วันที่ 25 ตุลาคมนี้แล้ว ที่อายุความของ “คดีตากใบ” จะหมดลง ประเมินสถานการณ์กันว่า จะเป็นเงื่อนไขให้“ผู้พร้อมจะก่อเหตุความรุนแรง” ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้” ใช้เป็นข้ออ้างในการปลุกระดมผู้คนและก่อเหตุรุนแรง
เช่นเดียวกับ “การเมือง” ที่พรรคประชาชาติ “เงียบกริบ” พรรคเพื่อไทยไม่ต้องพูดถึง คนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ฝังใจกับแนวนโยบาย “อำมหิต” สมัยรัฐบาลทักษิณ พรรคประชาธิปัตย์-เงียบ มีเพียงนายชวน หลีกภัย เท่านั้น ที่แสดงความคิดเห็น พรรครวมไทยสร้างชาติ-เงียบ พรรคภูมิใจไทย-เงียบ จึงเปิดทางให้ “พรรคสีส้ม” รับบท “พระเอก” เป็นปากเป็นเสียงให้แก่ครอบครัวผู้สูญเสีย เรียกหา“ความยุติธรรม”
ในวันข้างหน้า สามจังหวัดชายแดนภาคใต้อาจกลายเป็น“พื้นที่สีส้ม” เนื่องจากเป็นสีเดียวที่ยืนอยู่เคียงข้างพวกเขา
1) ถามว่าเรื่อง “หมดอายุความ” พอจะมีทางออกไหมนอกเหนือจากการตามจับจำเลยมาขึ้นศาล ซึ่งคาดว่าคงยากโดยเฉพาะ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ที่อ้างว่า ไปรักษาตัวอยู่ต่างประเทศ ในเรื่องนี้ “นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล”ผู้ช่วยศาสตราจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แนะนำให้คณะรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172ตราพระราชกำหนดแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ไม่ให้นับอายุความกรณีจำเลยหลบหนี
มาตราดังกล่าวระบุว่า ในกรณีเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัย สาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ พระมหากษัตริย์จะทรงตราพระราชกำหนดให้ใช้บังคับดังเช่นพระราชบัญญัติก็ได้ การตราพระราชกำหนดตามวรรคหนึ่ง ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นกรณี ฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้
2) นายสรวงค์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องคดีตากใบว่า พรรคเพื่อไทยได้ดูอย่างใกล้ชิด เพราะปฏิเสธไม่ได้ได้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยไทยรักไทยและคดีความก็ต่อเนื่องกันมา เราไม่ได้ละเลย ทั้งนี้ ทีมกฎหมายก็ได้ดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดว่า จะมีอะไรที่เราสามารถดูแล ช่วยเหลือ และเยียวยาความรู้สึกของคนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างไรบ้าง
เมื่อถามว่า มีข้อเรียกร้องจากภาคประชาชนและญาติผู้เสียชีวิตว่าอยากให้รัฐบาลขอโทษอย่างจริงใจ รวมถึงมีข้อเสนอให้ออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้คดีความนี้ไม่หมดอายุนายสรวงศ์ กล่าวว่า “ถ้าจะให้รัฐบาลขอโทษอย่างจริงใจ เราพร้อมแม้จะเป็นคนละรัฐบาล” ส่วนกรณีของ พล.อ.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี อดีตสส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ต้องการให้กลับมาต่อสู้คดี“ส่วนคดีความจะหมดอายุความและสามารถต่ออายุได้หรือไม่นั้น ผมมองว่าเป็นเรื่องของข้อกฎหมาย และหากจะทำเช่นนี้ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งหากดูจากวันแล้วน่าจะไม่ทัน แต่จะนำเรื่องนี้ไปหารือในพรรคต่อไป”
3) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงคดีตากใบที่กำลังจะหมดอายุความในอีกไม่กี่วัน หมดหวังที่จะนำคนผิดมาลงโทษแล้วใช่หรือไม่ ว่า เรื่องนี้ฝ่ายตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงพยายามที่จะทำอย่างเต็มที่ ก็หวังว่าอาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ เพราะในการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยกัน
ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม แม้จะไม่มีอำนาจจับกุม เพราะจับกุมได้เฉพาะที่เป็นคดีพิเศษ แต่ได้มีการตั้งผู้สอบสวนหลายคนเข้าไปช่วยสนับสนุนสืบสวนข้อมูลกับทางตำรวจ บุคคลที่เราหวังว่าจะได้ตัวมาบางคนได้หลบไปอยู่ต่างประเทศ ขณะเดียวกัน เราเห็นใจผู้เสียหาย ซึ่งมันจะตรงกับคำกล่าวที่ว่า ความยุติธรรมที่ล่าช้าคือความอยุติธรรม โดยเฉพาะในคดีอาญา
แต่สำหรับเรื่องของอายุความมีการพิจารณาว่าจะมีการแก้ไขหลายครั้ง แต่ต้องแก้เป็นกฎหมาย และเวลาจะหยิบมาแก้ไข ซึ่งรัฐธรรมนูญจะต้องไม่มีการแก้ไขให้คนใดคนหนึ่ง ถ้าเราจะหยิบมาในกรณีของภาคใต้นั้น ถ้าดูจากคนที่หลบหนีตอนนี้มีประมาณ 1,789 หมาย แต่ถ้าเป็นตัวคนจะเท่า 1,067 หมาย คือ มีหมายที่ซ้ำกัน 722 หมาย และคนที่ถูกหมายจับส่วนใหญ่ไม่ใช่ข้าราชการ เป็นบุคคลที่เขาคิดว่าเขาต้องหลบหนี บางส่วนอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และในเรื่องนี้มีที่ขาดอายุความ 140 ราย ฉะนั้นการที่จะพิจารณาเรื่องใดต้องพิจารณาให้รอบด้าน สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ทุกหน่วยต้องทำให้เต็มที่ ในช่วง 2-3 วันนี้ ทุกคนต้องทำงานกันแบบหามรุ่งหามค่ำ แม้ว่าคนที่หนีไปจะมีการออกหมายจากตำรวจสากล ไปอยู่ประเทศไหนก็ให้เอาตัวมาได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงเวลา 2-3 วันนี้ จะสามารถออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อขยายอายุความได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้กระทรวงยุติธรรมเคยให้ศึกษา ถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีกรรมาธิการจากทุกพรรคมาช่วยกันพิจารณา ยืนยันรัฐบาลไม่มีอคติ และจะพยายามติดตามจับกุม ซึ่งต้องถือเป็นบทเรียนของสังคมไทยอย่างหนึ่ง ที่พอเรื่องนี้เกิดความเสียหายกับคน มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เลยทำให้สังคมติดตาม ส่วนหนึ่งเป็นระบบของกฎหมาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความล่าช้าของสำนวน ทราบว่าเมื่อปี’62 หลังจากอัยการงดการสอบสวนแล้ว พอมาต้นปี’67 พอกรรมาธิการติดตามเรื่องนี้ก็ทราบว่า ที่ศาลสั่งไต่สวนการเสียชีวิตของประชาชน ศาลยังไม่ได้บอกว่า ใครเป็นผู้ทำให้เสียชึวิต และผู้เสียชีวิตเป็นใครคิดว่าตำรวจจะต้องทำการสอบสวนเพิ่มเติม และจากการไปตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทราบว่าตำรวจในอดีตสอบพยานเกือบ 100 ปากภายใน 3 เดือนจนมาสู่การออกหมายจับ แต่เนื่องจากระบบของเราถ้าจะฟ้องต้องมีตัวคนไปฟ้องต่อศาล
อย่างไรก็ตาม ทุกข้อเสนอแนะเรานำไปศึกษา และร่วมหาทางออก ซึ่งเห็นใจครอบครัวผู้เสียชีวิต จำได้ว่าการเยียวยาช่วงตากใบ เราก็บอกว่า กฎหมาย ศอ.บต. การเยียวยาไม่ตัดสิทธิ์กับผู้ได้รับการเยียวยา ทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา คดีปกครอง และไม่ตัดสิทธิ์ที่จะได้รับผลประโยชน์อื่นๆ ดังนั้น การเยียวยาจึงไม่ใช่การเยียวยาในคดีอาญา แต่เป็นการมองว่าการเปลี่ยนผ่านความโหดร้ายหรือความอยุติธรรม หรือความไม่เป็นธรรม สิ่งหนึ่งคือ ต้องให้ความเป็นธรรม และความเป็นธรรมนั้นเกิดจากการเยียวยา ซึ่งมีครอบครัวของผู้ได้รับผลกระทบเป็นกรรมการด้วย
เมื่อถามว่า กรณีนี้เป็นห่วงกันไม่ว่าจะกระทบต่อฐานเสียงของพรรคประชาชาติ ถ้าไม่สามารถดำเนินคดีกับใครได้เลยสักคน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้ความจริงมันจบไปแล้ว คนที่นำเรื่องนี้ขึ้นมาคือ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาชาติ นำเรื่องเข้ากรรมาธิการ และเห็นว่าเรื่องนี้มีอายุความล็อกอยู่ ซึ่งมาศึกษาว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยได้ อย่างน้อยที่สุดคดีได้นำไปสู่การออกหมายจับแล้ว ทำให้ญาติผู้ที่เสียชีวิตได้รับทราบถึงข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องการจับกุม มันก็ไม่ใช่คดีแรกที่เราจับกุมไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิ์ส่วนตัวของผู้ที่ถูกออกหมายจับถ้าเรามีหลักฐานการที่ออกไปอยู่ต่างประเทศที่เป็นทางการ อาจจะมี 2 คน ส่วนที่ไม่เป็นทางการ เป็นบุคคลที่เราไปสะกดรอยตาม และคาดว่าจะได้ตัว ข้อมูลทางเทคโนโลยีระบุว่าไปอยู่ต่างประเทศแล้ว จึงทำให้เราตามตัวยาก เราพยายามทำเต็มที่แล้ว อย่างไรก็ตามเหลือเวลาอีก 2-3 วัน ขอให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานและให้กำลังใจญาติผู้เสียชีวิต รวมถึงประชาชน และบุคคลที่ออกมาต่อสู้ด้วย ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล นักวิชาการ
เมื่อถามว่า มีผู้ต้องหาคนใดที่มีแนวโน้มจะได้ตัวมาใน 2-3 วันนี้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดเขาไม่ฟังผู้บังคับบัญชา และไม่ฟังญาติ เขาคิดว่ามีเสรีภาพ มีอายุความ ซึ่งเป็นเรื่องของโทษตามกระบวนการและกฎหมาย ส่วนพวกที่หลบหนี ความรู้สึกของสังคมก็จะตามเขาไปตลอด ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ระบุว่าอาจจะมีปาฏิหาริย์หมายถึงอะไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เราทุกคนทุ่มเทกำลังทุกอย่างไปเพื่อทำงานนี้
4) พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการ สมช.ยุค รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวว่า เรื่องคดีตากใบนี้พรรคเพื่อไทยจะมาปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี เป็น สส.บัญชีรายชื่อเบอร์ต้นๆ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็รู้อยู่แล้ว มีจุดอ่อนเรื่องนี้ แต่เพราะเหตุใดถึงได้ สส. และเมื่อคดีเริ่มมีความชัดเจน ก็ใช้ความเป็น สส. เป็นภูมิคุ้มกัน ให้เหตุผลลาป่วย และมีการอนุญาตจากรองประธานรัฐสภาของเพื่อไทย ในห้วง ต.ค.2567 ซึ่งชัดเจนว่าอยู่ต่างประเทศไม่สามารถติดตามตัวได้
“หากไม่สามารถนำ พล.อ.พิศาล พร้อมพวก มาขึ้นศาลจนคดีขาดอายุความ จะยึดโยงไปยังภาพใหญ่ของกระบวนการยุติธรรมของประเทศ และพรรคเพื่อไทย ว่ามีปัญหาเรื่องกระบวนการยุติธรรม เพราะปัจจุบันมีปัญหากรณี ชั้น 14 ของทักษิณอยู่แล้ว เมื่อมาเจอคดีตากใบอีก กลายเป็น 2 เรื่อง ส่งผลกระทบพรรคเพื่อไทยแน่นอน และจะถูกยกระดับมาถึงรัฐบาลเพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า รัฐบาลไม่ได้กระตือรือร้นมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ว่าคดีตากใบคาราคาซังมานาน ต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างไร ตั้งแต่ยุคเศรษฐา ทวีสิน”
พล.ท.ภราดร กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งที่ต้องระวังสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะก่อนหน้านี้มีสิ่งบอกเหตุ เกิดระเบิดมาแล้ว และข่าวสารที่ปรากฏไม่สามารถจับใครได้เลยแม้แต่คนเดียว กลายเป็นเงื่อนไขก่อเหตุ เพราะไทยมีปัญหาเรื่องกระบวนการยุติธรรม และเป็นภาระหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ส่งผลกระทบระยะยาว ส่งผลไปถึงการพูดคุยสันติสุข การต่อรองหลายประเด็นหยิบยกขึ้นมา เป็นเจ้าหน้าที่รัฐไม่ต้องรับโทษ ในขณะที่ประชาชนถูกจับไปขังคุก
5) น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพ แถลงว่ากมธ.มีการประชุมและค่อนข้างที่จะกังวลตรงกัน กมธ.จึงมีมติว่าสมควรเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือกันในวันที่ 24 ต.ค.ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และพล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ทั้งนี้ในการหารือคาดหวังว่าจะเดินไปข้างหน้าไม่ใช่พูดถึงแค่เรื่องคดีความแต่จะเป็นการมองไปที่อนาคตว่าเมื่อคดีหมดอายุความจะเป็นการหาวิธีรับมือสถานการณ์ที่ดีที่สุด
ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่าวันนี้มีการเยียวยาผู้เสียหายไปแล้วไม่สามารถดำเนินคดีทางอาญาต่อไปได้ ตนขอถามกลับว่ากรณีที่เคยมีการเยี่ยวยากลุ่มคนเสื้อแดงที่ได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม 3 พ.ค.2553 แล้วมีการเรียกร้องว่าจะต้องมีการฟื้นคดีอาญาและนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการเป็นเรื่องเหมารวมหรือไม่เพราะเป็นกรณีเดียวกัน
การเยียวยาในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นสิ่งที่ดีถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่การรับเงินเยียวยาไม่เกี่ยวกับการทำให้กระบวนการทางอาญาสิ้นสุดลงแม้ว่าในปี2555จะมีความพยายามให้ญาติผู้เสียชีวิตเซ็นว่าจะไม่มีการดำเนินคดีทางอาญาซึ่งเรื่องนี้ผิดหลักการ ยืนยันว่าในคดีตากใบไม่มีญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตคนใดเซ็นยินยอมว่ารับเงินเยียวยาและจะไม่ดำเนินคดีการเยียวยาเกิดขึ้นเป็นส่งที่ดีแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการไม่ดำเนินคดีทางอาญา ไม่ใช่รับเงินไปแล้วต้องจบ
สรุป : เรื่องนี้คือ “ไม้ขีดไฟ” ก้านเล็กๆ ที่หากทุกคนทุกฝ่ายไม่ชวนกันดับ อาจลุกลามเป็น “ไฟลามทุ่ง” และก่อผลกระทบอย่างมหาศาลในวันข้างหน้าได้!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี