หลังจาก “โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลีกัน”ทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เหนือ“กมลา แฮร์ริส ผู้สมัครตัวแทนพรรคเดโมแครต”ก็ปราศรัยกับกลุ่มผู้สนับสนุนทันที ตามสไตล์ก้าวร้าวตรงไปตรงมา
พระเจ้าให้ “ทรัมป์” กลับมาเพื่อ“ปกป้อง และฟื้นฟูอเมริกาให้กลับมายิ่งใหญ่สู่ความรุ่งเรือง อีกครั้งเป็นวาทกรรมที่คุ้นหูคล้ายวาทกรรมนักการเมืองฝึกงาน ไร้ประสบการณ์สามัญสำนึก วุฒิภาวะที่สืบสันดานเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเมื่อครั้งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
“จะมุ่งมั่นตั้งใจในการบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียมทำให้คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประเทศไทย”
โลกกำลังเผชิญชะตากรรม “คลั่งชาติ /- อเมริกัน เฟิร์ส” จะเข้มงวดกับชาติที่ได้ดุลการค้าตัวเองมากขึ้น จีนเคยมีเป้าหมายชัดเจนอันดับหนึ่งได้ดุลการค้ามโหฬาร 279.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีโอกาสสูงมากที่จีนจะย้ายฐานการผลิตภาคอุตสาหกรรมมายังภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเราคาดหวังว่า จะมีอานิสงส์มาตกกับไทยบ้างพอประมาณ
เราเชื่อว่า อุตสาหกรรมรถอีวี ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ โซลาร์เซลล์ อิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ จะถูกโยกย้ายขนานใหญ่เพื่อหนีกำแพงภาษีที่ “ทรัมป์”ประกาศไว้ชัดเจนว่าจะปรับจาก 20% เป็น 60%
ทั้งเชื่อและหวังว่า “มาดามแพ โดย คุณพ่อจุ้นจ้าน แม้จะเป็นอดีตนักโทษเด็ดขาดชายคดีทุจริตคอร์รัปชั่นจะสมองไบรท์ตาสว่างมองเห็นช่องทางกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประเทศไทย”
เพราะนี่คือกรรมของสังคมไทยที่ต้องเป็นไปตามเนื้อหา ในฐานะสัตว์โลกที่กากบาทในคูหาเลือกตั้งกว่า 10 ล้านเสียง เพื่อหวังให้มาทำหน้าที่เพื่อการนี้ (บริหารประเทศ ทำให้ คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ให้ประเทศไทยมีอนาคตที่ดีกว่า)
“มาดามแพ”มีสติปัญญาเพียงรับสนองบัญชาจากผู้ครอบครอง ยิ่งสงสารและประหวั่นปัญหาปากท้องและวิกฤตเศรษฐกิจนัก เพราะ “พ่อจุ้นจ้าน/-ผู้ครอบครอง”ยังอยู่ในสภาวะต้องสงสัย “ป่วยทิพย์” เข้าพักรักษาอาการป่วยทิพย์ที่ชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ โรงพยาบาลตำรวจ จ่อกรรมสนองต้องรับกรรมบั้นปลายสุดท้ายของชีวิตที่ทัณฑสถาน และ/หรือรวมถึงข้าราชการ, เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตำรวจ, กรมราชทัณฑ์ที่ไม่ส่งเวชระเบียนพร้อมภาพถ่าย“ผู้ไข้ทิพย์”รายนี้ หลังจากมีผู้ร้องเรียน นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 180 วัน ได้รับการพักโทษ รับใบบริสุทธิ์โดยไม่เคยต้องเข้าเรือนจำให้สำนึกเลยสักวัน
แพทย์รพ.ตำรวจ, หมอที่รพ.ราชทัณฑ์พูดเหมือนกัน ... ฉันไม่ได้ให้อยู่ต่อ นั่นหมายถึงอาการป่วยทิพย์ชัดๆ แถมมีคำให้การระบุว่า เครื่องแต่งกายของผู้ไข้ใส่กางเกงขาสั้น เสื้อเชิ้ต กินอาหารหรูดื่มไวน์มีเด็กรับใช้อีกต่างหาก
ตอกย้ำด้วยคนกันเองอย่าง “พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นักเรียนเตรียมทหารและนักเรียนนายร้อยตำรวจ เจ้าของฉายา “วีรบุรุษนาแก - มือปราบตงฉิน”ได้รับพระราชทานเหรียญ “พิทักษ์เสรีชน” กับ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ /-พลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ หักพาลรองผบ.ตร.” ยิ่งรัดแน่นอย่างดิ้นไม่หลุดว่าการนอนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เป็นละครป่วยทิพย์ของนักโทษเด็ดขาดชายคดีทุจริตคอร์รัปชั่นฉ้อฉลเงินภาษีอากรแผ่นดินเท่านั้น
อย่างนี้ “มันจบแล้วครับนาย”... สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมล่ะครับ
ละครฉากสุดท้ายจุดจบคือคุกนะจ๊ะนาย!!นักโทษเด็ดขาดชายคดีทุจริตคอร์รัปชั่นย่อมหนีบ่วงกรรมตนเองไม่พ้น กระบวนการยุติธรรมและกฎหมายไทยไม่ควรเหลื่อมล้ำเลือกปฏิบัติ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี