“ถึงแม้ดิฉันเอง จะไม่ได้วางแพลนในการเป็นนายกฯ ในครั้งนี้มาก่อน แต่ขอให้ทุกท่านมั่นใจ ว่าดิฉันพร้อม และเต็มใจที่จะรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ”

แพทองธาร ชินวัตร เผยความรู้สึกครั้งแรกพร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 31 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 หลังจากรู้ผลโหวตว่าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ 319 : 145 เสียง ให้เป็นนายกรัฐมนตรีแทนนายเศรษฐา ทวีสิน

ปรากฏว่าผ่านมา 2 เดือนกว่า คนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่ได้หลับหูหลับตาเชียร์“มาดามแพ”เหมือน สส.ของพรรคเพื่อไทย และบริษัทบริวารของ“ทักษิณ ชินวัตร”ที่จะต้องส่งเสียงชื่นชมว่า“คุณหนูอุ๊งอิ๊งค์”กล่องดวงใจของ“นายใหญ่-นายหญิง”แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า..เก่งที่สุด ยอดเยี่ยมที่สุด..ต่างก็ได้เห็นว่า“ไม่ผ่าน”

ไม่ผ่าน-เพราะ“แพทองธาร ชินวัตร”อ่อนด้อยเกินไป..สำหรับการเป็นผู้นำประเทศในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี..เธอไม่ประสีประสาอะไรสักเรื่องเดียว..กลายเป็นว่าประชาชนจะต้องคอยลุ้นว่า..วันนี้แพทองธารจะทำอะไรซุ่มซ่ามแบบเซ่อๆ ซ่าๆ ให้ขายขี้หน้าอีก

งานพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา..“มาดามแพ”ก็ทำให้คนไทยรู้สึกสมเพชเวทนายิ่งขึ้นไปอีก..ระหว่างตามเสด็จฯ..จนกระทั่งนายทหารราชองครักษ์ต้องรีบเดินขึ้นมาประกบใช้แขนกัน..ให้เธอทิ้งระยะห่างการเดินตามหลังขบวนเสด็จฯ

ใครที่ได้ดูคลิปภาพชุดนี้ซึ่งถูกเผยแพร่เป็นไวรัลในโลกโซเชียล..ก็ได้แต่เอามือทาบอกแล้วร้องเป็นเสียงเดียวกันว่า..“ลูกใครหว่า-เหมือนพ่อแม่ไม่ได้สั่งได้สอน”..ว่าอะไรควรหรือมิบังควร..หมดสภาพความเป็นนายกรัฐมนตรี..กลายเป็นเหมือน“เด็กน้อย”คนหนึ่งที่เดินหลงเข้าไปในขบวนเสด็จฯในสายตาของคนทั่วไป..มิใช่ผู้นำประเทศฝ่ายบริหาร

เห็นภาพอย่างนี้แล้วก็ทำให้นึกถึงถ้อยความที่อดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ในงาน “Nation TV Dinner Talk” เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ซึ่งผู้สัมภาษณ์ได้ถาม“ทักษิณ”ถึงการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ“คุณหนูอุ๊งอิ๊งค์”ว่า..เคยเห็นสัญญาณหรือไม่ว่าบุตรสาวจะมาถึงวันนี้ได้

“ทักษิณ ชินวัตร”ผู้ซึ่งมักจะเป็นปลื้มและชื่นชมความสามารถและความเฉลียวฉลาดของบุตรสาวอยู่เสมอในทุกโอกาสเมื่อมีการถามถึง.. ได้ตอบว่า “ตอนอุ๊งอิ๊งค์อายุ 12 ปี ไปลงพื้นที่บางกระทุ่ม (อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก) ในปี 2542 เขาทำกล้วยตาก แกะเปลือกกล้วยแล้วเอาน้ำยาอีเอ็มราด..ก็ถามเขาว่าเหม็นไหม เขาบอกเหม็นมากพ่อ แล้วทำไมลูกไม่ทำท่าเหม็นเลย..อ้าว ! พ่อก็เสียคะแนนหมดสิ-เลยมีแวว”

อีกหนึ่งถ้อยความที่“ทักษิณ ชินวัตร”กล่าวถึงบุตรสาวจากการให้สัมภาษณ์ในวาระเดียวกันนี้..เมื่อถูกสัมภาษณ์ว่า“ภูมิใจไหมที่ลูกเป็นนายกฯ”, ทักษิณ ตอบว่า“ภูมิใจมาก รู้ว่างานหนัก กล้าบอกได้ว่าหนักกว่าวันที่ผมเป็นนายกฯ บ้านเมืองตอนนี้ดีเป็นบางอย่าง หนักเป็นบางอย่าง ระบบราชการแข็ง เราต้องใช้กลไกราชการในการขับเคลื่อน แต่ผมเชื่อว่าแพทองธารมีภาวะผู้นำดี อ่อนน้อมถ่อมตน”

“ทักษิณ ชินวัตร”ซึ่งประกาศอยู่ตลอดว่า “มาดามแพ”ได้ดีเอ็นเอของพ่อกับของแม่..จึงทำให้มีความเข้มแข็งเหมือนคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ผู้เป็นแม่..และมีความเป็นผู้นำกับความกล้าเหมือนพ่อ, ได้กล่าวถึงบุตรสาวต่อว่า “เจอปลัดกระทรวง รัฐมนตรี ยกมือไหว้ทุกคน เพราะอายุน้อยกว่า จึงให้เกียรติ ก็หวังความร่วมมือในการทำงาน เชื่อว่าลักษณะการทำงานของเขาจะขับเคลื่อนได้”

ฟัง“ทักษิณ ชินวัตร”พูดถึงบุตรสาวแล้ว..เห็นภาวะผู้นำของ“มาดามแพ”บนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในวันนี้ที่เด่นชัดมีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น..คือ“งานอีเว้นท์-สร้างภาพ”..ซึ่งก็เป็นอย่างที่ผู้เป็นพ่อเล่าด้วยความปลื้มใจ..ที่บุตรสาว“มีแวว”ตั้งแต่ตอนอายุ 12 ปี..จากการไม่ออกอาการให้เห็นเรื่องกลิ่นกล้วยตากที่บางกระทุ่ม..เพราะกลัวเสียคะแนน

และเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมเมื่อวานนี้..“มาดามแพ”ในคอสตูม“ธีมฤดูหนาว”สวมผ้าพันคอดอยตุง..ซึ่งเป็นผ้าทอดอยตุงหมักโคลน สีโทนธรรมชาติ จากจังหวัดเชียงราย..ก็เพิ่งคิกออฟ"Thailand Winter Festivals”-เที่ยวทั่วไทยฤดูหนาวยาวถึงเดือนมกราคมปี 2568 กับ 7 กิจกรรม

ทั้งนี้ ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่ซ้ำรอยเดียวกับ“มหาสงกรานต์ World Water Festival - The Songkran Phenomenon”เมื่อปีที่แล้ว..ซึ่งประกาศว่าจะทำให้ประเทศไทยติด “1 ใน 10 ประเทศสุดยอดเฟสติวัลโลก”..และก็ได้ทำให้เกิดความเข้าใจผิด..ว่าจะมีการสาดน้ำเล่นสงกรานต์กันตลอดทั้งเดือนเมษายน..ขณะที่“มาดามแพ”ผู้เป็นตัวตั้งตัวตี ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ..หลบไปเที่ยวฮ่องกงกับลูกและสามีในช่วงสงกรานต์

มิน่า! พูดก็พูดเถอะ, คนในสังคมโชเชียลเขาจึงเมาท์กันให้แซ่ดว่า..“มาดามแพ”เป็นนายกรัฐมนตรีที่เก่งเรื่องเดียวเท่านั้น คือเรื่อง“สตรอเบอร์รี่”..มิหนำซ้ำยังเป็น“สตรอเบอรี่ญี่ปุ่น”อีกต่างหากด้วย !

รุ่งเรือง ปรีชากุล