คดีฉ้อฉลอันเกิดจากแชร์ลูกโซ่ การฉ้อโกงในบริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ และการขายตรงแบบไม่สุจริต ทำความเสียหายให้สาธารณะมากมายมหาศาล แต่ก็ต้องบอกว่ายังมีการฉ้อโกงอีกแบบหนึ่งที่ทำความเสียหายให้สาธารณะไม่น้อย นั่นคือการฉ้อโกง โกงกินภายในมหาวิทยาลัย และการทุจริตรูปแบบต่างๆ ในวัดของศาสนาพุทธ (อันที่จริงมีข้อมูลเกี่ยวกับการฉ้อโกงภายในวัดหรือกลุ่มผู้บริหารศาสนาคริสต์ด้วย แต่ขอไม่กล่าวถึงในวันนี้ แต่จะมาขยายความให้ฟังในโอกาสต่อๆ ไป)
คนไทยที่ติดตามข่าวมานานต้องรู้จักคดีแชร์แม่ชม้อย แม่นกแก้วอย่างแน่นอน และยังรู้จักเรื่องการโกงกินในบริษัทหลักทรัพย์ และในธนาคารบางแห่งแล้วก็จะได้พบได้เห็นคดีโกงกินต่างๆ นานา มาจวบจนปัจจุบัน โดยหลายคนยังจำคดีทุจริตในบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ และเครดิตฟองซิเอร์หลายแห่งของไทยได้แม้กระทั่งปัจจุบันก็ยังคงพบว่ามีหลายบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทยก็ยังมีเหตุทุจริตเป็นประจำ ส่วนคดีที่กำลังดังมากๆ ในขณะนี้คือคดีของบริษัท THE iCON GROUP แต่ก็ต้องบอกว่าคดี THE iCON GROUP เป็นแค่เพียงปัญหาบนยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วยังมีอีกหลายองค์กร หลายบริษัท และหลายกลุ่มที่น่าจะมีปัญหาทุจริตโกงกินไม่น้อยหน้าไปกว่า THE iCON GROUP
มีคำถามว่า เคยได้ยินข่าวการโกงกิน การทุจริตภายในวัด ในมหาวิทยาลัยบ้างไหม ตอบว่า ได้ยินบ่อยมากจนจำไม่ได้ เพราะฉะนั้น ต้องบอกว่าวัดและมหาวิทยาลัยหลายแห่งในไทยไม่ใช่พื้นที่ที่ขาวสะอาด ปราศจากการทุจริตโกงกิน
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าวัดกับมหาวิทยาลัยเป็นแหล่งที่ขาวสะอาดมากที่สุด เพราะมีพระสงฆ์ และครูบาอาจารย์อยู่ในสถานที่เหล่านั้น ขอบอกว่าเข้าใจผิดอย่างมาก แต่ต้องขอบอกให้ทราบโดยทั่วกันว่าวัดและมหาวิทยาลัยนี่แหละคือแหล่งทุจริตที่สำคัญของไทย
เคยได้ยินข่าวเหล่านี้หรือไม่ มหาวิทยาลัยเปิดบางแห่งมีการโกงกินกันสนั่นเมือง เพราะสร้างตึกสร้างอาคารแล้วไม่สามารถเปิดใช้ได้ เพราะมีปัญหาการทุจริตโกงกินงบก่อสร้าง ส่วนผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยหลายแห่งก็โกงกินสารพัด บ้างก็ใช้เงินหลวงโดยผิดกฎหมาย บ้างก็จัดทัวร์ไปเที่ยวต่างประเทศ แต่อ้างว่าไปดูงาน ไปอบรม ส่วนบางมหาวิทยาลัยนั้น ผู้บริหารทำธุรกิจแอบแฝงอยู่ในมหาวิทยาลัย เช่น ฮั้วกับบริษัทรักษาความปลอดภัย ฮั้วกับบริษัทดูแลอาคารจอดรถยนต์ ฮั้วกับบริษัทรับจัดงาน จัด event ต่างๆ ในมหาวิทยาลัย บางมหาวิทยาลัยก็โกงกันสนั่นเมืองในสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ใช้ชื่อมหาวิทยาลัย โดยปล่อยให้ผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ลงหลักปักฐานอยู่ในตำแหน่งยาวนานเป็น 20-30 ปี แล้วสุดท้ายสหกรณ์ออมทรัพย์ของมหาวิทยาลัยแห่งนั้นก็เกิดอาการฝีแตก เพราะนำเงินของสหกรณ์ฯ ไปปล่อยกู้ให้กับสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย แล้วยังพบอีกว่าผู้บริหารสหกรณ์ฯ ใช้เงินของสหกรณ์ฯ ไปเที่ยวต่างประเทศกันอย่างเอิกเกริก แต่น่าสมเพชมากที่มหาวิทยาลัยเหล่านั้นมีคณะนิติศาสตร์ มีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มีคณะบริหารธุรกิจ แต่ทว่าคนสอนหนังสือในคณะดังกล่าวไม่มีปัญญาตรวจสอบเรื่องราวภายในของมหาวิทยาลัย เท่านั้นยังไม่พอยังพบอีกว่าผู้บริหารมหาวิทยาลัยบางแห่งยังมีพฤติกรรมเข้าข่ายทุจริตคอร์รัปชั่นอีกด้วย โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยถูกสังคมมองว่ามีที่ดินทองคำเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย
ส่วนการทุจริตฉ้อโกงภายในวัดก็มีให้เห็นมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นวัดใหญ่หรือวัดเล็กที่มีเจ้าอาวาสร่วมมือก่อเหตุทุจริตร่วมกับกรรมการวัด วัดบางวัดมีพฤติกรรมไม่ต่างไปจากร้านขายของ เพราะขายและเก็บเงินจากคนเข้าวัดแบบไร้สำนึกว่าวัดคือสถานที่แห่งบุญกิริยา แต่กลับเห็นว่ามีการขายของสารพัดชนิดภายในวัด จนกลายเป็นพุทธพาณิชย์ ส่วนเจ้าสำนักหรือเจ้าอาวาสจำนวนไม่น้อยก็มีพฤติกรรมหลวงเจ๊ หลวงแม่กันอย่างโจ๋งครึ่ม บางสำนักนั้นเจ้าสำนักก็มีพฤติกรรมรีดไถเงินจากคนเข้าวัดโดยอ้างว่าเพื่อการซื้อบุญ ซื้อสวรรค์ ซื้อโชคลาภกันโดยไม่สำเหนียกว่าผิดพระวินัย แต่ก็เข้าใจได้ว่าพวกโล้นห่มเหลืองเหล่านั้นมิใช่พระสงฆ์ แต่เป็นอลัชชีของแท้
อยากเตือนสติว่าอย่าไปหลงเชื่อว่าคนโกนหัวห่มเหลืองทุกรายคือพระสงฆ์ที่แท้จริง และต้องย้ำด้วยว่าอย่าไปเชื่อว่าคนทุกคนที่สอนหนังสือในมหาวิทยาลัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจำพวกผู้บริหารมหาวิทยาลัยคือคนที่ไม่โกงไม่กิน อย่าไปเชื่อว่าคนที่มีการศึกษาดี จบมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของโลกจะไม่มีสันดานฉ้อฉลโกงกิน เพราะความจริงนั้นทั้งพระและคนสอนหนังสือและผู้บริหารมหาวิทยาลัยจำนวนไม่น้อยโกงไม่น้อยหน้าคนที่กำลังถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นคนขี้โกงจากคดี THE iCON และขอบอกตรงๆ ว่าผู้บริหารมหาวิทยาลัยไทยจำนวนไม่น้อยโกงและฉ้อฉลสารพัด แต่ยังลอยหน้าว่าขาวสะอาด เพราะนิสิตนักศึกษาไม่เคยตรวจสอบว่ามีการฉ้อฉลอย่างไรบ้างในมหาวิทยาลัยที่พวกเขากำลังเรียนหนังสืออยู่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี