โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกคนอเมริกันส่วนหนึ่ง และสื่อฯ บางสำนักของอเมริกัน ระบุว่าเป็นตัวอันตรายต่อประเทศชาติ ดังที่พบว่าหนังสือพิมพ์ New York Times ออกบทบรรณาธิการ ว่า America makes a perilous choice (อเมริกาเลือกทางเลือกอันตราย) โดยสรุปความได้คร่าวๆ ว่าคนอเมริกันเลือกทรัมป์กลับเข้าทำเนียบขาว ทำให้ประเทศต้องก้าวไปบนเส้นทางที่ไม่มั่นคง และยากที่จะคาดเดาได้
บทบรรณาธิการของ New York Times ยังระบุว่า ชาวอเมริกันต้องระวังเรื่องการบริหารประเทศโดยทรัมป์ เพราะอาจจะเกิดการรวบอำนาจและเผด็จการ รวมถึงการแก้แค้นคนที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับทรัมป์ และกล่าวว่าทรัมป์ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพศีลธรรม ไม่เคารพความยุติธรรม ไม่ให้ความสำคัญกับค่านิยม หลักการ ขนบประเพณีประชาธิปไตย และระบุด้วยว่าทรัมป์เข้ามาเพื่อแสวงหาอำนาจและดำเนินไปบนหลักบูชาตัวบุคคล
อันที่จริงบทบรรณาธิการของ New York Times ยังวิพากษ์ทรัมป์อย่างรุนแรงอีกหลายประเด็น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประเด็นที่เผ็ดร้อน และสะท้อนตัวตนของทรัมป์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของคนที่เฝ้าสังเกตพฤติกรรมการเมืองและพฤติกรรมส่วนตัวของทรัมป์อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
ที่นี้เราลองมาดูพฤติกรรมการเมืองของแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนล่าสุดของไทยกันบ้าง คอการเมืองไทยมองตรงกันว่านายกรัฐมนตรีคนนี้ไม่มีความรู้ความสามารถทางการเมืองแม้แต่น้อย และบางคนวิพากษ์หนักไปยิ่งกว่าคือ ไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ ไม่รู้กาลเทศะ ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง
แน่นอนว่าแพทองธารขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้เพราะทักษิณ ชินวัตร คือเจ้าของพรรคเพื่อไทย แต่การที่พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำรัฐบาลชุดล่าสุดได้ ก็เพราะมีข้อตกลงพิเศษ ซึ่งเป็นข้อตกลงที่คอการเมืองต่างก็เข้าใจกันโดยนัย
อันที่จริงก็ต้องบอกด้วยว่าการที่เศรษฐา ทวีสิน ได้กินตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็เป็นเพราะมีการตกลงพิเศษ หรือมีข้อตกลงทางลับระหว่างพรรคเพื่อไทยกับอำนาจพิเศษ แต่คอการเมืองไทยก็พยายามจะเข้าใจและยอมรับข้อตกลงลับนั้น เพราะเห็นว่าในขณะนี้สังคมไทยมีศัตรูร่วมทางการเมือง ดังนั้น เพื่อตัดแข้งตัดขาศัตรูร่วมทางการเมืองตัวนั้นออกไปก่อน ก็จึงจำเป็นต้องยอมใช้บริการไร้คุณภาพจากพรรคเพื่อไทยไปพลางๆ ก่อน
กลับไปที่ตัวแพทองธาร ก็ต้องยอมรับว่าคอการเมืองไทยมองแพทองธารว่ามีสถานะไม่ต่างไปจากตัวตลกผสมเด็กมีปัญหา และยังมองว่าไร้วุฒิภาวะทางการเมือง จึงไม่เคยฝากความหวังของบ้านเมืองไว้กับแพทองธาร
นานาชาติที่ติดตามเรื่องราวการเมืองของไทยก็คงตื่นตกใจเมื่อเห็นแพทองธารเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แล้วก็คงเข้าใจตรงกันว่าการมีแพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรีก็คือการปล่อยให้ทักษิณ ชินวัตร ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอยู่หลังม่าน
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวไทยอาจจะไม่ค่อยแตกต่างจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันในยุคนี้ เพราะทั้งสองกลุ่มอาจจะยินยอมเลือกคนไร้คุณภาพไปเป็นผู้นำประเทศ แต่สำหรับคนไทยแล้วอาจจะยังพอโต้แย้งได้ว่าไม่ได้เลือกแพทองธารโดยตรง ซึ่งต่างจากชาวอเมริกันที่เลือกทรัมป์โดยตรง แต่เมื่อดูพฤติกรรมการเมืองของแพทองธารกับทรัมป์แล้วก็อาจจะเห็นได้ว่าไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะทรัมป์ทำผิดกฎหมายสารพัดสารพันจนมีคดีความมากมายกว่า 30 คดี ส่วนแพทองธารนั้นแม้จะยังไม่มีคดีความในขณะนี้ แต่คอการเมืองเชื่อตรงกันว่าอีกไม่นานจะเจอคดีความไม่ใช่น้อย ซึ่งเป็นคดีความที่แพทองธารจงใจก่อขึ้นเอง
คนอเมริกันจะได้เจอทรัมป์ในฐานะประธานาธิบดีในครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะรัฐธรรมนูญอเมริกันกำหนดว่าประธานาธิบดีจะดำรงตำแหน่งได้สูงสุดสองสมัยเท่านั้น แต่สำหรับประเทศไทยจะยังต้องเจอกับอิทธิฤทธิ์การเมืองของระบอบทักษิณไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะหมดทักษิณ แต่ที่ผ่านมานั้นสังคมไทยเจอกับระบอบทักษิณมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ยุคทักษิณ ยุคสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยุคสมัคร สุนทรเวช ยุคยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุคเศรษฐา ทวีสิน และล่าสุดคือยุคแพทองธาร
สหรัฐฯ ไม่ห้ามคนต้องคดีความรับตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ประเทศไทยห้าม แต่ถึงแม้ไทยจะห้าม แต่ก็ไม่สามารถห้ามได้เด็ดขาด เพราะยังคงปรากฏเสมอๆ ว่าคนที่ต้องคดีความในไทยนั้น แม้จะไม่ได้รับตำแหน่งแห่งที่ทางการเมืองโดยตรง แต่ก็สามารถเป็นผู้เชิดผู้ชักหุ่นการเมืองได้โดยไม่สะทกสะท้านต่อข้อห้ามของกฎหมาย
ดังนั้น เรามาดูกันต่อไปว่าทรัมป์ (ตัวจริงการเมือง) จะทำลายอเมริกาให้พังพินาศอย่างไร แล้วก็ต้องดูกันว่าแพทองธาร (ในฐานะร่างทรงการเมือง) จะทำลายเมืองไทยให้ย่อยยับสถานใด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี