ต้องยอมรับว่า “พ่อมดลูกสามหลานเจ็ด” แห่งนครสารขัณฑ์ คือ“ทศกัณฐ์ตัวจริง” ที่ “ถูกฆ่าไม่ตายในทางการเมือง” แม้จะมีการยิงด้วย “ขีปนาวุธล่องหนด้วยไฮมาร์สหลายลำกล้อง” พ่อมดแห่งสารขัณฑ์ก็ยัง “ยืนยงคงกระพัน” รักษาชีวิตอยู่ได้อย่าง “อมตะ”

พ่อมดถูกฆ่าไม่ตาย เพราะแปลงกายเป็น “ทศกัณฐ์” ที่ถูก“พระฤๅษีโคบุตร” ถอดเอาดวงใจใส่กล่องนิรภัยไปซ่อนไว้ในแท่งศิลาที่สุดเร้นลับ จนไม่มีใครจะหาพบได้ ทั้งชาตินี้และชาติหน้าตอนบ่ายๆ

โดย “ศัตรูทางการเมือง” และ “กองแช่งทั้งหลาย” ทั้งที่เป็น “ขุนศึกรถถัง นักการเมืองคนเก่ง นักกฎหมายที่หา “จุดตาย” ของพ่อมดได้นับร้อยนับพันจุด แล้วแตะมือกันเพื่อเข่นฆ่าพ่อมดให้ดับชีพ?มาอย่างยาวนานร่วม 20 ปี

“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ” กว่า 20 ปีที่มีผู้พยายาม “ดับจิต” พ่อมดให้พ้นไปจากโลกหรือพ้นไปจากเส้นทางการเมืองผู้พยายามเหล่านั้น ได้ “พยาบาทผ่านมารุ่นแล้วรุ่นเล่า” ก็ไม่มีใคร “โค่นพ่อมดได้สำเร็จ?”

“ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กบัง ขุนศึกคนดัง บิ๊กสามป.ขุนทัพคนฉลาด เดอะมาร์คอดีตผู้นำคนเก่ง ป๋าเทพ นักสร้างมวลชนคนกล้า สื่อมวลชน นักการเมือง และนักกฎหมายอีกเป็นโขยงต่างไม่มีใคร ดับทศกัณฐ์ทางการเมืองรายนี้ลงได้อย่างเหลือเชื่อ”

“ทศกัณฐ์ที่ถอดดวงใจ” จึงเป็นนักการเมืองที่ถูกฆ่าไม่ตาย แม้เปิ้นจะเดินทางไปสำรวจโลกมายาวนาน บัดนี้ได้กลับมาสารขัณฑ์อีกครั้งโดยมีศัตรูทางการเมืองทั้ง “รุ่นเก่าและรุ่นใหม่” ต่างเฮโลออกมาหา “กลยุทธ์แปลกใหม่” เพื่อ “เด็ดชีพทศกัณฐ์ให้จงได้?”

แต่แล้ว การต่อกรกับทศกัณฐ์ทุกครั้ง ทุกคนต่างกลายเป็น “ราวีกับเงาของคู่ต่อสู้” ไม่มีโอกาส “ฟันฉับร่างขาดกระเด็น”

วันนี้ พ่อมดกลับมาสารขัณฑ์ผ่านไปเกือบครึ่งปีแล้ว “ทศกัณฐ์ผู้ถูกฆ่าไม่ตาย” เชื่อใจและเชื่อมั่นว่า “ไม่มีใครหากล่องดวงใจพบ?” ดังนั้น
ตนจะไม่มีทาง “มอดม้วย” อย่างแน่นอน จึงออกมา “ท้าทาย” และ “เยาะเย้ย”กับกองแช่งทั้งหลายราวกับ “เสือติดปีก”

ส่วน กรณี “หนุมานไปต้มตุ๋นพระฤๅษีโคบุตรจนได้กล่องดวงใจทศกัณฐ์มาขยี้ขย้ำจนทศกัณฐ์ดับชีพ” นั้นเป็นแค่ “ตำนานรามเกียรติ์” เท่านั้น

ในโลกแห่งความจริง นครสารขัณฑ์ไม่มีหนุมานคนไหน จะไปหลอกฤๅษีเอากล่องดวงใจของทศกัณฐ์มาได้?

เมื่อหากล่องดวงใจทศกัณฐ์ไม่พบ ก็อย่าหวังเลยว่า ใครจะฆ่าทศกัณฐ์ได้สำเร็จ?

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม