แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn วิถีชีวิตมนุษย์นั้น จะให้มีแต่ความปกติสุขอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมีทุกข์ มีภัยมีอุปสรรค ผ่านเข้ามาด้วยเสมอ ยากจะหลีกเลี่ยงพ้น ข้อสำคัญอยู่ที่ ทุกๆ คนจะต้องเตรียมกายเตรียมใจ และเตรียมการไว้ให้พร้อมทุกเวลา เพื่อเผชิญและแก้ไขความไม่ปรกติเดือดร้อนนั้น ด้วยความไม่ประมาท ด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา และด้วยสามัคคีธรรม จึงจะผ่อนหนักให้เป็นเบาและกลับร้ายให้กลายเป็นดีได้... (ความตอนหนึ่งจากพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2528 เมื่อวันจันทร์ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2527)...
nn วันนี้แล้วที่สังคมไทยน่าจะรู้ว่าใครจะได้รับตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือประธานบอร์ดแบงก์ชาติ หากคณะกรรมการเลือกประธานบอร์ดฯ ไม่เลื่อนการพิจารณาแล้วประกาศชื่อผู้ได้รับตำแหน่ง แต่ที่สำคัญคือคนในแบงก์ชาติจำนวนไม่น้อยไม่เห็นด้วยกับการให้กิตติรัตน์ ณ ระนอง คนที่มีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทย เข้าไปกินตำแหน่งประธานบอร์ดฯ สาเหตุที่คนแบงก์ชาติจำนวนไม่น้อยรังเกียจกิตติรัตน์ เพราะว่ากิตติรัตน์แสดงท่าทีชัดเจนมาโดยตลอดในประเด็นแทรกแซงการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทย...
nn คนแบงก์ชาติกลุ่มหนึ่งบอกกับธรรมกรว่า หากผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยวางตัวไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ คนธนาคารชาติจะรวมตัวคัดค้านผู้ว่าฯ แบงก์ชาติอย่างแน่นอน แต่เมื่อคนแบงก์ชาติเห็นตรงกันว่าผู้ว่าฯ แบงก์ชาติยังคงทำหน้าที่ได้อย่างดี แต่ถูกคนการเมืองพยายามเข้าแทรกแซงแบงก์ชาติ แบบนี้คนแบงก์ชาติก็ไม่จำเป็นต้องสงวนท่าทีอีกต่อไป และยืนยันว่าที่รวมตัวคัดค้านกิตติรัตน์ เป็นเพราะเห็นมาโดยตลอดว่ากิตติรัตน์จงใจแทรกแซงแบงก์ชาติเป็นประจำ...
nn คอการเมืองไทยเชื่อตรงกันว่าไม่ต้องหวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะสามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ เพราะยังมีความเห็นที่แตกแยกไม่ลงรอยกันอย่างมากมายมหาศาลในพรรคร่วมรัฐบาล ดังนั้นก็จึงไม่ต้องหวังว่าจะแก้รัฐธรรมนูญได้ ส่วนเรื่องที่วิสุทธิ์ ไชยณรุณ จากพรรคเพื่อไทยในฐานะประธานวิปรัฐบาล (ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล) ยังคงฝันว่าจะแก้รัฐธรรมนูญได้โดยรัฐบาลนี้ ทั้งๆ ที่ประธานวิปรัฐบาลรู้เต็มอกว่ายังมีปัญหาเรื่องการออกเสียงประชามติ โดยเรื่องนี้ยังไม่ผ่านออกมาจากคณะกรรมาธิการร่วม เพราะยังไม่สามารถตกลงเรื่องเงื่อนไขเรื่องเสียงข้างมากสองชั้น เพราะฉะนั้น คอการเมืองจึงฟันธงตรงกันว่าไม่ต้องหวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะแก้รัฐธรรมนูญได้สำเร็จ แต่ก็น่าหัวเราะตรงที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่าหากแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ ก็ไม่ใช่ความผิดของเพื่อไทย เพราะทำเต็มที่แล้ว พร้อมทั้งบอกว่าเรื่องนี้ยังมีขั้นตอนพิจารณาโดย สว. ด้วย พูดง่ายๆ คือเห็นได้ค่อนข้างชัดว่าพรรคเพื่อไทยบอกว่าไม่รับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องของพรรคร่วมและเรื่องของ สว. ด้วย ส่วนพรรคเพื่อไทยบอกว่าทำเต็มกำลังแล้ว ปัญหาคือแล้วที่หาเสียงไว้โครมครามว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ แต่สุดท้ายแก้ไม่ได้ ก็ต้องถามว่าแล้วเพื่อไทยจะรับผิดชอบอย่างไร หรือว่าพูดแล้วก็แล้วกันไป จะไปเอาอะไรกับลมปาก...
nn รัฐบาลไทยพยายามให้ข่าวว่ามีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น แต่รัฐบาลก็ไม่ยอมบอกความจริงว่าในขณะเดียวกันนั้นนักลงทุนต่างชาติก็เข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านของไทย อย่างเช่น มาเลเซียอินโดนีเซียมากขึ้นและลงทุนมากกว่าที่ลงทุนในไทยด้วยซ้ำไป ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่ารัฐบาลไม่บอกความจริงให้หมด แต่จงใจทำให้คนไทยเข้าใจผิดคิดว่าต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศ และต้องบอกอีกว่ารัฐบาลไม่ได้บอกความจริงว่าเงินลงทุนที่ต่างชาตินำมาลงทุนในไทยนั้น ไม่ได้ช่วยก่อให้คนไทยได้เรียนรู้เทคโนโลยีการผลิตอุตสาหกรรมขั้นสูง แต่เป็นเพียงการลงทุนในขั้นพื้นฐานของเทคโนโลยีขั้นสูงเท่านั้น จึงทำให้คนไทยเข้าใจว่าต่างชาติมาลงทุนด้านเทคโนโลยีระดับสูง แต่อันที่จริงต้องย้ำว่าเป็นเพียง Date Center เท่านั้น ซึ่งตรงนี้ไม่ได้ช่วยให้คนไทยได้เรียนรู้ และได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีระดับสูงอย่างเป็นรูปธรรม...
nn รัฐบาลไทยอ้างว่ามีนักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น แต่ต้องย้ำว่าเขาแค่สนใจเท่านั้น แต่เขายังไม่ได้นำเงินเข้ามาลงทุน เพราะฉะนั้น รัฐบาลต้องบอกความจริงกับประชาชนให้หมด อย่าเล่นเกมพูดความจริงผสมความเท็จ...
nn รัฐบาลบอกว่ามีการลงทุนในธุรกิจ platform และ software โดยอ้างว่ามีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เช่น ลงทุนในธุรกิจแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์ของประเทศไทย โดยมีสัดส่วนการลงทุนมูลค่าประมาณ 2 หมื่น 9 พันล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7.27 โดยลงทุนในกลุ่มแพลตฟอร์ม 11,721.44 ล้านบาท ลงทุนในกลุ่มซอฟต์แวร์ 16,675.82 ล้านบาท ชาวต่างชาติที่มาลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ สิงคโปร์ ลงทุน 9,814.28 ล้านบาท ไต้หวัน 5,953.63 ล้านบาท และ มาเลเซีย 2,237.63 ล้านบาท ถามว่าแล้วรัฐบาลไม่บอกบ้างหรือว่าประเทศเพื่อนบ้านของไทยได้รับเงินลงทุนในอุตสาหกรรมก้าวหน้าและเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นเงินมากมายมหาศาลเพียงใด...
nn ในขณะที่ภาคเศรษฐกิจไทยยังคงหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะรุ่งเรืองเฟื่องฟูได้อีกครั้ง หากจีนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น แต่เรื่องนี้อาจจะกลายเป็นความฝันในช่วงกลางวันแสกๆ เพราะมีข่าวระบุชัดว่าปัจจุบันเศรษฐีจีนลดความมั่งคั่งลงอย่างเห็นได้ชัดโดย รูเพิร์ต ฮูเกเวิร์ฟ ประธานและหัวหน้าคณะนักวิจัย ของ Hurun ออกรายงานว่าเศรษฐกิจของจีนไม่สดใสมากนัก และตลาดหุ้นจีนก็ดิ่งลงอย่างน่าจับตามอง ส่งผลให้มหาเศรษฐีของจีนลดจำนวนลง และเมื่อดูเงินในความครอบครองของมหาเศรษฐีจีนก็พบว่าลดลง จนทำให้จำนวนเศรษฐี และมหาเศรษฐีจีนลดจำนวนลงติดต่อกันเป็นปีที่ 3 แล้ว...
nn พบด้วยว่าตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2567 เติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนตั้งไว้ 5 เปอร์เซ็นต์ โดยปมปัญหาสำคัญมาจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดต่ำลง ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงทรุดตัวต่อเนื่อง โดยพบว่าดัชนี Shanghai Composite ลดลงร้อยละเกือบ 9 และดัชนี Hang Seng ลดลงร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีรายงานด้วยว่าบรรดาเศรษฐีจีนที่ถูกกล่าวว่าร่ำรวยที่สุดจำนวน 1,094 คนแต่มีเพียง 331 คนเท่านั้น ที่บอกว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น ส่วนที่เหลือมีทรัพย์สินลดลง ยกตัวอย่างเช่น จง ซานซาน มหาเศรษฐีจีนหลุดจากตำแหน่งคนที่รวยที่สุดในจีนโดยตกลงไปอยู่ลำดับที่สอง ส่วนโรบิน เจิ้ง หยู่คุน มหาเศรษฐีอันดับสองก็ล่วงลงไปอยู่อันดับ 6 แม้แจ๊ก หม่า มหาเศรษฐีจีนจะยังติด 1 ใน 10 มหาเศรษฐีจีน แต่ก็มีรายงานว่าสินทรัพย์ของแจ๊ก หม่า ลดลงไป ร้อยละ 3 แต่เมื่อมองไปยังสหรัฐฯ ก็ยังคงพบว่ามีมหาเศรษฐีมากมายเป็นอันดับหนึ่งของโลก เช่น อีลอน มัสก์ เจฟฟ์ เบซอส แลร์รีเอลลิสัน มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก และวอร์เรน บัฟเฟตต์ และพบว่ามหาเศรษฐีอเมริกันที่มีสินทรัพย์มากกว่าพันล้านดอลลาร์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างมากมาย...nn
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี