การชิงชัยเป็นประธานาธิบดี คนที่ 47 ของสหรัฐอเมริการะหว่าง “กมลา แฮร์ริส” วัย 60 ปี แห่งพรรคเดโมแครต กับ “โดนัลด์ ทรัมป์” วัย 78 ปี แห่งพรรครีพับลิกันนั้น แม้คะแนนจะยังไม่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแต่ชาวบ้าน ชาวเมือง และสื่อทั้งหลายทั่วโลกต่างก็รู้แล้วว่า “ทรัมป์ชนะ”
ทรัมป์ชนะทั้งระบบ Electoral Vote และชนะทั้งระบบ Popular Vote แบบ “ลอยลำ” ไม่มีพลิกผันจน “ช็อกโลก”
โดยการเลือกผู้นำอินทรีหัวขาวครั้งนี้ ไม่มี “ฝ่ายแพ้” ยกมวลชนออกมาประท้วง ต่อต้าน และกล่าวหาว่า “โกงเลือกตั้ง” และทำการ “หักดิบ” ด้วยการยกกำลังเข้ายึดสภา เหมือนกับครั้งที่ “ทรัมป์ปากจู๋ พ่ายแพ้การเลือกตั้ง เมื่อปี 2020”
ดูเหมือนสื่อทั้งหลายต่างได้เชิญกูรูทางการเมืองมาออกรายการอย่าง “สุดกระหน่ำ” เพื่อเจาะลึกว่า “อะไรทำให้ทรัมป์ชนะ?” และ “เหตุไฉนแฮร์ริสจึงพ่ายแพ้?”
นอกจากนั้น ก็ได้สร้างสีสันให้กูรูทั้งหลายวิเคราะห์ว่า “ทรัมป์ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1ครั้งนี้ สงครามรัสเซียกับยูเครน จบหรือไม่? จบเร็วตามที่ทรัมป์เคยโม้หรือเปล่า?”
“ส่วนสงครามยิวกับฮามาสและนักรบกลุ่มอื่นๆ ในตะวันออกกลางนั้น จะจบแบบไหน? ลุงเน ไซออนิสต์ที่มีวิญญาณฮิตเลอร์ขี่คอเกาะหลังจะงอแงระดับไหน?”
นอกจากนั้น สื่อบางสำนัก ยังยิงคำถามใส่กูรูที่มาออกรายการว่า “สงครามการค้ารอบใหม่ของทรัมป์จอมราวี จะต่อต้านจีนอย่างดุเดือด ดุดัน และดุฉกรรจ์มากกว่าสงครามการค้ารอบแรกหรือไม่?”
ในบรรดาข่าวสารเกี่ยวกับ “ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง” กลับไม่มีใครถามถึง การสู้ระหว่างชายและหญิง อนาคตข้างหน้าหญิงจะชนะชายได้หรือไม่? ทำไมชาวอเมริกันยังไม่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงเป็นผู้นำเบอร์ 1?
กรณีนี้ ดูเหมือน “หนอนหนังสือ” ที่ขยันอ่านนวนิยายของชาวอเมริกันอย่างสุดกระหน่ำ และ “นักดูหนัง” ที่เป็น “แฟนพันธุ์แท้” ของหนังคาวบอยชักปืนไวทุกเรื่อง ต่างออกมาตอบแทนดังนี้
ประวัติศาสตร์การสร้างประเทศสหรัฐอเมริกานั้น “มาจากปืน” โดยนักสู้ผู้ขยันใช้ “ปืนพูด” ล้วนเป็น “ผู้ชายที่มีลูกกลมๆ ห้อย” ทั้งสิ้น ต่างเป็น “แรมโบ้ จังโก้ริงโก้และเฟอร์นานโด ซานโจ้” ที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ผิวสีทองแดงที่เป็นเจ้าของแผ่นดินอย่างสุดโหดและสุดมัน โดยมี “ผู้หญิง” เป็นแม่บ้าน หอบลูกอุ้มหลานให้กำลังใจสามีที่ “เก่งฉกาจ ดุฉกรรจ์”
แม้ผู้หญิงจะเป็น “สิ่งมีค่า” ของชายชาวอเมริกัน แต่ก็เป็น “เพศอ่อนแอ” ที่จะต้องได้รับการ “ปกป้อง” มาตลอดอย่างยาวนาน
ดังนั้น ในสังคมมะริกัน จึงยังไม่มั่นใจจะให้ผู้หญิงขึ้นมาเป็น “ผู้นำเบอร์ 1” ที่สามารถทำหน้าที่เป็น “อินทรีผงาดฟ้า” สุดแข็งแกร่ง “สมศักดิ์ศรีมหาอำนาจโลก”ได้หรือไม่?
ความเชื่อที่ฝังใจลึกๆ โดยไม่บอกใครว่า “ผู้ชายเท่านั้นที่จะทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นตำรวจโลกที่ยิ่งใหญ่” ยังขี่คอเกาะหลังชาวอเมริกันตลอดมา
ดังนั้น หญิงอเมริกันที่สุดเก่ง สุดแกร่ง สุดเจ๋งที่จะเป็นเบอร์ 1 ได้คงต้อง“รอวัน”ที่ชาวอเมริกันจะ “ทำใจยอมรับ” และมีความเปลี่ยนแปลงตามมา
แล้ววันนั้น จะเป็นวันที่สหรัฐอเมริกา มีประธานาธิบดีเป็นหญิงคนแรก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี