทำคดี THE iCON แต่ต้องบอกว่าที่ผ่านๆ มานั้น สังคมไทยเห็นมาโดยตลอดว่าตำรวจไม่ได้ตั้งใจทำคดีสำคัญให้รวดเร็วเหมือนการทำคดี THE iCON เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็จึงทำให้สังคมจับได้ถึงความไม่ปกติของการเร่งรัดทำคดีนี้
ถามต่อไปว่าคดีกำนันนก คดีส่วยทางหลวง และเรื่องพิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยหนีหมายศาลคดีตากใบ เป็นต้น เรื่องสำคัญๆ เหล่านั้นตำรวจเร่งรัดทำคดีหรือไม่ อันที่จริงต้องบอกว่ายังมีคนไทยจำนวนไม่น้อยถูกฉ้อโกงโดยขบวนการ FOREX-3D เรื่องทองแม่ตั๊ก เรื่องนักการเมืองบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าสงวน เรื่องนักการเมืองทำผิดคดีอาญา และอีกสารพัดเรื่อง ขอถามย้ำว่าตำรวจเร่งรัดทำคดีเหล่านั้นเหมือนกับการเร่งรัดทำคดี THE iCON หรือไม่
ตำรวจต้องรู้ตัวไว้ด้วยว่าสาธารณชนมองการทำงานของตำรวจอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และมีหลายครั้งที่สาธารณชนไม่ไว้วางใจ ไม่เชื่อมั่นการทำงานของตำรวจ และมองว่าตำรวจทำคดีโดยมีใบสั่งทางการเมือง เมื่อตำรวจถูกมองเช่นนั้น ก็จึงทำให้สาธารณชนไม่ไว้วางใจการทำงานของตำรวจ
มีคำถามด้วยว่าศาลไทยทำไมจึงเร่งรัดออกหมายจับบอสต่างๆ ของ THE iCON แล้วทำไมไม่เห็นเร่งรัดออกหมายจับนักการเมืองที่ทำผิดกฎหมายให้รวดเร็วบ้าง
ประชาชนไทยอยากเห็นการเร่งทำงานทั้งโดยตำรวจและศาลเพื่อให้สังคมไทยเกิดความสุขสงบ และคงจะเป็นเรื่องดีเยี่ยมสุดยอดกับสังคมไทยถ้าหากตำรวจและศาลเร่งทำคดีต่างๆ ให้เหมือนกับที่ทำกับเหล่าบรรดาบอสของ THE iCON
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี