“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า, แนวหน้าออนไลน์/www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสามย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยทันเล่ห์ทันเหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิด,นักเลือกตั้งชังชาติ, ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี, สลิ่มติ่งแดงด้อมส้ม, อุปกรณ์ทำการเกษตรใช้สนตะพายเทียมคันไถ อย่างเท่าเทียม”...
nn เทศกาล “ปล้นชาติ-ขายชาติ” กำลังคึกคักพร้อมวาทกรรมประดิษฐ์ศิษย์หลวงประดิษฐ์วาทกรรมทั้งหลาย ตั้งแต่ “รัฐบาลสืบสันดาน ของนักการเมืองฝึกงานเก้าอี้นายกรัฐมนตรี /-มาดามแพ แพทองธาร ชินวัตร” ออกนโยบายเร่งด่วนข้อสาม : รัฐบาลจะเร่งออกมาตรการเพื่อลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค ปรับโครงสร้างราคาพลังงานควบคู่กับการเร่งรัดจัดทำ ปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการพัฒนาระบบสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ของประเทศ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) สำรวจหาแหล่งพลังงานเพิ่มเติม และการเจรจาประเด็นพื้นที่ทับซ้อนกับกัมพูชา (OCA) เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงานที่สอดรับกับเสียงสำรอกของนักโทษคดีทุจริตคอร์รัปชั่นโกงบ้านกินเมือง ฉ้อฉลเงินแผ่นดินบนเวทีงานครบรอบวันเกิดสื่อสารมวลชนเครือ “เดอะเนชั่น” เรื่อง “อนาคตประเทศไทย 2024” ทั้งหมดไม่ใช่เรื่อง “นักการเมืองหิวแสงปลุกปั่นกระแส “ชาตินิยม – คลั่งชาติ” อย่างที่ “สหายใหญ่ – ภูมิธรรม เวชยชัย” แสดงความเห็นต่อสังคมสาธารณะ แต่สังคมไทยตื่นระวังเสียงสุนัขที่เห่าหอนกระโชกในที่สาธารณะให้เห็นภาพขายชาติขายแผ่นดินเหมือน “พระยาพลเทพ” ในแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาเมื่อเกือบ 300 ปีที่แล้ว...
nn “ความวัวโคยังไม่ทันหาย ความควาย/กระบือก็เข้ามาแทรก” อาละวาดสังคมไทยอีกระลอก กรณี “คัดเลือกประธานคณะกรรมการ(บอร์ด)ธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ)” ซึ่ง “รัฐบาล โดย กระทรวงการคลัง” ... “พิชัย ชุณหวชิร” เสนอชื่อ “ติ่งระบอบทักษิณ มร.ไวท์ ไล (White Lie)/- กิตติรัตน์ ณ ระนอง”เข้าประกวด โดย “7 กรรมการในคณะกรรมการคัดเลือก” ซึ่งแต่งตั้งโดย “ขุนคลัง/-พิชัย ชุณหวชิร” ทั้งหมด ประชุมลงมติไปเมื่อบ่ายวานนี้ โดยมี “กุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน และ สุรพล นิติไกรพจน์นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรรมการอิสระ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน)” ที่เสนอโดยแบงก์ชาติเป็นตัวประกอบของ “เพื่อไทยการละคร”แต่ขึ้นชื่อว่า “โกหกพูดปด” ไม่ว่าจะลักษณะไหนพระท่านสอนด้วยภาษาบาลีว่า “นตฺถิ อการิยํ ปาปํ มุสาวาทิสฺส ชนฺตุโน /- คนมักพูดมุสา จะไม่พึงทำชั่ว ย่อมไม่มี”...
nn ตำแหน่ง “ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ” สำคัญอย่างไรแค่ไหนในระบบเศรษฐกิจไทย 1.ต้องกำกับดูแลดูแลบริหารงานภายในแบงก์ชาติ 2.บริหารจัดการกองทุนสำรองระหว่างประเทศ 3.แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) 4.แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน 5.คัดเลือกผู้ว่าฯแบงก์ชาติคนใหม่ ลองย้อนดูเหตุการณ์ในยุค “วิกฤตเศรษฐกิจ” จากปาก “นักกู้ผ้าขาวม้าพันคอ /- เศรษฐา ทวีสิน”ลองดูนโยบายกู้เงินมาแจกคนละ 10,000 บาท ดูความขัดแย้งในเรื่องการพิจารณา “ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย”...สังคมไทยจะทะลุโปร่งใสทีเดียวว่าหากซีกการเมือง, กลุ่มการเมือง สามารถแทรกแซงภารกิจ/พันธกิจแบงก์ชาติจักสามารถสูบและกอบโกยเอื้อผลประโยชน์ให้ฝ่ายการเมืองอย่างไร เหตุนี้ที่ผ่านมาในระบอบทักษิณ จึงมี “ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ” หลายคนเคยถูกข่มขู่ถูกปลดออกจากตำแหน่งเพราะไม่สนองตัณหาฝ่ายการเมือง...
nn ในยุค “จิ๋วหวานเจี๊ยบ /- พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ” นำทัพ“พรรคความหวังใหม่ชนะการเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาล” เกิด “วิกฤตเศรษฐกิจโลก -ต้มยำกุ้ง 2540” รัฐบาลตัดสินใจลดค่าเงินบาทที่มี “ทนง พิทยะ” เป็น ขุนคลัง มี นักธนกิจการเมืองร่ำรวยมหาศาลจากการตุนเงินสกุลดอลลาร์ใครสังคมไทยจำได้หรือไม่ “ผู้นำจิตวิญญาณ – ศาสดาระบอบทักษิณ” เพราะรู้ “อินไซเดอร์” จะปล่อยให้มันกลับมาเซาะกร่อนบ่อนทำลายอีกเยี่ยงนั้นหรือ??? ต่อแต่นี้ไปสังคมไทยคงต้องระวังภัย “นักการเมืองสไตล์พระยาพลเทพ ... ขายชาติ / ปล้นชาติ... เซาะกร่อนบ่อนทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ” ไม่ว่าคนคนนั้น จะชื่อเรียงเสียงใดถ้าเป็นฝ่ายการเมืองส่งเข้ามาต้องตราหน้าไว้ก่อนว่าคือ “บุคลากรร้ายอันตรายประเทศชาติ”...
nn “นพดลปัทมะ” อดีตรมว.ต่างประเทศ นักกฎหมายข้างกาย “พ่อจุ้นจ้าน /-ทักษิณ ชินวัตร นักโทษเด็ดขาดชายคดีทุจริตคอร์รัปชั่นฉ้อฉลเงินแผ่นดิน” ผู้เคยถูกประทับตรา “ขายชาติ” เมื่อครั้งลงนามในแถลงการณ์ร่วมให้ “กัมพูชา”เสนอ “ปราสาทเขาพระวิหาร” เป็น “มรดกโลกฝ่ายเดียว”
จนเสีย “โบราณสถานสำคัญ-ปราสาทเขาพระวิหาร” ให้กัมพูชาทั้งที่ทางขึ้นปราสาทอยู่ในประเทศไทย สำรอกให้ “แนวหน้าออนไลน์” ฟังว่า “....ด้านหนึ่งผมเห็นคนสนใจเรื่องนี้มาก แต่อีกด้าน ก็พบปฏิบัติการ “ไอโอ”บิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ บอกว่า “รัฐบาลจะยกเกาะกูดให้กัมพูชา”...
nn ก็ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น “ยกเลิกเอ็มโอยู 2544 (MOU44)” เสียสิ แล้วเริ่มต้นว่ากันใหม่ ให้เป็นไปตามข้อกฎหมายทางทะเล 2525 ตามอนุสัญญาสหประชาชาติ อย่างตรงไปตรงมา เลิกมุบมิบกระทำการใดๆ ลักษณะเข้าข่าย “ขายชาติ” เหมือนกรณี “ปราสาทเขาพระวิหาร” แค่นี้สังคมไทยก็สบายใจว่า รัฐบาลยังจงรักภักดีต่อสถาบัน นำพระบรมราชโองการเมื่อปี 2513 มาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญเส้นแบ่งเขตแดนต้องคำนึงถึงทรัพย์สมบัติธรรมชาติที่เป็นแหล่งพลังงานสำคัญมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านบาทด้วย “ไม่หา...สร้างไม่เป็นก็อย่าผลาญ” จะสร้างหนี้สาธารณะก็ต้องเติมคุณค่าความเจริญด้านสาธารณูปโภคให้ควบคู่ สามารถต่อยอดความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ ทางคมนาคมด้วย อย่าสักแต่โม้โอ้อวด ชาวบ้านเขาอยากเห็น “รูปธรรม..ใช่...นามธรรม” เยี่ยงทุกวันนี้...
nn ทิ้งท้าย ฉบับนี้“ไม้หน้าสาม” ขอแสดงความเสียใจกับ “ขวัญ เจรียงประเสริฐ”ศิษย์พี่ “คณะเรา อำนวยศิลป์ “รุ่น 48/-หญ้าแพรก” ที่ต้องสูญเสียบุคคลสำคัญของครอบครัว คุณพ่อวิวัฒน์เจรียงประเสริฐ ด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2567 โดยกำหนดบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 4 พ.ย.-วันศุกร์ที่ 8 พ.ย. 2567 ณ ศาลา 4 วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) เวลา 19.00 น. ทุกวัน และฌาปนกิจศพ วันเสาร์ที่ 9 พ.ย. 2567 เวลา 16.00 น....nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี