แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn ในการพัฒนาประเทศนั้น จำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น เริ่มด้วยการสร้างพื้นฐาน คือ ความมีกินมีใช้ของประชาชนก่อน ด้วยวิธีการที่ประหยัดระมัดระวัง แต่ถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อพื้นฐานเกิดขึ้นมั่นคงพอควรแล้ว จึงค่อยสร้างเสริมความเจริญขั้นที่สูงขึ้นตามลำดับต่อไป ...การถือหลักที่จะส่งเสริมความเจริญให้ค่อยเป็นไปตามลำดับ ด้วยความรอบคอบระมัดระวังและประหยัดนั้น ก็เพื่อป้องกันความผิดพลาดล้มเหลว และเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จได้แน่นอนบริบูรณ์... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธี
พระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 19 กรกฎาคม 2517)...
nn ต้องบอกว่าตอนนี้ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ยังไม่ได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการของประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (บอร์ดแบงก์ชาติ) แม้จะผ่านการเลือกโดยคณะกรรมการสรรหา ทั้ง 7 คนไปแล้วก็ตาม ต้องรอดูว่า แล้วหลังจากนั้นก็ต้องทูลเกล้าฯ ชื่อ กิตติรัตน์ ให้ทรงลงพระปรมาภิไธย เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งต่อไป...
nn มีข่าวว่าเหตุที่คณะรัฐมนตรียังไม่ผลีผลามพิจารณาให้กิตติรัตน์รับตำแหน่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ เพราะมีข้อวิตกว่าอาจจะผิดกฎหมาย แล้วคณะรัฐมนตรีจะต้องกระเด็นหลุดลอยไปจากตำแหน่งได้ เนื่องจากยังมีความเห็นทางกฎหมายว่ากิตติรัตน์ยังน่าจะมีสถานะของนักการเมืองสังกัดพรรคเพื่อไทย เพราะต้องไม่ลืมว่ากิตติรัตน์คือคนที่ทำงานให้กับ เศรษฐา ทวีสิน
(อดีต) นายกรัฐมนตรีจากเพื่อไทย แล้วเศรษฐาก็เพิ่งหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปเมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2567 คือประมาณ 2 เดือนเศษๆ เท่านั้นเอง เรื่องนี้อาจจะเป็นจุดตายของคณะรัฐมนตรีได้ เพราะฉะนั้น จึงทำให้ต้องรอดูข้อกฎหมายในประเด็นนี้ให้ชัดเจนก่อน มิฉะนั้นแล้ว อาจจะตายทั้งคณะ (รัฐมนตรี) ได้...
nn มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการจัดตั้งกลุ่มคนเพื่อลงชื่อสนับสนุนกิตติรัตน์ให้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ โดยคนที่อ้างว่ามาจากกลุ่มวิทยาลัยตลาดทุนและคนที่อ้างว่าเป็นกลุ่มธุรกิจผู้ไม่พอใจที่ถูกธนาคารพาณิชย์คิดดอกเบี้ยเงินกู้แพงสำหรับเรื่องการเชียร์หรือการค้านกิตติรัตน์ นับเป็นเรื่องปกติในสังคมที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ แต่ก็ต้องตั้งข้อสังเกตทับลงไปว่า คนที่ค้านกับคนที่เชียร์กิตติรัตน์นั้น กลุ่มไหนคำนึงถึงปัญหาของประเทศชาติมากกว่ากัน อันที่จริงอยากจะตั้งคำถามว่ากลุ่มไหนทำลงไปด้วยสติปัญญา หรือกลุ่มไหนทำลงไปด้วยความไร้ปัญญา เรื่องแบบนี้คนมีปัญญาแท้จริงสามารถรับรู้ได้เป็นอย่างดี...
nn ปัญหาการบุกรุกและครอบครองที่ดินเขากระโดง บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นเรื่องที่ทำให้สังคมไทยตั้งคำถามกันอย่างมากว่า ตกลงแล้วกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงมหาดไทย ยอมรับและทำตามคำตัดสินของศาลปกครองหรือไม่ หรือว่ากระทรวงทั้งสองไม่เคารพคำตัดสินของศาล เพราะยุคนี้เป็นยุคต่างคนต่างใหญ่ คือ พรรคเพื่อไทยก็ใหญ่ พรรคภูมิใจไทยก็ใหญ่ แล้วก็ต้องถามต่อไปว่าตกลงแล้วกระทรวงมหาดไทยจะทำตามคำตัดสินของศาลปกครองหรือไม่ หรือจะอ้างว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง จึงไม่จำเป็นต้องนำพากับคำตัดสินของศาล...
nn ความจริงคือที่ดินของการรถไฟฯ ถูกคนอื่นๆ ทั้งนักการเมือง และนักธุรกิจ และคนอีกมากมายฉกฉวยเข้าครอบครองโดยผิดกฎหมาย รัฐบาลจะปล่อยให้ที่ดินของรัฐถูกนักการเมือง และถูกคนบุกรุกฉกฉวยเอาไปครอบครอง กระนั้นหรือ หรือรัฐบาลไม่ยึดหลักกฎหมาย เพราะกลัวไม่ได้เป็นรัฐบาลต่อไป...
nn มีข่าวมาเล่าสู่กันฟังสำหรับคนที่มีเงินถุงเงินถังที่ใส่เงินไว้ในกระสอบ หรือเก็บเงินไว้เต็มห้องใต้ดินในคฤหาสน์สุดหรู ตอนนี้คุณสามารถนำเงินของคุณไปซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่อยู่
ใกล้กับศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งต่อไปจะเป็นสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ มีนบุรี ล่าสุด สาธิต วิทยากร เจ้าของที่ประกาศขายที่ดิน 19 ไร่ ราคาตารางวาละ 1.5 ล้านบาท คิดเป็นเงินทั้งหมดประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาทเท่านั้นเอง แต่เจ้าของที่ดินบอกว่าต่อรองราคากันได้ เจ้าของที่ดินบอกว่าตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะขายที่เพราะจะเก็บไว้ลงทุนทำธุรกิจโรงแรมและคอนโดมิเนียม ในแบบMixed Use แต่เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจเป็นแบบนี้ (คือไม่ดีแบบที่เห็นอยู่นี้) ก็จึงตัดสินใจขาย อ่านข่าวนี้แล้วสงสัยไหมว่าทำไมไม่เห็น ทักษิณ ชินวัตร และหญิงอ้อ-พจมาน ณ ป้อมเพชรติดต่อซื้อที่ดินแปลงนี้ ทั้งๆ ที่สมัยก่อนเมื่อทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี สังคมพบว่าพจมานไปซื้อที่แถวๆ รัชดาฯ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่ดินผืนนี้ แต่ต้องบอกว่าราคาซื้อที่พจมานจะซื้อในยุคก่อนนั้น มันแสนจะถูกอย่างมหัศจรรย์ เพราะว่าล่วงรู้ข้อมูลวงใน จึงทำให้ได้ราคาที่ดินแสนถูก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อ เพราะมีคดีความใหญ่โตมโหระทึก...
nn วันนี้ขออนุญาตคุยเรื่องการเมืองอเมริกันยุค Donald Trump 2.0 ที่คอการเมืองต่างประเทศกำลังติดตามรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และผู้จะไปรับตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ล่าสุดคือ ทรัมป์ โดยทุกคนกำลังรอดูว่าใครจะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆ แต่เท่าที่ทราบจากจากการรายงานข่าวโดย CNN ก็พบว่ามีชื่อ Pete Hegseth อดีตพิธีกรและผู้ดำเนินรายการร่วมของFox News รายการ Fox & Friends Weekend จะไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วน Mike Waltz ตัวแทนพรรครีพับลิกัน จากมลรัฐฟลอริดา จะรับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ และ Elon Mask กับ Vivek Ramaswamy จะรับตำแหน่งในหน่วยงานตั้งใหม่ ชื่อหน่วย (กรม) ความมีประสิทธิภาพของรัฐบาล (Department of Government Efficiency) และตั้งให้ Steve Witkoff ผู้เป็นเพื่อนเก่าแก่ของทรัมป์ และเป็นนักธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ไปทำหน้าที่ทูตพิเศษประจำภูมิภาคตะวันออกกลาง แล้วตั้ง Mike Huckabee อดีตผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอ ไปกินตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอล ส่วน Bill McGinley นักกฎหมายเก่าแก่ของพรรครีพับลิกัน จะไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาประจำทำเนียบขาว
และให้ John Ratcliffe รับตำแหน่งผู้อำนวยการ CIA...
nn เป็นที่น่าสังเกตว่าว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยุคที่สองจะมีสร้างความหวือหวาสุดพิสดารให้กับการเมืองอเมริกัน และการเมืองโลก แบบชนิดที่ว่า New World Order ยุคใหม่จะต่างไปจากยุคเก่าอย่างชนิดที่ว่าตำรารัฐศาสตร์สากลที่ใช้ๆ กันมาหลายทศวรรษไม่สามารถใช้อธิบายปรากฏการณ์การเมืองโลกยุคทรัมป์ 2.0ได้อีกต่อไป...
nn ส่วนคำถามที่ว่าเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย คนปัจจุบันคือ Bob Godec จะยังได้ทำหน้าที่ต่อไปหรือไม่ ก็ต้องติดตามดูกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ คือรับรองว่า หลายประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้ากับอเมริกาจะต้องเกิดอาการครั่นเนื้อครั่นตัวกันอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะนักธุรกิจอย่างทรัมป์ไม่มีทางปล่อยให้ประเทศไหนได้เปรียบดุลการค้าอเมริกาลอยนวลได้ต่อไป คำถามคือนายกรัฐมนตรีคนล่าสุดของไทย ที่ชื่อ แพทองธาร ชินวัตร ผู้ปราศจากความรู้ด้านการเมืองทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะรับมืออย่างไรกับนโยบายป่วนโลกโดยรัฐบาลใหม่ของอเมริกัน ภายใต้การชี้นิ้วของทรัมป์ขอบอกตรงๆ ว่างานนี้อย่าว่าแต่ แพทองธาร เลยที่จะปวดศีรษะ ต่อให้ทักษิณ ชินวัตร ผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทย ก็น่าจะปวดศีรษะไม่น้อยเช่นกัน ส่วนเรื่องที่ทักษิณอ้างว่าสนิทสนมกับทรัมป์นั้นก็ขอบอกตรงๆ ว่าแค่ราคาคุยเท่านั้น เพราะทักษิณเป็นคนขี้คุย...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี