ผลสำรวจของ“นิด้าโพล”ที่เปิดเผยออกมาล่าสุดเมื่อสองวันก่อน..ว่าประชาชนร้อยยละ 41.68 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่ารัฐบาล“แพทองธาร ชินวัตร” จะไปต่อได้จนครบเทอมในปี 2570..โดยมีเพียงร้อยละ 9.77 เท่านั้นที่เชื่อว่าจะไปต่อได้ไม่เกินสิ้นปี 2567
“นิด้าโพล”ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ตั้งหัวข้อสำรวจว่า“รัฐบาลนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ไปไหวไหม”..โดยได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 21-22 ตุลาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง
อย่างไรก็ดี การที่รัฐบาล“มาดามแพ”จะอยู่ลากยาวต่อไปได้จนครบเทอมในปี 2570 หรือไม่อย่างไรตามผลสำรวจของ“นิด้าโพล”..ถือว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เรื่องสำคัญ คือ อยู่แล้วจะทำให้ประเทศชาติหลุดจากปัญหาเศรษฐกิจที่ติดหล่มอยู่ในเวลานี้ได้อย่างไร..เกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีช่องว่างทางรายได้ระหว่างคนรวยและคนจนที่มีอยู่สูงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
หนึ่งปีของรัฐบาล“เศรษฐา ทวีสิน” และหนึ่งเดือนกว่าของรัฐบาล“แพทองธาร ชินวัตร” จากพรรคเพื่อไทย..ภายใต้คำขวัญ“คิดใหญ่-ทำเป็น”..ยังไม่เห็นการขับเคลื่อนที่จะนำพาประเทศไปสู่“ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”..ซึ่งรัฐบาล“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”ได้วางรากฐานปูทางไว้แล้วก่อนหน้านี้
นั่นก็คือ การเร่งพัฒนาและปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจด้านต่างๆ ให้เป็นประเทศเศรษฐกิจใหม่ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประเทศชาติและประชาชน ที่ติดกับดักรายได้ปานกลางมาตั้งแต่ปี 2539 หลัง“วิกฤตต้มยำกุ้ง”ในสมัยรัฐบาล“พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ”
รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน และรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย..ไม่เพียงแต่มิได้ขับเคลื่อนอะไรให้เห็นเป็นเรื่องเป็นราว..แต่ยังไปด้อยค่ารัฐบาล“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”ด้วยการบิดเบือนโจมตีว่า“8 ปีไม่มีอะไร”..ทั้งที่โดยข้อเท็จจริง..ทั้งรัฐบาลของนายเศรษฐา และรัฐบาลแพทองธาร ล้วนได้อานิสงส์ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จึงอยู่ได้มาจนถึงวันนี้..โดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักเรื่องเดียว
มีแต่การถลุงเงินงบประมาณแผ่นดิน..ด้วยการล้วงออกมาจากคลังหลวงแล้วนำมาใช้จ่ายและแจกเป็น“เบี้ยหัวแตก”..ไม่ต่างจากการ“ลด-แลก-แจก-แถม”เพื่อหาคะแนนนิยม..โดยที่พรรคเพื่อไทยและเจ้าของพรรคไม่ต้องควักเงินของตนออกมาแม้แต่บาทเดียว
ถึงขนาดว่า แม้เงินงบประมาณไม่มี..ก็ยังผลักภาระให้คนทั้งประเทศ 70 ล้านคนต้องร่วมกันแบกรับหนี้สิน..ตามโครงการ“แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท”..ที่รัฐบาล“มาดามแพ”จ่ายเป็นเงินสดจำนวนทั้งสิ้น 1.45 แสนล้านบาทแก่ประชาชนคนไทยกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา
หากไปดูนโยบายที่รัฐบาล“แพทองธาร ชินวัตร”แถลงต่อรัฐสภาก่อนเข้ารับหน้าที่..ก็เป็นเพียงแค่สูตรสำเร็จที่ยกขึ้นมากล่าวตามพิธีกรรมเท่านั้น..ดังที่มาดามแพแถลงว่า “ปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องเร่งสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ ด้วยการแก้หนี้ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ และแก้ไขปัญหาที่กระทบความมั่นคงของสังคม เพื่อนำความหวังของคนไทยกลับมาให้เร็วที่สุด”
ถามว่าไหนล่ะนโยบายเร่งด่วน..นอกจากเรื่อง“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” และเรื่อง “การเจรจาผลประโยชน์ทางพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล” ที่เกาะกูด จังหวัดตราด..ซึ่งอาจจะมีผลโยชน์ทับซ้อนเชิงนโยบายแฝงอยู่
นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล“แพทองธาร”ที่มีเงาของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ทาบอยู่ข้างหลัง ใน 2 เรื่องดังกล่าว..อันที่จริงแล้วน่าจะเป็นความหวังของกลุ่ม“ทุนสามานย์”ที่เป็นเจ้าของพรรคการเมือง..มากกว่าที่จะเป็นความหวังของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง..เรื่องขุมทรัพย์ด้านพลังงานมูลค่ามากกว่า“20 ล้านล้านบาท”ที่เกาะกูดนั้น.. หากมีการเปิดโต๊ะเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์แบบ“ไทยครึ่งหนึ่ง-เขมรครึ่งหนึ่ง”ขึ้นมาวันไหน..ก็นับเวลาถอยหลังรัฐบาล“แพทองธาร ชินวัตร”ได้เลย
เพราะฟังจาก อดีต สว.คำนูณ สิทธิสมาน ซึ่งเกาะติดประเด็นปัญหาเรื่อง“เกาะกูด”มาตั้งแต่เป็น สว.เขียนโพสต์ลงในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมเมื่อวานนี้ว่า “เกาะกูดเป็นของไทย ทั้งตัวเกาะ และทะเลอาณาเขต รัฐอื่นจะลากเส้นผ่ากลางไม่ได้ แม้แต่อ้อมเว้าเฉพาะตัวเกาะ เป็นรูปตัว U แบบ MOU 44"
ดังนั้น การที่รัฐบาล“แพทองธาร ชินวัตร”โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปเปิดโต๊ะเจรจากับฝ่ายกัมพูชา..เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์“ทรัพยากรปิโตรเลียม”ใต้ทะเลที่เกาะกูด..ตามแนวคิดของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร แบบ“50 : 50”..ต้องถูกประชาชนคนไทยลุกขึ้นมาคัดค้านอย่างแน่นอน
ดีไม่ดีนอกจากรัฐบาลจะต้องมีอันเป็นไปแล้ว..ตัวนายกรัฐมนตรีคือ“มาดามแพ”อาจจะต้องมุดช่องทางธรรมชาติหนีออกทางชายแดนเขมรเหมือน“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ผู้เป็นอาก็มีความเป็นไปได้สูง !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี