คดีตากใบจะหมดอายุความ 20 ปีในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 25ตุลาคมวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสมัยพ่อ คือรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่มี“ทักษิณชินวัตร”เป็นนายกรัฐมนตรี แต่มาจบแบบ“ศพไม่สวย”ในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีลูกสาว คือ“แพทองธารชินวัตร”เป็นนายกรัฐมนตรี
“ศพไม่สวย” เพราะรัฐบาลชุดนี้ปล่อยให้ผู้ต้องหาและจำเลย“คดีตากใบ”ทั้ง 2 คดีจำนวน 14 คนหลบหนีไปได้แบบมีข้อกังขาที่เป็นปมค้างคาใจของคนทั่วไป เพราะไม่เพียงแต่คดีจะเป็น“มรดกบาป”อันเป็นเวรกรรมที่เกิดขึ้นในวันที่ 25 ตุลาคม 2547สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่มีอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นผู้กำหนดนโยบายเท่านั้น
บุคคลที่ตกเป็นจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้ควบคุมสั่งการในวันนั้น คือ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาค 4ก็เป็นสส.ของพรรคเพื่อไทยที่เพิ่งจะลาออกหลังจากหลบหนีคดีออกจากประเทศไทยไปแล้ว เป็นการลาออกเพื่อลดแรงเสียดทางไม่ให้เกิดผลกระทบไปยังรัฐบาลที่มี“มาดามแพ”เป็นนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยต้นสังกัด เพียงเหตุผลเดียว
และไม่ต้องให้นักวิเคราะห์หรือนักการข่าวที่ไหนมานั่งคาดเดา ว่าสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้จะเป็นไปในทิศทางใดหลังจากนี้ จากการที่รัฐบาลปล่อยให้ผู้ต้องหาและจำเลยคดีตากใบทั้ง 14 คนหลบหนีไปได้
เพราะเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมเมื่อวานนี้ก็เป็นบทพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า เหตุ“คาร์บอม”ที่อำเภอปะนาเระ หมู่1 อำเภอปะนาเระจังหวัดปัตตานี มีผลมาจากการ“คดีตากใบ” และก็เป็นสัญญาณที่ส่งไปถึงรัฐบาลที่มี“ดีเอ็นเอ”ของอดีตนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร นามว่า“แพทองธารชินวัตร”เป็นนายกรัฐมนตรี ว่านับแต่นี้ไปรัฐบาลก็อย่าหวังว่าจะอยู่ได้อย่างสงบและทำให้เกิดสันติสุขขึ้นได้ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
คาร์บอมบริเวณถนนระหว่างข้างที่ว่าการอำเภอปะนาเระ กับสถานีตำรวจภูธรปะนาเระเมื่อเวลาหลังเที่ยงคืนของวันที่ 23 ตุลาคมต่อเช้าวันที่ 24 ตุลาคมเมื่อวานนี้ มีผลทำให้อส.ที่รักษาความปลอดภัยอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอปะนาเระได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2นาย โดยกลุ่มคนร้ายได้บุกปล้นรถยนต์กระบะสำนักงานอบต.บ้านน้ำบ่อ ก่อนจะนำไปประกอบระเบิดแสวงเครื่องเป็นคาร์บอมจากนั้นจึงนำมาก่อเหตุ
จากเหตุคาร์บอมครั้งนี้ นอกจากมี อส.บาดเจ็บสองนาย แรงระเบิดยังทำให้อาคาร, กระจก, หน้าต่างและหลังคา สถานที่ราชการบริเวณรอบๆ คือสถานีตำรวจภูธรปะนาเระ, ที่ว่าการอำเภอปะนาเระ,สำนักงานสาธารณสุขอำเภอปะนาเระ และศูนย์การเรียนรู้ตามอัธยาศัย และบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหาย รวมถึงรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดอยู่ได้รับความเสียหายด้วยอีกหลายคัน
ส่วนประเด็นและสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่ก่อเหตุ“คาร์บอม”เพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ก่อนครบรอบ 20 ปีตากใบในวันที่ 25 ตุลาคมวันนี้
เหตุคาร์บอมที่อำเภอปะนะเระดังกล่าว ถือว่าเป็นผลต่อเนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้นซ้ำสองในวันเดียวกัน..โดยช่วงบ่ายของวันที่ 23 ตุลาคม เวลาประมาณ 15.30 น.ได้เกิดเหตุลอบวางระเบิดชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 4515 (ร้อย ทพ.4515) บริเวณบ้านกูจิงลือปะ ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาสเป็นผลให้ทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอระแงะ
จากรายงานข่าว เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ (ชป.จรยุทธ์) กองร้อยทหารพรานที่ 4515จำนวน 10 นาย เดินทางเข้าพบปะผู้นำหมู่บ้านในพื้นที่บ้านกูจิงรือปะ ปรากฏว่าขณะเดินทางกลับมีผู้ก่อเหตุไม่ทราบจำนวนได้จุดชนวนระเบิดขึ้น จากการตรวจสอบพบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่องไม่ทราบภาชนะบรรจุและการจุดชนวนโดยผู้ก่อเหตุนำวัตถุระเบิดไปวางใว้ในท่อลอดบริเวณถนนสายชนบท
สำหรับเหตุคาร์บอมที่อำเภอปะนะเระ มีรายงานของ“สำนักข่าวอิศรา”บันทึกไว้ว่า..เป็นคาร์บอมบ์ครั้งที่ 4ของปี 2567 โดยเหตุคาร์บอมบ์ครั้งที่ 3 ก่อนหน้านี้เพิ่งจะเกิดขึ้นกลางอำเภอตากใบเมื่อวันที่ 29 กันยายน2567 นับได้ว่ามีระยะเวลาห่างกันไม่ถึงเดือน
ย้อนกลับไปดูคาร์บอมที่อำเภอตากใบเมื่อวันที่ 29กันยายนถือว่าอุกอาจมาก โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายจำนวนหนึ่งได้นำรถยนต์ยี่ห้อ MG5 สีเทาซึ่งปล้นมาจากชาวบ้าน แล้วนำไปประกอบระเบิดแสวงเครื่องเป็นคาร์บอม ไปจอดที่บริเวณหน้าบ้านพักนายอำเภอตากใบ หมู่ 3 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส มีผลทำให้ทหาร 2นายสังกัดหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน-กองทัพเรือ 33 ได้รับบาดเจ็บและมีบ้านเรือนของประชาชนบริเวณโดยรอบได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด
อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมสถิติคาร์บอมบ์ของ“สำนักข่าวอิศรา”นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มตั้งแต่รัฐบาลพรรคไทยรักไทยของ“ทักษิณ ชินวัตร”ที่มีส่วนสำคัญในการ“จุดสถานการณ์ไฟใต้” ทั้งจากเหตุการณ์“ปล้นปืนค่ายปิเหล็ง”ที่ทักษิณด้อยค่าว่าเป็นฝีมือ“โจรกระจอก”, เหตุการณ์“กรือเซะ-สะบ้าย้อย” และ“กรณีตากใบ”ในปี 2547 พบว่าคาร์บอมบ์ลูกแรกเกิดขึ้นในปี 2548 จนถึง“คาร์บอมบ์”ครั้งล่าสุดที่อำเภอปะนะเระเมื่อวานนี้-นับรวมได้ทั้งหมด 65 ครั้ง
จากนี้ไปสถานการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในพื้นที่จังหวัดยะลา, ปัตตานีและนราธิวาส ที่กำลังเกิดขึ้น และก็คงจะต้องเกิดถี่ขึ้นนับจากนี้ไปหลังคดีตากใบหมดอายุความ 20ปี แม้ทุกฝ่ายไม่ปรารถนาจะให้เกิดขึ้น แต่ก็เชื่อว่าคงไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้
เพราะมันได้กลายเป็น“มรดกบาป”และเป็น“เวรกรรม”ของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตรที่ส่งต่อมาถึง“แพทองธาร ชินวัตร”บุตรสาวผู้เป็นทายาทและเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่รู้ประสีประสาในวันนี้ไปเสียแล้ว !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี