สงสัยมานานแล้วว่า ทำไมคนบางกลุ่มมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจแทนที่จะไปแจ้งความกับผู้บังคับใช้กฎหมาย กลับวิ่งไปหาพวกสำนักงาน หน่วยงานจิตอาสาพาไปออกทีวี ร้องทุกข์แก้ต่างข้อกล่าวหาและสงสัยเช่นว่า หลายคดีเมื่อออกทีวี แล้วผู้บังคับใช้กฎหมายกุลีกุจอรับเรื่องไปดำเนินคดีไม่นานเรื่องพวกนั้น ก็เงียบหายไป มันเป็นข้อตกลงกันภายในหรือรีดไถกรรโชกทรัพย์กันลับหลัง เมื่อเป็นข่าวดังออกสื่อแล้ว
ในระยะสามสี่ปีนี้รู้สึกว่า มีอาชีพจิตอาสาพาเจ้าทุกข์ไปออกสื่อ เป็นล่ำเป็นสัน มีข่าวเรียกเงินเจ้าทุกข์ เป็นแสนเป็นล้านบาท ซึ่งจรรยาบรรณทนาย สร้างความเสียหายให้แก่อาชีพทนาย และอาสาที่เสียสละเพื่อสังคมอย่างบริสุทธิ์ใจไม่สร้างภาพ
ทนายจิตอาสาที่ถูกกล่าวหา เป็นมิจฉาชีพ บางรายพูดว่า เงินหลายแสนบาทที่รับจากลูกความเป็นค่าแถลงข่าว ยิ่งทำให้สงสัยหนักขึ้นไปอีกว่าค่าแถลงข่าวเสียให้ใคร เสียค่าใช้จ่ายตอนไหน ใครเป็นคนรับเงินค่าแถลงข่าว ในตำราสื่อสารมวลชนไม่เคยมีคำว่า ค่าแถลงข่าว อาจารย์สื่อสารมวลชนไม่เคยสอนว่า สื่อต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือ มีรายได้จากแถลงข่าว ทำข่าวมาห้าสิบปีไม่เคยรู้ว่าเวลาแถลงข่าว เขาจ่ายเงินรับเงินกันอย่างไร
ประสบการณ์ออกทีวีก็มีกับเขาเช่นกันเคยออกรายการ “เจาะใจ” ที่คุณสัญญา คุณากร เป็นพิธีกร เจาะใจ เป็นรายการประเภทเล่าประสบการณ์ทำข่าว สงครามอินโดจีน สงครามกลางเมืองกัมพูชา ข่าวกลุ่มขบถต่อต้านรัฐบาล ตลอดถึงการสัมภาษณ์ขุนส่า ราชายาเสพติดที่ต้องเดินป่าข้ามเขาเข้าไปพบแหล่งข่าว การออกรายการเช่นนั้นต้องเตรียมล่วงหน้า คือ ทางรายการส่งคนมาคุยหาข้อมูลพื้นฐานล่วงหน้าหลายวันก่อนอัดรายการ จึงพูดได้ว่ารายการทีวีที่มีมาตรฐาน มีจรรยาบรรณ เขาเตรียมการอย่างรอบคอบหาข้อมูลทุกแง่มุมก่อนเชิญแขกไปออกรายการ หลังจากออกอากาศแล้ว ทางบริษัทส่งเงินหักภาษีที่จ่ายมาให้โดยแจ้งว่าเป็นค่าแสดง
ส่วนรายการทอล์กโชว์แนวการเมือง ที่ถ่ายทอดสด ทางรายการให้โปรดิวเซอร์ ติดต่อมาซักซ้อมล่วงหน้าว่าพูดประเด็นนี้โน้นนั้นสะดวกไหม? เมื่อจบรายการแล้วเขาจะใส่ซองให้เป็นค่าน้ำมันรถสองพันสามพันบาท แล้วแต่รายการซึ่งส่วนใหญ่จะรับไว้ แล้วมอบให้น้องๆ ช่างกล้องหรือโปรดิวเซอร์ ถือว่าช่วยๆกันสำหรับสถานีทีวีที่ถูกใจ
ส่วนรายที่ฝักใฝ่เสื้อแดง ที่ตั้งใจเชิญเราไปฆ่าหน้าจอ จะไม่รับเชิญ มีอยู่ครั้งหนึ่งขณะที่ กปปส.ชุมนุมใหญ่ รายการทอล์กโชว์สถานีไทยพีบีเอส โทรศัพท์เชิญไปออกรายการร่วมกับอาจารย์เสื้อแดง และสหายเหวง ตอนโปรดิวเซอร์โทรมาผู้เขียนอยู่ที่ประชานิเวศน์ 3 แต่บอกน้องไปว่า ตอนนี้อยู่ที่จังหวัดชุมพร ไม่สะดวกร่วมรายการโปรดิวเซอร์วางสายไปสักพัก โทรกลับมาบอกว่ามีเที่ยวบินจากสุราษฎร์ธานีประมาณแปดโมงกว่า มาถึงสุวรรณภูมิ 10 โมงเช้า หนูจะส่งรถไปรับที่สนามบิน เพื่อให้มาทันเวลาอัดรายการประมาณสิบเอ็ดโมงหากมาได้ทางรายการจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้
นำประสบการณ์ออกรายการทีวี มาเล่าสู่กันเพื่อความเข้าใจว่า รายการทีวี ต้องใช้ความพยายามและต้องใช้เงิน เพื่อเชิญแขกมาออกรายการ ตัวอย่างเช่นรายการทอล์กโชว์ ไทยพีบีเอส พยายามเชิญเราไปออกรายการให้ได้ ซึ่งเชื่อว่า ผู้ดำเนินรายการแดงจ๋า หาใครสักคนที่เป็น กปปส.มาให้เสื้อแดงด้อยค่าหน้าจอทีวี ความจริงก่อนโปรดิวเซอร์โทรมาหาเรามีคนติดต่อขิง (เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมคนปัจจุบัน) แต่ขิงไม่สะดวก เลยต้องหาใครสักคนไปออกรายการให้นักสิทธิมนุษยชนกับอาจารย์แดงฆ่าหน้าจอ เมื่อเชิญขิง ไม่ได้เลยเล็งเป้าหมายมาที่เราซึ่งไม่ได้เป็นแกนนำแกนนอนแต่อย่างใด เราเลยไม่ไปเป็นเหยื่อ
เล่าเสี้ยวหนึ่งประสบการณ์ยืดยาวเพื่อให้เข้าใจว่า รายการทีวีเขามีวิธีบริหารจัดการอย่างไร เพราะเห็นว่าบางรายการทีวีทุกวันนี้วิปริตผิดเพี้ยนไป คล้ายๆ เป็นรายการแบล็กเมล์ข่มขู่กรรโชกทรัพย์ มากกว่าหาความเป็นธรรมให้คนเล็กคนน้อยคนด้อยโอกาสไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ บางรายการทีวีแทนที่จะหาแขกรับเชิญ กลายเป็นว่าแขกรับเชิญเข้ามาหารายการพร้อมปัจจัยเพื่อให้ได้ออกทีวี
มีผู้เสียหายที่เป็นเหยื่อทนายบางคนออกแฉว่า ต้องเสียเงินสามแสนบาทเพื่อออกรายการดัง ทำให้เกิดความรู้สึกว่า บางทีรายการทีวีสมคบกับทนายขายวิญญาณนักกฎหมาย ทำโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นจิตอาสาช่วยเหลือประชาชนผู้ตกยากลำบากด้วยจิตกุศล สำนักงาน หรือ มูลนิธินักบุญใจบาป บางแห่งมีหน้าม้า สร้างกระแสดราม่า สร้างราคาว่า ช่วยคนนั้นคนนี้ให้พ้นทุกข์ พ้นจากถูกดำเนินคดี หรือผู้ช่วยที่ถูกหลอกลวงให้ได้ทรัพย์สินคืนมา
เพราะจิตเมตตาที่ขาดสติปัญญา ขาดความยั้งคิดของสังคมไทย คนจำนวนมากพากันชื่นชมโจรในคราบทนาย บริจาคปัจจัยส่งเสริมให้โจรในคราบนักบุญ มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา และเมื่อโจรในคราบนักบุญมีชื่อเสียงโด่งดัง ก็ถึงเวลาสื่อสร้างกระแสบางรายการก็นำนักตบทรัพย์มาสร้างดราม่า หน้าม้านักตบทรัพย์ในคราบทนาย พากันมาออกรายการบีบน้ำตาเล่าถึงชะตากรรมที่โหดร้าย โชคดีที่โจรในคราบทนายช่วยเหลือไว้
เมื่อหน่วยจิตอาสาในคราบนักบุญใจบาปสมคบกับทนายจอมมารยา และสื่อหิวปัจจัยจับกระแสที่คนไทยได้ว่า ไร้จิตสำนึก ขาดสติปัญญาบ้าคลั่ง ความดังถึงเวลานั้นทนายเจ้าเล่ห์จอมมารยาก็ยกระดับจากหลอกลวงต้มตุ๋นชาวบ้านธรรมดา เป็นการกรรโชกทรัพย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ บ่อนการพนันออนไลน์ แชร์ลูกโซ่ ไปถึงแก๊งค้ายา และเชื่อว่า ขบวนการตบทรัพย์รายใหญ่ไม่สามารถทำได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากข้าราชการกังฉิน องค์กรอิสระ ตำรวจชั่ว และนักการเมืองดังบางราย
เป็นเรื่องน่าตกใจเมื่อพบว่า ในระยะหลังนี้ทนายผู้โด่งดัง ออกมาเปิดเผยว่า เงินหลายแสนบาทที่เรียกจากลูกความนั้นเป็นค่าแถลงข่าว ค่าการออกรายการดัง แม้แต่พระดังบางรูปยังโพสต์โฆษณาว่า ใครอยากออกรายการทีวีมีเรตติ้งสูงรายการนั้น ให้ติดต่อท่านได้ ท่านมีฮอตไลน์พิธีกรคนดัง ก็แสดงว่าหน้าม้าของรายการดังมีตั้งแต่ เซเลบฯ ดารา จนถึง พระสงฆ์องค์เจ้า
นับเป็นเรื่องวิปริตของสังคมไทยที่ยากแก้ไขได้ เมื่อมิจฉาชีพแทรกซึมเข้าไปในทุกภาคส่วนของสังคมไทย ในวงการสื่อสารมวลชน วงการศาสนา ตลอดถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และบางคนหน่วยงานองค์กรอิสระที่มิจฉาชีพ เรียก “เทวดา” ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บางรายที่ถูกดำเนินคดี ถูกกล่าวหา ล้วนมีส่วนสัมพันธ์กับมิจฉาชีพในคราบทนาย
ในห้วงเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา สังคมไทยถึงได้แต่เสพข่าว แชร์ลูกโซ่ในรูปขายตรงสินค้า ที่มีรายงานว่าแชร์ลูกโซ่ยุคใหม่ หลอกเงินชาวบ้านนับหมื่นล้านบาท มีผู้เสียหายเป็นนับแสนรายนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่พร้อมภรรยาตกเป็นผู้ต้องหาฟอกเงิน และมีส่วนเกี่ยวข้องกับบ่อนการพนันออนไลน์ สตรีวัยกลางคนถูกหลอกเงินหลายร้อยล้านบาท
ในฐานะหากินกับข่าวมาห้าสิบปีจึงสรุปว่า ต้นตอของปัญหาคือสื่อไร้จรรยาบรรณ สื่อหิวปัจจัยสมคบกับนักบุญใจบาป สร้างกระแสปั่นราคาให้คนไร้สติปัญญาบ้าคลั่งคนดังคนรวย ทุกวันนี้คนไทยไม่สามารถจำแนกได้ว่ามิจฉาชีพในคราบทนาย หน่วยงานจิตอาสา มูลนิธิในคราบโจรบางแห่งกับสื่อไร้จรรยาบรรณ ฝ่ายไหนหลอกใช้ใคร หรือทุกฝ่ายสมคบกันทำลายจริยธรรมอันดีงามของสังคมไทยในคราบนักบุญ น่าที่อาจเรียกได้ว่าเอาหนังหมาคลุมหัวราชสีห์
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี