การอ่านคำสั่งยุบพรรคการเมือง หรือ ไม่ยุบพรรคการเมือง ของศาลรัฐธรรมนูญ มีมาแล้วหลายครั้ง และมีการถ่ายทอดสดให้ผู้สนใจได้รับทราบกันอย่างทั่วหน้า
ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญ มีการประชุม เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 พิจารณาคดีที่นายธีรยุทธสุวรรณเกษร ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 อ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 6 ประเด็น ดังนี้
1.นายทักษิณ สั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์และรพ.ตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่นายทักษิณ ให้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ในระหว่างรับโทษจำคุก เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำ ทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤต 2.นายทักษิณ สั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชาให้มีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของประเทศไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา 3. ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิมที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
4.นายทักษิณ สั่งการแทนพรรคเพื่อไทยโดยเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่บ้านพักส่วนตัวของนายทักษิณ 5.นายทักษิณ สั่งการให้พรรคเพื่อไทยมีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล 6.นายทักษิณ สั่งการให้พรรคเพื่อไทย นำนโยบายของนายทักษิณ ที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา
ทั้งนี้ นายธีรยุทธ ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ขอให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการกระทำ แต่อัยการสูงสุดมิได้ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคสามผู้ร้องจึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ เลิกกระทำการดังกล่าวและให้พรรคเพื่อไทยเลิกยินยอมให้นายทักษิณใช้เป็นเครื่องมือกระทำการดังกล่าว
ผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่าเพื่อประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ในชั้นนี้ ให้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่า ได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไรและรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ
จากนี้ไปก็คงต้องรอหนังสือจากอัยการสูงสุดที่จะแจ้งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญขอทราบรายละเอียดก่อนที่จะเดินหน้าในคดีดังกล่าวต่อไป ทั้งฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้องก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองที่เป็นคู่กรณีต่อกัน ที่สำคัญกองเชียร์สองฝ่ายควรอยู่ในที่ตั้งไม่ควรออกอาการให้มากนัก
ส่วนเราๆ ท่านๆ ที่หาเช้ากินค่ำควรรับฟังไว้ อย่างน้อยๆ ก็เป็นการเรียนรู้ของภาคประชาชนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่สำคัญขั้นตอนยังอีกยาวไกล
และยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองในอนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่ว่ายุบสภา นายกฯชิงลาออก หรือทหารเข้าไปยึดอำนาจ เพราะทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้นและเคยเป็นมาแล้วสำหรับการเมืองของประเทศไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี