เมื่อวานวันที่ 10 พฤศจิกายน “มาดามแพ”นายกฯไอแพด บินลัดฟ้าไปนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ก่อนจะบินต่อไปกรุงลิมา ประเทศเปรู เพื่อเข้าร่วมประชุม“เอเปกซัมมิต” ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นภารกิจหลักการเดินสายเวิลด์ทัวร์ของ“มาดามแพ” ในครั้งนี้ และจะกลับมาถึงไทยก็วันที่ 18 พฤศจิกายน
การเดินทางไปนครลอสแอนเจลิส จะว่าไม่สำคัญก็ไม่สำคัญ เพราะเป็นแค่ทางผ่าน เธอน่าจะใช้เวลาอยู่ที่เมืองไทย แล้วค่อยบินไปกรุงลิมา ไม่ควรเอาเวลาไปทิ้งที่นครลอสแอนเจลิส เนื่องจากเวลานี้บ้านเมืองมีปัญหาเป็นไฟสุมรุมมากมาย ปัญหาเกาะกูดก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่
แต่ก็อย่างที่คนไทยรู้กันดี ว่างานหลักในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น นอกจาก“มาดามแพ”จะมีอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาคอยคิดและกำกับในฐานะ“ผู้ครอบครอง”และ”ผู้ชักใย”อยู่ข้างหลังแล้ว เธอก็ยังมีบรรดาอาๆ โดยเฉพาะ“อาอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย” และ“อาหนู-อนุทิน ชาญวีรกูร”แม้จะอยู่คนละพรรคแต่ในฐานะลูกน้องเก่าของบิดา คอยปฏิบัติหน้าที่แทน
เมื่อสองวันที่ผ่านมาก็ได้เห็นแล้วว่า“ทักษิณ ชินวัตร”ซึ่งกบดานเงียบหายไปพักใหญ่ หลังจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ออกมาแฉเรื่องการ“ป่วยทิพย์”บนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ก็ได้ออกมาเพ่นพ่านเหมือนผู้นำประเทศตัวจริงอีกแล้ว และก็ยังได้เอ่ยปากชื่นชม“มาดามแพ”บุตรสาวของตนว่า ตั้งแต่ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ทำงานได้ดี, มีความมุ่งมั่น และรู้เรื่องราวของประเทศได้เร็วมาก
ดังนั้น “มาดามแพ”จึงไม่ต้องห่วงอะไร จะอยู่หรือจะไป หรือจะลาอยู่บ้านเล่นกับลูกกับสามี ก็ไม่มีผลอะไรเกิดขึ้นต่อการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะมีทั้งบิดาและบรรดาอาๆ คอยปฏิบัติภารกิจนายกรัฐมนตรีให้อยู่แล้ว อย่างเรื่องปัญหาเกาะกูดที่กำลังเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองอยู่ในเวลานี้ คณะของ“อาอ้วน” กับคณะของ“อาหนู”ก็มีคิวสลับกันลงพื้นที่ดูแลให้ แบบ“คุณหนูอุ๊งอิ๊งค์”สบายหายห่วงได้
อย่างไรก็ตาม การเดินทางโฉบไปที่นครนครลอสแอนเจลิสก่อนจะไปกรุงลิมา นั้น “มาดามแพ”มีกำหนดการเพื่อประชุมเอกอัครราชทูตไทย และกงสุลใหญ่ไทย ประจำภูมิภาคอเมริกา ระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายน รวมทั้งจะพบปะชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา ตลอดจนหารือกับผู้แทนระดับสูงของบริษัทเอกชนที่สำคัญในอเมริกา เพื่อเชิญชวนให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย
สองเรื่องแรกพอเข้าใจได้ เป็นการเปิดตัวและแนะนำตัวให้เอกอัครราชทูตไทย และกงสุลใหญ่ไทย ได้รู้จักหลังจากขึ้นมานั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่วนการพบปะชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา ก็คือการหาเสียงทางอ้อมในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะที่นครลอสแอนเจลิสมีคนไทยอาศัยอยู่เยอะ และคนไทยเหล่านี้ก็มีสิทธิ์ในการออกเสียงเลือกตั้ง สส. นอกจากนี้อีกส่วนหนึ่งก็ยังมีแกนนำคนเสื้อแดง ที่ลี้ภัยการเมืองและหลบหนีคดีไปอยู่ที่นั่นหลังเกิดเหตุการณ์“เผาบ้านเผาเมือง” เป็นการถือโอกาสพบปะเยี่ยมเยือนพร้อมกันไปด้วย
แต่เรื่องการเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยนั้น ฟังดูดี และฟังแล้วก็คุ้นๆ เหมือนเมื่อครั้งที่นายเศรษฐา ทวีสิน เดินสายเวิลด์ทัวร์แล้วประกาศตัวเป็นเซลส์แมนเบอร์หนึ่งของประเทศ เพื่อไปเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งหนึ่งปีที่นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ได้ถลุงเงินแผ่นดินเพื่อเหมาเช่าเครื่องบิน และรวมทั้งค่าใช้จ่ายกินอยู่ระหว่างเดินทางทั้งคณะ ประเมินตัวเลขออกมาแล้วเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท แต่ไม่มีอะไรติดมือกลับมาเลย มีแต่ราคาคุยเท่านั้น
“มาดามแพ”ก็คงอีหรอบเดียวกับนายเศรษฐา ทวีสิน มีแต่การสร้างภาพฉาบฉวย และก็เช่นเดียวกันกับ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ซึ่งนายกรัฐมนตรี“หุ่นเชิด”ทั้ง 3 คนนี้มีอะไรคล้ายๆ กัน และที่เหมือนกันมากที่สุดทั้ง 3 คน คือ ชอบเดินสาย“เวิลด์ทัวร์”ไปต่างประเทศ
เช่นว่า “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 ปี กับ 275 วัน เดินทางไปต่างประเทศ 57 ครั้ง รวมทั้งหมด 36 ประเทศ ขณะที่“เศรษฐา ทวีสิน”เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงแค่ปีเดียว เดินทางไปต่างประเทศรวมทั้งหมด 17 ครั้ง 15 ประเทศ กับ 1 เขตเศรษฐกิจพิเศษ คือ ฮ่องกง
สำหรับ“มาดามแพ”เพิ่งเริ่มทำสถิติ นับถึงวันนี้เป็นนายกรัฐมนตรีมาได้เกือบ 3 เดือน เดินสายเวิลด์ทัวร์มาแล้ว 3 ประเทศ คือกาตาร์, ลาว และจีน หากนับทริปนี้ด้วยก็เพิ่มสหรัฐอเมริกา กับ เปรู อีก 2 ประเทศ รวมเป็น 5 ประเทศ ถือว่าออกตัวยังไม่แรงเท่ากับนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่ง 3 เดือนแรกนายเศรษฐาเดินสายเวิลด์ทัวร์ถึง 10 ครั้ง ใน 8 ประเทศและ 1 เขตเศรษฐกิจพิเศษ
ระหว่าง“มาดามแพ” กับนายเศรษฐา ทวีสิน ต้องมาวัดสถิติกันอีกครั้งเมื่อวันที่“มาดามแพ”พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่วน“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”นั้นขึ้นแท่นไปแล้ว คงไม่มีใครในสองคนนี้ทุบสถิติได้ เพราะ“ยิ่งลักษณ์”ทำสถิติในการเดินทางไปต่างประเทศเฉลี่ยเดือนละ 2 ครั้ง
ไม่รู้ว่าเวทีใหญ่ในการเข้าร่วมประชุมเอเปกซัมมิต ที่กรุงลิมาคราวนี้ “มาดามแพ”จะได้รับ“ฉายา”อะไรเพิ่มขึ้นมาอีก เหมือนกับการประชุม“ผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย”ที่กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยการก้มหน้าก้มตาท่องโพยจากไอแพด จนได้ฉายา“นายกฯไอแพด”ติดตัวกลับมา
การพึ่งพาไอแพดนั้น ผู้รู้เขาบอกว่า พอใช้มากๆ จนติด เหมือนที่“มาดามแพ”เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ไอแพดก็เลยกลายเป็น“สมอง”ของมาดามแพไปโดยปริยาย คือสมองจริงๆ สำหรับใช้คิดให้เกิดสติปัญญา กลับถูกใช้ไปในส่วนของการใช้ความจำเหมือนนกแก้วนกขุนทอง
วันใดถ้าไอแพดของ“มาดามแพ”เกิดแบตเตอรี่หมด หรือลูกเอาไปเล่นแล้วพัง คงยุ่งแน่-กลายเป็น“มาดามสมองกลวง”ทันที !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี