มีเสียงเล่าลือเรื่องยุบสภาดังขึ้นบ่อยครั้งมากในระยะนี้แต่ถามว่าแล้วจะเกิดการยุบสภาจริงๆ หรือ แล้วถามต่อไปว่าทำไมต้องยุบ ยุบแล้วพรรคเพื่อไทยจะได้กลับมาเป็นแกนนำรัฐบาลหรือ
ประเด็นต่อมาคือ รัฐบาลชุดล่าสุดที่มีแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี (โดยตำแหน่ง) จะอยู่ได้ครบวาระการทำงานอีกประมาณ 3 ปี นับจากวันนี้หรือไม่ขอบอกว่าคำตอบเรื่องนี้ ตอบยากมาย แม้แพทองธารจะบอกว่ารัฐบาลจะอยู่ครบวาระ ก็ยังเป็นคำพูดที่ไม่สามารถตอบได้ว่าจะเป็นจริงตามนั้น
ตามหลักกฎหมาย พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลผสมก็จริง แต่ต้องยอมรับความจริงที่จริงยิ่งกว่าคือคะแนน สส. ของเพื่อไทยมีเพียง 141 คนเท่านั้น จาก สส. ทั้งหมด 500 คน (จาก สส. ทั้งสองแบบ คือแบบบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง และจากเขตเลือกตั้ง) เพราะฉะนั้น พรรคเพื่อไทยจึงไม่สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ทางการเมืองอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้เหมือนสมัยที่พรรคไทยรักไทยเคยกุมอำนาจรัฐ ดังนั้น ในสถานการณ์เช่นนี้พรรคเพื่อไทย (ในกำกับของทักษิณ ชินวัตร) จึงต้องประคองตัวให้อยู่ในอำนาจรัฐให้จงได้ แล้วต้องจำใจยอมแบ่งผลประโยชน์การเมืองให้พรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรคการเมืองอันดับสองของรัฐบาลผสม
เมื่อครั้งที่พรรคการเมืองใต้อาณัติของทักษิณ ชินวัตร เรืองอำนาจ ในยุคสมัยนั้นเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกไม่ได้ย่ำแย่เหมือนเช่นปัจจุบัน เพราะฉะนั้น คนไม่รู้จริงจึงหลงเชื่อลมปากทักษิณ เพราะคิดว่าทักษิณทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโต เพราะหลงคำคุยโม้โอ้อวดจากปากของทักษิณ แต่ยุคนี้เศรษฐกิจโลกซบเซาจนถึงกับตกต่ำ ส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เพราะฉะนั้น ต่อให้ทักษิณโม้ตลอด 24 ชั่วโมงก็ไม่ทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น แต่มูลเหตุสำคัญที่จะทำให้รัฐบาลที่มีนายกรัฐมนตรีชื่อแพทองธารเดินต่อไปได้อีกระยะหนึ่งคือ การทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นบ้าง หรือดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องยากมากนัก เพราะในระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจไทยแย่มาก ดังนั้น การทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจโตขึ้นเพียงเล็กน้อย หรือทำให้เศรษฐกิจไทยดีกว่าเดิมแค่เพียงนิดหน่อย ก็ทำให้รัฐบาลนำไปใช้โฆษณาชวนเชื่อได้ว่าเป็นผลงานของรัฐบาล
แต่ต้องบอกว่านโยบายประชานิยมที่ทักษิณเคยใช้กล่อมประสาทประชาชนแล้วได้ผลมาก่อนในอดีต กลับไม่สามารถใช้ได้จริงในยุคนี้ สาเหตุเพราะรัฐบาลไม่มีเงินมากพอที่จะนำไปหว่านโปรยในโครงการประชานิยมดังจะพบได้ว่าการโฆษณาชวนเชื่อเรื่องเงิน digital wallet จากพรรคเพื่อไทยจึงล้มไม่เป็นท่า ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องก้มลงเลียน้ำลายที่ถ่มลงบนพื้นถนน แถมยังถูกเหยียบไปแล้ว จึงปรากฏภาพการแจกเงินสดให้กับคนบางกลุ่ม ส่วนเรื่อง digital wallet ยังไม่มีการยืนยันมั่นเหมาะใดๆ จากพรรคเพื่อไทย
ย้ำว่าปัจจัยเศรษฐกิจเป็นปมสำคัญตัวหนึ่งสำหรับการอยู่รอดของรัฐบาลชุดนี้ ดังนั้น สาธารณชนจึงได้พบว่ามีตัวแทนนักเศรษฐกิจระดับประเทศจากหลายองค์กรแห่ไปพบแพทองธารที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม จนนำไปสู่คำถามว่า นักธุรกิจระดับชาติเหล่านั้นไปพบแพทองธาร เพียงเพราะเห็นว่าเธอเป็นนายกรัฐมนตรี ใช่หรือไม่แต่ไม่น่าจะมีนักธุรกิจที่มีปัญญาคนไหนหลงเชื่อว่าแพทองธารมีสติปัญญาแก้วิกฤตเศรษฐกิจไทยได้ ดังนั้น เมื่อสาธารณชนเห็นข้อเรียกร้องจากเหล่านักธุรกิจให้รัฐบาลแก้ปัญหา 4 ข้อในสมุดปกขาว (ข้อเรียกร้องคือแก้ปัญหาหนี้เสีย กระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ และเรียกร้องให้จัดกิจกรรมในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อดึงเม็ดเงินและนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น) ถามจริง ๆ เถอะ เรื่องทั้งสี่ที่นักธุรกิจระดับประเทศเรียกร้องกับแพทองธาร เป็นเรื่องใหม่ตรงไหนมิทราบ
แต่ต้องไม่ลืมว่าพรรคเพื่อไทยยังต้องเผชิญกับกรรมต่างๆที่ทักษิณได้จงใจก่อไว้ ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้พรรคเพื่อไทยถูกร้องเรียนหลายเรื่องหลายราว มิแค่เพียงเท่านั้น ยังพบว่ามีความไม่ลงรอยกันภายในพรรคร่วมรัฐบาล เช่น ปัญหาการแก้รัฐธรรมนูญ การเอาหรือไม่เอามาตรา 112 รวมถึงร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม แต่ก็นับว่าโชคดีพอประมาณ เพราะสภาจะปิดสมัยประชุมวันที่ 30 ตุลาคมนี้ แล้วจะไปเปิดสมัยประชุมอีกครั้ง ในวันที่ 12 ธันวาคม ปีนี้ แต่เมื่อเปิดสมัยประชุมหน้า ก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวต่างๆ นานาที่คั่งค้างจะหมดไป
เมื่อปัญหาต่างๆ ยังรุมเร้ารัฐบาล โดยเฉพาะกับเพื่อไทย จึงทำให้มีการมองภาพการเมืองในอนาคตว่า หากปัญหาใหญ่ๆ ยังไม่ถูกขจัดไป แถมเศรษฐกิจไทยยังไม่ดีขึ้น แล้วเพื่อไทยยังต้องเผชิญกับเรื่องร้องเรียนสารพัดเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องทักษิณป่วยจริงหรือไม่ ติดคุกหรือไม่ ครอบงำพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เรื่องที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์เรื่องแต่งตั้งคนที่เคยติดคุกเข้าไปทำงานการเมือง ฯลฯ
สารพัดปัญหายังคงรุมเร้าแพทองธารและเพื่อไทยต่อไปดังนั้นหากทักษิณเห็นว่าจำเป็นต้องสั่งให้แพทองธารยุบสภา เพราะเพื่อไทยไม่ต้องการตกอยู่ในสภาวะตายเดี่ยว นั่นก็คงจะเกิดการยุบสภาโดยมิต้องสงสัย เพราะคนอย่างทักษิณไม่มีวันยอมตายคนเดียวอย่างแน่นอน เพราะเขาประกาศว่า หากเขาอยู่ไม่เป็นสุข ก็อย่าหวังว่าคนอื่นจะอยู่เป็นสุข
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี