แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn บัณฑิตควรจะได้ตั้งความมุ่งหมายที่แน่นอนของชีวิต คือความสุขความเจริญ ไว้ให้มั่นคงเป็นเบื้องต้น ความสุขความเจริญที่แท้จริงอันควรหวังนั้น เกิดขึ้นได้จากการกระทำและความประพฤติที่เป็นธรรม มีลักษณะสร้างสรรค์ คืออำนวยผลที่เป็นประโยชน์ทั้งแก่ตัว แก่ผู้อื่น ตลอดถึงประเทศชาติโดยส่วนรวมด้วย... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 12 กรกฎาคม 2518)...
nn เป็นเวลานานหลายเดือนแล้วที่ผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจยังบิดพลิ้ว บ่ายเบี่ยง เลี่ยงหลบ ไม่ยอมส่งเวชระเบียนการรักษาพยาบาลอาการ (ที่สร้างเรื่องว่า) ป่วยของทักษิณ ชินวัตร แม้จนบัดนี้โรงพยาบาลตำรวจก็ยังคงบิดพลิ้วต่อไป โดยไม่แยแส ไม่นำพาว่าเรื่องนี้คือความผิดปกติของโรงพยาบาลตำรวจ แต่ไม่ว่าจะบ่ายเบี่ยงอย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วโรงพยาบาลตำรวจก็ต้องส่งเวชระเบียนให้ ป.ป.ช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) หากไม่ส่งมอบก็หมายถึงจงใจทำผิดกฎหมาย...
nn คอยดูกันต่อไปก็แล้วกันว่าจะมีหมอโรงพยาบาลตำรวจกี่คนที่ต้องติดคุกเพราะเหตุทุจริตนี้ เรื่องไม่ปกตินี้ต้องจี้ถามโดยตรงไปที่แพทย์ใหญ่
โรงพยาบาลตำรวจ เพราะเป็นผู้มีอำนาจดูแลกิจการของโรงพยาบาลตำรวจโดยแท้ ส่วนเรื่องที่ ผบ.ตร. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร อ้างว่าเรื่องเวชระเบียนเป็นเรื่องของโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ดังนั้น หากจะตามเวชระเบียนก็ต้องไปตามจากโรงพยาบาลตำรวจ กิตติ์รัฐอ้างด้วยว่าแม้ตำแหน่ง ผบ.ตร. จะมีหน้าที่ดูแลและกำกับการทำงานของโรงพยาบาลตำรวจ แต่กรรมการโรงพยาบาลตำรวจมีหน้าที่พิจารณาเรื่องเวชระเบียน อ้างแบบนี้เรียกว่าอ้างตามหลักการทำงาน หรืออ้างแบบปัดสวะ ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของคนที่ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด...
nn ประเด็นใหญ่อีกเรื่องคือใครอนุญาตให้ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะนักโทษออกไปอยู่โรงพยาบาลตำรวจ เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นแค่คำสั่งของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม แต่มีผู้ฟันธงว่าคนที่อำนวยความสะดวกให้ทักษิณไม่ต้องเข้าคุก น่าจะเป็นคนระดับรัฐมนตรีเป็นอย่างน้อย ส่วนจะมีรัฐมนตรีรู้เห็นเรื่องนี้กี่คน ประเด็นนี้มีข่าวเป็นนัยๆ จากไพศาล พืชมงคล นักกฎหมายที่ออกมาให้ข่าวเรื่องนี้อย่างค่อนข้างครึกโครม และยังบอกอีกว่ามีการเตรียมการไว้ตั้งแต่ก่อนที่ทักษิณจะกลับถึงไทยอย่างน้อยเป็นเดือนๆ หากพิจารณาจากคำพูดของไพศาลในเรื่องนี้ก็ต้องกลับไปดูว่าใครบ้างที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมตั้งแต่สมัยประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วใครเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสมัยเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี...
nn ที่ดินเขากระโดง บุรีรัมย์ ยังคงเป็นหนามยอกใจพรรคภูมิใจไทย พรรคที่มีเนวิน ชิดชอบ เป็นคนใหญ่คนโตอยู่เบื้องหลัง ล่าสุดคนดูแลกระทรวงคมนาคม ชื่อสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เจ้ากระทรวงที่ดูแลกิจการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ด้วย และ ร.ฟ.ท. ก็เป็นเจ้าของที่ดินเขากระโดง แล้วที่ดินเขากระโดงอย่างน้อย 12 แปลงก็มีข่าวว่าถูก ชัย ชิดชอบ พ่อของเนวินครอบครอง จนตอนหลังที่ดินได้ถูกเปลี่ยนมือไปอยู่ในความครอบครองของโรงโม่หินศิลาชัย บุรีรัมย์ ของคนในครอบครัวชิดชอบ...
nn ย้อนหลังไปปี 2513 วันนั้นชัย ชิดชอบ พ่อของเนวิน ชิดชอบ ถูกระบุว่าบุกรุกแล้วครอบครองที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นที่ดินของ ร.ฟ.ท. ซึ่งชัยก็ยอมรับว่าเป็นที่ดินของ ร.ฟ.ท. แต่แล้วในปี 2515 ก็มีการนำที่ดินที่ถูกระบุว่าบุกรุกไปออกโฉนด และขายต่อให้คนในครอบครัวชิดชอบ ชื่อละออง แต่ต่อมาก็ขายที่ดินต่อให้โรงโม่หินบริษัทศิลาชัย บุรีรัมย์ ของตระกูลชิดชอบ เมื่อปี 2535 อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงคือคดีนี้การรถไฟฯ ฟ้องร้องต่อศาลฎีกาแล้ว และศาลฎีกาพิพากษาว่าต้องคืนที่ดินให้การรถไฟฯ สรุปคือการรถไฟฯ ชนะคดีแล้ว แต่ทำไมจึงยังไม่ส่งมอบที่ดินคืนให้การรถไฟฯ เพราะฉะนั้น ต้องมาดูกันว่า สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะเอาอย่างไรกับที่ดินเขากระโดง...
nn เรื่องนี้สืบย้อนหลังไปเมื่อครั้งศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็เฉยเมยกับการทวงคืนที่ดินเขากระโดง แถมยังพบว่าศักดิ์สยามปลูกบ้านบนที่ดินเขากระโดงอีกด้วย คอการเมืองไทยมองว่าพรรคเพื่อไทยอาจไม่กล้าจัดการขั้นเด็ดขาดเรื่องที่ดินเขากระโดงเพราะเกรงว่าภูมิใจไทยจะเอาคืนเรื่องคดีนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ไม่ยอมติดคุก แถมยังกุเรื่องป่วยหนักจนต้องไปนอนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ คดีนี้มันเข้าตำราไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ จริงๆ...
nn วิธีการหนึ่งของการสร้างภาพว่าเป็นคนดี ใจซื่อมือสะอาด คือการไปร่วมงานป้องกันและปรามปรามการทุจริต แล้ว action ด้วยการแสดงท่าทางต่อต้านทุจริต แต่ก็หาได้ทำให้การทุจริตคอร์รัปชั่นหมดไปจากประเทศไทย มาล่าสุด มีข่าวว่าแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรีประกาศห้ามข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน. (กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร) รับและให้ของขวัญของกำนัลทุกชนิด ตามนโยบาย no gift policy เมื่อนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) ลงนามคำสั่ง no gift policy ก็ทำให้มีคำถามว่า แล้วนายกรัฐนตรีจะไม่ให้คนในตระกูลชินวัตรคืนที่ดินธรณีสงฆ์ของยายเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ที่ถูกเล่นแร่แปรธาตุเป็นสนามกอล์ฟอัลไพน์ให้กับวัดธรรมิการามด้วยดอกหรือ...
nn ในขณะที่ส่งต้นฉบับวันนี้ ธรรมกร ยังคงติดตามผลการนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างใจจอใจจ่อ แล้วก็เห็นว่าคะแนนของโดนัลด์ ทรัมป์ นำ กมลา แฮร์ริส ในรัฐที่ได้ชื่อว่าเป็น battleground states อย่างเช่น เพนซิลเวเนีย จอร์เจีย มิชิแกน แอริโซนา เนวาดา นอร์ท แคโรไลนา วิสคอนซิน เพียงแต่ผลนับคะแนนยังไม่ประกาศเป็นทางการเท่านั้น แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ทำให้คาดการณ์ได้ว่าทรัมป์มีสิทธิ์ชนะกมลา ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็คงไม่ทำให้เกิดความวุ่นวายในสหรัฐฯ เพราะกมลาคงไม่ปลุกระดมให้ผู้คนออกไปสร้างสถานการณ์ป่วนบ้านป่วนเมือง แต่เมื่อดูฝั่งของทรัมป์แล้ว เขาประกาศปลุกระดมตลอดเวลา เช่น การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว แถมยังประกาศอีกว่าจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเด็ดขาด ซึ่งนับว่าแปลกประหลาดมหัศจรรย์มากที่ทรัมป์กล้าประกาศแบบนั้น...
nn แต่ที่ประหลาดยิ่งกว่าคือดันมีชาวอเมริกันเห็นดีเห็นงามเลือกทรัมป์ ทั้งๆ ที่คำปลุกระดมของทรัมป์ทำให้สหรัฐอเมริกาจะลุกเป็นไฟ แต่มีปรากฏการณ์หนึ่งเกิดขึ้นก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คือ คนมีฐานะและเศรษฐีอเมริกันจำนวนไม่น้อยเดินทางออกจากสหรัฐฯ เพราะไม่ต้องการตกอยู่ในสภาวะอนาธิปไตยหลังเลือกตั้ง...
nn มีความห่วงใยว่าจะเกิดปรากฏการณ์พิสดารหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คือความไม่สงบ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องตลกร้ายของการปกครองระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐฯ น่าสมเพชที่สหรัฐฯ อ้างมาโดยตลอดว่าเป็นต้นแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยของโลก ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วผู้นำการเมืองของสหรัฐฯ ไม่น่าจะเคร่งครัดและศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แต่ก็ต้องยอมรับว่าผู้นำสหรัฐฯ เก่งในการโฆษณาชวนเชื่อ แล้วก็เก่งฉกาจในการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศต่างๆ ที่สหรัฐฯ ต้องการเข้าไปมีผลประโยชน์เหนือชาติหรือประเทศนั้นๆ...
nn ถามว่าทำไมคนไทยต้องติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตอบว่าเพราะนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ มีผลกระทบต่อประเทศไทยและคนไทย เพราะไม่ว่าทรัมป์หรือแฮร์ริสชนะการเลือกตั้ง ก็จะมีผลต่อประเทศไทยแตกต่างกันไป เพราะทั้งสองรายนั้นมอง
ผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เป็นสำคัญมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศอื่น เพียงแต่ทรัมป์เน้นความเจริญ ความได้เปรียบของสหรัฐฯ ประมาณว่าแบบนักเลงโต คือประกาศชัดว่าอเมริกาต้องมาก่อน ต้องเป็นที่หนึ่ง ต้องยิ่งใหญ่ ส่วนแฮร์ริสนั้น แม้ไม่มีพฤติกรรมนักเลงโตแบบทรัมป์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกัน เพราะฉะนั้น ไม่ว่าใครได้ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไทยก็ไม่น่าจะได้รับประโยชน์ทางตรงมากมายนัก ดังนั้น การดำเนินนโยบายต่างประเทศของไทยจึงต้องรู้เท่าทันเกมการเมืองของสหรัฐฯ ต้องถ่วงดุลอำนาจของสหรัฐฯ กับประเทศมหาอำนาจอื่นๆ เช่น จีน อินเดีย ญี่ปุ่น สหภาพยุโรปให้สมดุล เพื่อผลประโยชน์ของไทย และที่สำคัญคือขอร้องว่าอย่าส่งแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีอ่อนโลกไปเจรจาความเมืองกับผู้นำประเทศมหาอำนาจ เพราะนอกจากจะสร้างความอับอายขายหน้าให้ไทยแล้ว ยังทำให้ไทยสูญเสียผลประโยชน์แห่งรัฐอย่างร้ายแรง แต่หากจะส่งไปเพื่อถ่ายภาพ selphi แบบสนุกสนานเบาปัญญา ก็ว่ากันไป...nn
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี