อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง ครั้งที่ 60 สหรัฐอเมริกากลับมาผงาดในทำเนียบขาวอีกครั้งหลังจากชนะรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส เหนือความคาดหมายหักปากกาเซียนได้ทั่วโลก
ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี ผู้เต็มไปด้วยข้อครหาที่ศาลในสหรัฐตัดสิน มีความผิด 34 กระทง แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าเขาต้องรับโทษสถานใด เนื่องจากศาลสูงสุดในสหรัฐตัดสินว่า การกระทำในฐานะประธานาธิบดี มีเอกสิทธิ์คุ้มครองไม่ต้องรับโทษ
เนื่องจากเป็นบุคคลที่เต็มไปด้วยข้อครหาเป็นจำเลยในคดีอาญาข้อหาขบถ ทำให้นักวิชาการสื่อสารมวลชน นักวิเคราะห์ทั่วโลกทำนายในแง่ลบ
ล่วงหน้าตลอดถึง Poll ทั้งหลายทำนายว่าทรัมป์ต้องพ่ายให้รองประธานาธิบดี กมลาแฮร์ริส อดีตอัยการ ผู้ใส่ใจสิทธิเสรีภาพสตรี ซึ่งสถิติพบว่าสตรีอเมริกัน มีสิทธิเลือกตั้งมากกว่าผู้ชาย 52 ต่อ 48%
อย่างไรก็ตาม ความเป็นนักกฎหมายทำให้เธอเป็นรองทรัมป์ ผู้มั่งคั่งจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ยกระดับ เป็นเจ้าของกิจการสถานบันเทิง เป็นเจ้าของกิจการประกวดนางงามจักรวาล เจ้าของสนามกอล์ฟ เจ้าของโรงแรม รีสอร์ท ตลอดถึงกิจการด้านพลังงาน เรียกได้ว่า ทรัมป์เป็นเจ้าของกิจการมูลค่าแสนล้านดอลลาร์ ดังนั้นนโยบายเศรษฐกิจการค้าของทรัมป์ จึงน่าเชื่อมากกว่าของแฮร์ริส
ด้านการเมืองทรัมป์ ถูกกล่าวหาว่า เป็นพวกขวาจัดอำนาจนิยม ซึ่งเป็นภัยต่อประชาธิปไตย และโพลล์สำรวจว่าระหว่างเศรษฐกิจกับประชาธิปไตย ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะเลือกแบบไหนผลสำรวจพบว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้คะแนนประชาธิปไตย 60% ให้คะแนนเศรษฐกิจ 40%
ประเด็นต่างๆ เหล่านี้เป็นมูลเหตุสำคัญ ทำให้นักวิเคราะห์การเมืองนักวิชาการสื่อมวลชนและ Poll หลายสำนักฟันธงว่า กมลา แฮร์ริส จะชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของอเมริกา
มีเพียงคอลัมน์ ทวนกระแสข่าว เสนอบทความ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนว่าโดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับเข้าทำเนียบขาวในฐานะประธานาธิบดีสมัยที่สอง เหมือนกับที่เคยเสนอบทความล่วงหน้าว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง ซึ่งสวนทางกับนักวิเคราะห์และ Poll สำนักต่างๆ ที่ฟันธงว่า ฮิลลารี่ คลินตัน จะชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016
เพื่อยืนยันว่า การทำนายผลการเลือกตั้งแบบชาวบ้านธรรมดา ที่ไม่มีหลักวิชาการรองรับ ขออนุญาตนำข้อความที่ คุณโรส กิตติมา ณ ถลาง ผู้ประกาศข่าวต่างประเทศทีวีช่องเก้า ส่งถึงผู้เขียน หลังจากเลือกตั้งอเมริกา 2016 โดยมีใจความว่า
“พี่สุทินเก่งมาก เป็นคนเดียว ที่เชื่อว่าทรัมป์ชนะ และก็ชนะอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ แสดงว่าพี่รู้จัก คนอเมริกันอย่างถ่องแท้ รอยเตอร์ส ของพี่ คงต้องยกเครื่อง Poll ครั้งใหญ่ค่ะทายมาตลอดว่านาง H. มีโอกาสชนะ 90% .. 5555 วันหลังโรสสัมภาษณ์พี่ ดีกว่าค่ะ เยี่ยมมากค่ะพี่ อ่านขาด จริงๆ..ประสบการณ์พี่ มีประโยชน์มาก ถ่ายทอดเยอะๆ นะคะ หนูต้องอ่าน ตลอดๆๆ ละ ทีนี้”
การวิเคราะห์ทำนายผลเลือกตั้งที่สวนทางกับ Poll สองครั้ง ล้วนมาจากประสบการณ์ ดังที่คุณกิตติมา บอกว่ามีประโยชน์มาก เพราะเหตุว่า เรามีประสบการณ์ทำงานร่วมกับชาวอเมริกันนานกว่า 45 ปี จึงพูดได้ว่า รู้จักนิสัยถาวรของคนอเมริกันอย่างลึกซึ้ง รู้ว่าคนอเมริกันหลงตัวเอง เป็นมหาอำนาจ ไม่สนใจศึกษาอะไรไกลไปจากชายคาบ้าน ดังนั้น เมื่อทรัมป์ประกาศว่า จะทำให้ “อเมริกากลับมายิ่งใหญ่” “อเมริกาต้องมาก่อน” “ผิวขาวต้องเหนือกว่า” วลีปลุกใจเหล่านี้ มันตรึงใจคนผิวขาวส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นอนุรักษ์นิยมขวาจัดคลั่งชาติ
อนุรักษ์นิยมขวาจัดคลั่งชาติพวกนี้ ตายแทนทรัมป์ได้ เหมือนคนเสื้อแดง ตายแทนทักษิณได้ เมื่อคนคลั่งทักษิณ เผาบ้านเผาเมืองได้ฉันใด คนคลั่งชาติขวาจัด ก็บุกรัฐสภาอเมริกาก่อจลาจลได้ฉันนั้น คนที่ไม่เข้าใจว่าทรัมป์มีข้อครหามากมาย ศาลตัดสินความผิดอาญา 34 กระทง ทำไมยังลงสมัครรับเลือกตั้ง และชนะเลือกตั้งได้
พิเคราะห์ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในอเมริกา พบว่ามีนิสัยถาวร เหมือนผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่ในประเทศไทย ที่เลือกพรรคการเมือง เจ้าของพรรค มีประวัติคอร์รัปชั่น อาฆาตพยาบาทสถาบันฯ ศาลตัดสินลงโทษจำคุก ยังโกงความยุติธรรม ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว แต่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในประเทศไทยยังเลือกพรรคที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาตินับล้านล้านบาท คนไทยเลือกพรรคปล้นชาติฉันใด คนอเมริกันก็เลือกทรัมป์เป็นประธานาธิบดีฉันนั้น
นักวิเคราะห์วิจารณ์พากันวิตกว่า ทรัมป์จะสร้างวิกฤตครั้งใหญ่ในนโยบายสงครามการค้า ที่เขาประกาศกีดกันการค้าขึ้นภาษีสินค้าเข้าสหรัฐ 20% สงครามการค้า ที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย และเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ประเทศไทยต้องปรับกลยุทธ์ทางการค้าคือหาทางเลือกใหม่ ซึ่งมีหลากหลาย ในกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ที่เรียกว่า Brics
สิ่งที่หลายฝ่ายกังวลว่า ในยุคทรัมป์สงครามทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ อาทิ สงครามรัสเซีย-ยูเครน และสงครามในตะวันออกกลาง ที่เริ่มจากสงครามอิสราเอล-ฮามาส ลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามอิสราเอลกับฝ่ายอักษะนำโดยอิหร่าน จะบานปลาย กลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ไหม?
สำหรับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อมาสามปี ทรัมป์ประกาศตอนหาเสียงว่า “หากชนะเลือกตั้งผมจะทำให้สงครามยูเครนจบลงก่อนเดือนมกราคม 2025 หากผมยังเป็นประธานาธิบดีตอนนั้น สงครามยูเครนจะไม่เกิดขึ้น” ทรัมป์ ระบุว่าเขาจะจัดการให้คู่สงครามเจรจายุติสงครามด้วยสันติวิธี
เราเชื่อว่าทรัมป์ทำให้สงครามยูเครนยุติได้ เพราะคู่ปรปักษ์ตัวจริงของรัสเซีย คือ วอชิงตัน วันไหนสหรัฐหยุดส่งอาวุธหยุดส่งเงินไปให้เซเลนสกี ก็เป็นตัวตลกไร้เวที อีกปัจจัยที่เชื่อว่าสงครามยูเครนยุติได้ เพราะทรัมป์มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย ทรัมป์เป็นคนทำอะไรเหนือความหมาย เช่นข้ามเขตแดนไปจับมือกับ คิม จองอึน ลดความตึงเครียดระหว่างเปียงยางกับวอชิงตันลงได้ระดับหนึ่ง
ส่วนสงครามอิสราเอลกับฝ่ายอักษะนำโดยอิหร่าน ที่สหรัฐมีส่วนพัวพันอยู่อย่างล้ำลึกนั้น วอชิงตันต้องสนับสนุนอิสราเอลต่อไป แต่เชื่อว่าจะไม่รุนแรงกว่าที่เป็นอยู่ และเป็นไปได้จะมีข้อตกลงหยุดยิงในไม่ช้า ทรัมป์เป็นพ่อค้าที่มีความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียผู้มีอิทธิพลในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจเป็นช่องทางช่วยเจรจาให้ทุกฝ่ายหยุดยิง
ส่วนผลกระทบทางด้านการเมือง ความมั่นคงในประเทศไทย จากการติดตามข่าว และทำข่าวภูมิรัฐศาสตร์พบว่าพรรครีพับลิกันในยุคทรัมป์ มีพฤติกรรมต่างกับผู้นำสหรัฐพรรคเดโมแครตเป็นรัฐบาล ที่เน้นแทรกแซงการเมือง ความมั่นคงของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
สมัยประธานาธิบดี บารัค โอบามา ประเทศไทยถูกแทรกแซงอย่างหนัก เมื่อวอชิงตันต้องการใช้อู่ตะเภาเป็นฐานดาวเทียมจารกรรมสอดแนมต่อต้านจีน วอชิงตันสนับสนุนภาคประชาสังคม ทั้งเอ็นจีโอฝรั่ง และเอ็นจีโอไทยโจมตีใส่ร้ายสถาบันฯที่อเมริกันเชื่อว่า เป็นอุปสรรคต่อแผนการใช้ประเทศไทย เป็นฐานต่อต้านการขยายอิทธิพลของจีน
ในยุคคนเสื้อแดงประท้วงรุนแรงขับไล่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีรายงานว่าทูตอเมริกาประจำประเทศ คริสตี้ เคนนี่ไปนั่งหลังเวทีคนเสื้อแดงหลายครั้ง แกนนำคนเสื้อแดง เป็นแขกประจำสถานทูตอเมริกา ในยุคนั้น มีรายงานว่า เจ้าที่สถานทูตขึ้นล่องอีสานจัดตั้งวิทยุชุมชนคนให้คนเสื้อแดงโจมตีสถาบัน
ใกล้หมดวาระประธานาธิบดีโอบาม่า ทูตคริสตี้ ได้รับการโปรโมทเป็น หัวหน้าศูนย์ปักหมุดเอเชียประจำกระทรวงการต่างประเทศ มีหน้าที่ประสานงานกับเอ็นจีโอ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งประเทศไทย
เมื่อทรัมป์ เข้ามาเป็นประธานาธิบดี ปี 2016 เขาสั่งยุบสำนักงานคริสตี้ เคนนี่ พร้อมๆ กับห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวที่พ้นจากหน้าที่ไม่เกิน 5 ปี เป็นล็อบบี้ยิสต์ ตั้งแต่นั้นมาเอ็นจีโอที่เคลื่อนไหวสร้างความปั่นป่วนในประเทศไทยลดน้อยถอยลง
อย่างไรก็ตาม เชื้อร้ายมุ่งทำลายประเทศไทยที่เงียบหายไปในสมัยทรัมป์เป็นประธานาธิบดี ก็หวนกลับมาใหม่ในปี 2020 เมื่อ โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดี มีพรรคการเมืองคนรุ่นใหม่เกิดขึ้นในประเทศไทย พร้อมๆ กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีเป้าหมายเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันฯ ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่า ทั้งพรรคการเมืองและคนรุ่นใหม่ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากรัฐบาลวอชิงตัน
พรรคการเมืองตั้งขึ้นใหม่เคลื่อนไหวสอดคล้องกับคนรุ่นใหม่ ในการโจมตีใส่ร้ายมุ่งทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์และก็มีพฤติกรรมเหมือนกับสมัยรัฐบาลโอบามา คือ แกนนำพรรคการเมืองและคนรุ่นใหม่ที่เป็นปฏิปักษ์สถาบัน มีความสัมพันธ์กับสถานทูตสหรัฐ เมื่อมีปัญหาทางกฎหมาย สถานทูตสหรัฐช่วยปกป้องแก้ปัญหาให้ เมื่อคนรุ่นใหม่ ถูกศาลตัดสินลงโทษฐานละเมิดกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายปกป้องสถาบัน สถาบันศึกษาในสหรัฐก็เสนอทุนให้ไปศึกษาในอเมริกา
ในทางการเมืองหลายฝ่ายเชื่อว่าพรรคที่มีเป้าหมายล้มล้างสถาบันได้รับคำสั่งจากวอชิงตัน ให้ต่อต้านทำลายรัฐบาลทหารพม่า พรรคการเมืองใต้อาณัติของอเมริกาถึงได้สนับสนุนรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) รัฐบาลเงาฝ่ายนางออง ซาน ซู จี และ PDF กองกำลังติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าอย่างออกหน้า เรียกร้องให้ประเทศไทย รับผู้หนีเข้าเมืองชาวพม่า ซึ่งส่วนใหญ่ PDF ให้มีถิ่นฐานในประเทศไทย และได้ให้สวัสดิการเหมือนคนไทย
คอลัมน์นี้มีความเชื่อลึกๆ ว่าหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเป็นทางการ ทรัมป์ไม่ให้ราคาไม่สนใจพรรคการเมืองที่รับบัญชาจากวอชิงตันสมัยรัฐบาลไบเดน เมื่อทรัมป์ไม่ให้ราคาไม่สนใจ นั่นคือการเริ่มต้นจุดจบของพรรคการเมืองคนรุ่นที่อาจเฉาตายภายในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นความเห็นแบบชาวบ้าน ที่พิเคราะห์จากพฤติกรรมของประธานาธิบดีทรัมป์คิดว่าเขาไม่ทำสงครามล้างผลาญหรือแทรกกิจการภายในของประเทศที่ไม่มีฐานเศรษฐกิจใหญ่พอจะคุกคามนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน”
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี