แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn ทำงานทำการในหน้าที่ฐานะของแต่ละคนที่จะต้องทำให้ทำอย่างดีๆ ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่อยากดีเด่น ทำให้ดีแล้วก็จะดีเด่นเอง ไม่ใช่ว่าจุดประสงค์ที่จะทำเพื่อให้ดีเด่น ทำเพื่อให้ดีเรื่อยๆ ทำให้หน้าที่ที่มีให้สำเร็จ แต่ไม่ใช่จุดประสงค์ที่จะดีเด่น ก็อย่างที่ว่าไม่ใช่ทำเพื่อดัง แต่ว่าถ้าต้องการจะดังเมื่อไรก็จะดังเองแล้วดังดีด้วยดังไพเราะ ไม่ใช่ดังอย่างน่ารำคาญหรือน่ารังเกียจ... (ความตอนหนึ่งจากพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดา พระราชวังดุสิต 4 ธันวาคม 2523)...
nn 22 พฤศจิกายนนี้ สาธารณชนจะได้รับทราบกันว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องของธีรยุทธ สุวรรณเกษร ที่ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกการกระทำอันเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 49 ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้เลื่อนการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้จากวันที่ 13 พฤศจิกายนออกไปเป็น 22 พฤศจิกายน เนื่องจากติดภารกิจสำคัญ...
nn แต่มีประเด็นน่าวิเคราะห์คือ 13 พฤศจิกายน เป็นวันที่ทักษิณ ชินวัตร ไปช่วยหาเสียงให้กับคนของพรรคเพื่อไทยที่ลงแข่งขันชิงตำแหน่งนายก อบจ. อุดรธานี มุมที่ถูกนำไปวิเคราะห์ทางการเมืองคือทักษิณเลือกไปช่วยหาเสียงที่อุดรฯ ในวันที่ 13 พฤศจิกายน เพราะเข้าใจว่าศาลรัฐธรรมนูญจะชี้เรื่องดังกล่าว โดยหากศาลฯ ชี้ว่ารับเรื่องไว้พิจารณา ก็จะเท่ากับทักษิณได้สำแดงพลังมวลชนเพื่อตอบโต้ศาลฯ ว่ามีคนเสื้อแดงอุดรฯ หนุนหลังทักษิณมากมาย แต่การกลับไม่เป็นไปตามที่ทักษิณวางแผนไว้ เพราะศาลฯ เลื่อนการพิจารณาไปเป็นวันที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งก็ต้องตามดูว่าทักษิณจะเล่นเกมการเมืองแบบไหนเพื่อกดดันศาลรัฐธรรมนูญ...
nn คนอุดรฯ กลุ่มหนึ่งคุยกับธรรมกรว่า ผู้ลงชิงตำแหน่งนายก อบจ. อุดรฯ จากเพื่อไทยน่าจะชนะการเลือกตั้งอย่างแน่นอน ไม่ว่าทักษิณจะไปช่วยหาเสียงหรือไม่ก็ตาม เพราะฐานเสียงของผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยแน่นมาก แล้วที่สำคัญก็คือฐานเสียงของพรรคประชาชนในอุดรฯ ไม่แน่นเท่าเพื่อไทย แต่การที่ทักษิณต้องไปอุดรฯ ก็เพื่อไปสำแดงอิทธิฤทธิ์การเมืองให้ปรากฏเท่านั้น แต่ผลลัพธ์กลับปรากฏว่าไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่ทักษิณต้องการ เพราะผู้คนเสื้อแดงไปน้อยกว่ายุคที่ทักษิณทรงอิทธิพลการเมืองแบบล้นฟ้าล้นดิน คนเสื้อแดงอุดรฯ ถอดใจกับทักษิณไปแล้ว...
nn มีคำถามว่าทำไม กกต. จึงปล่อยให้นายก อบจ. ลาออกจากตำแหน่งได้อย่างง่ายดาย แล้ว กกต. ก็ต้องจัดการเลือกตั้งเพื่อสรรหานายก อบจ. คนใหม่ ทั้งๆ ที่นายก อบจ. คนเดิมก็ลงชิงตำแหน่งอีก เรื่องแบบนี้ กกต. ต้องมีสติปัญญาและต้องจัดการได้ เพราะปล่อยให้ลาเข้าลาออกกันวุ่นวายเช่นนี้ ทำให้เสียเงินจัดการเลือกตั้งโดยเปล่าประโยชน์ ทำไม กกต. ไม่ปรับเงินจากนายก อบจ. ที่ลาออกก่อนกำหนด ย้ำว่า กกต. ไม่ควรปล่อยให้เล่นการเมืองแบบผลาญเงินงบประมาณแผ่นดินโดยสูญเปล่าอีกต่อไป...
nn เป็นที่ชัดเจนและได้รับการยืนยันเป็นมั่นเหมาะจากเวทีปิดการประชุม ASEAN Summit ครั้งที่ 44 ณ กรุงเวียงจันทน์ว่าในวันดังกล่าวคือ 11 ตุลาคม 2567 แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยไม่ได้อยู่ร่วมในพิธีปิดและส่งมอบตำแหน่งประธานการประชุมครั้งต่อไปให้กับประเทศมาเลเซีย...
nn เรื่องนายกรัฐมนตรีไทยไม่เข้าร่วมพิธีปิดการประชุม ASEAN Summit อาจดูเพียงผิวเผินแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่จริงๆ แล้วต้องย้ำว่ามีปัญหามาก โดยเฉพาะในแง่ของการให้เกียรติผู้นำประเทศสมาชิก ASEAN ที่เข้าร่วมพิธีนี้ และดูเสมือนไม่ให้เกียรติกับเจ้าภาพผู้จัดการประชุม...
nn มีคำถามว่าแพทองธารไม่เคยเรียนรู้ และไม่พยายามทำความเข้าใจในระเบียบพิธีการของงานสำคัญระดับภูมิภาค เช่นนี้บ้างหรือ การที่ไม่อยู่ร่วมพิธีปิดประชุมคือการแสดงให้เห็นว่าไม่สนใจ ไม่นำพา และไม่ให้ความสำคัญกับงานสำคัญนี้ ไม่คิดบ้างหรือว่าเจ้าภาพจัดงานจะมองประเทศไทยด้วยสายตาดูถูกดูแคลนเช่นไร ภาพที่ปรากฏชัดว่าที่นั่งของนายกรัฐมนตรีไทยว่างเปล่า เพราะไม่มีตัวผู้นำสูงสุดของการเมืองไทยอยู่ร่วมงาน คือการประจานประเทศไทยโดยตรง แถมยิ่งมีภาพรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย คือมาริษ เสงี่ยมพงษ์ อยู่ในงานโดยปราศจากตัวนายกรัฐมนตรีไทย มันคือการตอกย้ำว่านายกรัฐมนตรีไทยไม่มีมารยาท และไม่รู้จักขนบธรรมเนียมประเพณีการประชุมนานาชาติ เรื่องแบบนี้ต้องถามตรงๆ ว่ากระทรวงการต่างประเทศไม่บอกไม่กล่าว ไม่เตือนไม่ติงนายกรัฐมนตรีไทยบ้างเลยหรือ ทำไมปล่อยให้เกิดเรื่องไม่งามเป็นประจำ ถามจริงๆ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศของไทยไม่ตักไม่เตือนแพทองธารบ้างเลยหรือ ทำไมปล่อยให้ฉีกหน้าประเทศไทยซ้ำแล้วซ้ำอีก...
nn ในความเป็นจริงคือแพทองธารไม่อยู่ร่วมพิธีปิดการประชุม ASEAN Summit ที่ลาว แต่เหตุใดฝ่ายโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของไทยจึงจงใจให้ข่าวโกหกสาธารณชนว่า นายกรัฐมนตรีไทยเข้าร่วมพิธีปิดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน การให้ข่าวเท็จเช่นนี้ คือการทำหน้าที่บกพร่องจนไม่สามารถให้อภัยได้ หากโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้ข่าวโกหกเสียแล้ว สาธารณชนจะเชื่อถือข่าวที่โฆษกรัฐบาลป่าวประกาศได้หรือ เรื่องแบบนี้สะท้อนความไม่น่าเชื่อถือของตัวโฆษกรัฐบาลอย่างชัดเจน...
nn อีกเรื่องหนึ่งที่สาธารณชนวิพากษ์อย่างหนักจนถึงขั้นประณามแพทองธารคือการไปประชุม APEC ครั้งที่ 31 ณ กรุงลิมา ประเทศเปรู สิ่งที่สาธารณชนประณามคือการแต่งเนื้อแต่งตัวของนายกรัฐมนตรีไทยเมื่อไปปรากฏตัวที่สนามบินของประเทศเปรู ด้วยการสวมกางเกงขาวปลายขากางเกงลุ่ย แถมเสื้อผ้าที่สวมก็ช่างผิดกาลเทศะราวกับว่าไม่ได้รับการสั่งสอนเรื่องมารยาทการแต่งกายในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แล้วต้องไปงานสำคัญระดับนานาชาติ การที่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีไร้ความสามารถ ไร้กาลเทศะ ไร้ความสำนึกผิดชอบชั่วดี มันคือการประจานประเทศไทยให้ชาวโลกรู้ว่าเมืองไทยยุคนี้มันช่างเสื่อมทรามไร้รสนิยม เป็นอนารยประเทศ เป็นที่เสื่อมเสียในสายตาประชาคมโลกอย่างที่สุด...
nn ดูท่าทางว่าโฆษกทำเนียบรัฐบาลจะเกิดอาการปลาบปลื้มภาคภูมิใจมากกับการที่มีภาพประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ จูงมือ แพทองธาร ในช่วงปิดประชุม APEC ครั้งที่ 31 เพราะเห็นได้ชัดว่าทีมโฆษกของทำเนียบรัฐบาลไทยพยายามนำเสนอภาพนี้ให้ออกสู่สายตาสาธารณชน ซึ่งก็ต้องขอบอกตรงๆ ว่าตามทำเนียมการทูตและทำเนียมการประชุมระหว่างประเทศในระดับนานาชาตินั้น ไม่ค่อยมีภาพแบบนี้ปรากฏบ่อยๆ เพราะผู้นำประเทศและเขตเศรษฐกิจต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุม เขามีศักดิ์ศรี มีชั้นเชิง และมีการวางเนื้อวางตัวให้เหมาะสม ไม่ปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นตุ๊กตาหรือของเล่นของผู้นำการเมืองจากประเทศอื่นๆ การถูกเนื้อต้องตัวกันในระหว่างการพบปะกันแบบตัวต่อตัวก็มักจะเป็นไปตามระเบียบแบบแผน ผู้นำประเทศจะไม่ปล่อยให้ผู้นำประเทศอื่นแสดงกิริยาให้สาธารณชนเห็นว่าตนเองตกเป็นรอง หรือเป็นเบี้ยล่างของประเทศใดๆ เพราะทุกประเทศมีศักดิ์ศรี และมีสถานภาพเท่าเทียมกันในฐานะสมาชิกของ APEC...
nn ภาพไบเดนจูงมือแพทองธาร เป็นภาพที่ตีความได้หลายแง่มุม เช่น ให้ความเอ็นดูในฐานะเด็กน้อย หรือแสดงออกให้โลกเห็นว่าต้องจูงมือแล้วทำเสมือนลากให้เดินไป เพราะเห็นว่าผู้นำประเทศไทยทำสิ่งผิดพลาดมาโดยตลอด ส่วนเรื่องการล่วงละเมิดทางร่างกายนั้น ขออนุญาตไม่คิดเรื่องนั้น เพราะไม่เชื่อว่าไบเดนจะมีความคิดดังกล่าว แต่ที่สำคัญคือแพทองธารต้องสำเหนียกไว้เสมอว่า นางมีฐานะเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย จึงต้องระมัดระวังตัวให้จงดี อย่าปล่อยให้ผู้นำชาติอื่นๆ แสดงออกให้สาธารณชนเห็นว่าผู้นำสูงสุดของการเมืองไทยไม่รู้ประสีประสาอะไร จึงต้องลากจูง เพราะหากปล่อยให้ทำเอง อาจทำให้เกิดการขายหน้าบนเวทีการประชุม...
nn ขอถามอีกทีว่าการที่แพทองธารไปประชุม APEC ครั้งที่ 31 ให้ผลดีสูงสุดด้านใดกับประเทศไทยบ้าง มีข้อตกลงทวิภาคีกับประเทศใดเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง มีการช่วยให้มูลค่าการค้าการขายของไทยกับประเทศสมาชิก APEC รายใดดีขึ้นบ้าง ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่ไทยเคยมีกับประเทศสมาชิก APEC รายได้ก็ตาม ได้ถูกขจัดปัดเบาให้บรรเทาหรือหมดสิ้นไปหรือไม่ ขออภัยที่ต้องบอกว่าไม่จำเป็นต้องเอาภาพการถ่ายรูปร่วมกับผู้นำประเทศหรือผู้นำเขตเศรษฐกิจที่เป็นสมาชิก APEC มาแสดง เพราะมันไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น หรือลดปัญหาอุปสรรคต่างๆ ของไทยที่เคยมีอยู่ให้ลดน้อยลงไป ถ้าไปเพื่อช็อปปิ้ง เพื่อถ่ายรูปกับผู้นำประเทศต่างๆ ก็อย่าไปในฐานะผู้นำประเทศไทย เพราะสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินโดยสูญเปล่า...
nn ปิดท้ายด้วยคำถามที่คนอ่านแนวหน้าฝากให้ถาม กสทช. ว่าทำไมจึงปล่อยให้มีรายการข่าวเน่าๆ จำพวกหลอกลวงหากินกับคนที่อยากเป็นข่าว คือคนไหนอยากออกข่าวก็จ่ายเงินซื้อเวลาให้ตนเองเป็นข่าว แถมยังปล่อยให้ผู้จัดรายการข่าวทำตัวเสมือนตบทรัพย์คนต่างๆ เป็นประจำ แถมยังละเมิดสิทธิของประชาชนตลอดเวลา ด้วยการนำเสนอข่าวรุนแรง ข่าวไม่สร้างสรรค์ แล้วที่สำคัญคือทำไมปล่อยให้มีโฆษณาลวงโลกได้อย่างเอิกเกริกทุกๆ 3-4 นาที ธรรมกรขอบอกว่า กสทช. คงไม่มีปัญญาไปจัดการทำเรื่องดีๆ ได้หรอก เพราะข้างใน กสทช. ก็เละเทะเน่าเฟะ คนข้างใน กสทช. ก็ตบตีกันเอง หาผลประโยชน์ใส่กระเพาะตัวเอง ฉ้อฉลกันก็ไม่น้อย แถมยังเอาลูกนักการเมืองไปทำหน้าที่เสมือนผู้ซื้อข่าวลวงโลก เพื่อสร้างภาพลวงตาว่า กสทช. ยุคนี้ขาวสะอาด ปราศจากมลทิน ทั้งๆ ที่ใช้เงินซื้อสื่อฯ เพื่อฟอกขาวให้ กสทช. บางคนตลอดเวลา เมื่อ กสทช. ยังเน่าเฟะ และจะเอาปัญญาที่ไหนไปจัดการกับรายการข่าวเน่าๆ ในสังคมไทยได้...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี