มีคนจำนวนไม่น้อยกล่าวว่าการเมืองของไทยคือตัวปัญหา ทำให้บ้านเมืองปั่นป่วน แต่ก็มีคนโต้แย้งว่า อันที่จริงต้องบอกว่านักการเมืองของไทยคือตัวปัญหามากกว่า แต่ก็มีคนอีกไม่น้อยบอกว่าทั้งนักการเมือง และข้าราชการ รวมถึงพ่อค้านักธุรกิจจำพวกเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว ก็มีส่วนทำให้บ้านเมืองเกิดความโกลาหลวุ่นวาย
จะอย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่าทุกคนทุกภาคส่วนในสังคมไทยล้วนมีส่วนทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย หรือเกิดความสุขสงบได้ทั้งสิ้น แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ความสุขสงบของบ้านเมืองต้องมีพื้นฐานมาจากการเคารพยึดมั่นในหลักกฎหมาย และต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมเสมอหน้า ไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งเป็นไปตามหลักนิติรัฐ และนิติธรรม
คำถามคือประเทศไทยยึดมั่นในหลักนิติรัฐ นิติธรรมแท้จริงหรือไม่ คนทุกคนที่ทำผิดกฎหมายในบ้านเมืองนี้ ถูกลงโทษตามหลักและกระบวนการของกฎหมาย จริง ๆ หรือ ทำไมเราจึงเห็นเป็นประจำว่าคนบางกลุ่ม บางคนทำผิดกฎหมาย แต่ไม่ถูกลงโทษ ไม่ติดคุก ไม่ถูกจองจำ แต่ทำไมคนบางคนทำผิดแล้วต้องเข้าคุก ติดตะราง
บ้านเมืองใดก็ตามที่ไม่มีนิติรัฐ นิติธรรมก็จะมีแต่ปัญหา มีแต่ความวุ่นวาย มีแต่ความโกลาหล เพราะไม่มีใครเชื่อถือ เคารพ และยึดมั่นในหลักกฎหมาย เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะบังเกิดอภิสิทธิ์ชน มีการเล่นพรรคเล่นพวก ไม่เคารพหลักเกณฑ์ เมื่อไม่มีใครเคารพหลักเกณฑ์ของบ้านเมือง บ้านเมืองก็จะพบกับความพินาศบรรลัยในที่สุด
วันที่ 22 พฤศจิกายน เป็นอีกวันหนึ่งที่คนไทยกำลังเฝ้าจับตาดูว่าบ้านเมืองจะดำเนินไปตามกระบวนการของกฎบัตรกฎหมายอย่างเคร่งครัดหรือไม่ คนไทยจำนวนไม่น้อยกำลังจับตามองว่าคนที่ทำผิดกฎหมาย แล้วหนีคุกหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศเกือบ 20 ปี จะต้องรับโทษทัณฑ์ใดๆ หรือไม่ หรือว่าทำผิดกฎหมายแล้วหนีไปอยู่ต่างประเทศ แล้ววันหนึ่งก็กลับเข้าประเทศโดยไม่ต้องถูกลงโทษแต่ประการใด นี่คือการเย้ยหยันและดูถูกหลักกฎหมายของประเทศอย่างชัดเจนที่สุด เรื่องนี้คนไทยจำนวนไม่น้อยต่างตั้งข้อสังเกตมาโดยตลอด แล้วก็มีคำถามว่า ประเทศไทยยังยึดมั่นในหลักนิติรัฐ นิติธรรมจริงหรือ
แน่นอนว่าบ้านเมืองนี้ยังไม่พ้นจากระบบอุปถัมภ์ แต่ถึงกระนั้นก็ต้องเข้าใจตรงกันว่าบ้านเมืองยุคนี้ไม่ใช่ยุคที่ใครต่อใครจะใช้ฝ่ามือปิดแผ่นฟ้าได้อีกเหมือนเมื่อครั้งในอดีตกาล คนไทยยุคนี้ไม่ใช่คนที่ยอมให้คนกระทำผิดลอยนวลได้เหมือนยุคที่บ้านเมืองยังมีสภาพเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน คนไทยรู้ดีว่าใครทำผิด และคนทำผิดผู้นั้นถูกลงโทษตามกฎบ้านกบิลเมืองหรือไม่
เพราะฉะนั้น วันที่ 22 พฤศจิกายน จึงเป็นอีกวันหนึ่งที่สังคมไทยจะได้รู้กันอีกครั้งหนึ่งว่า ประเทศยังยึดมั่นในหลักนิติรัฐ นิติธรรมหรือไม่ หรือว่าจะเป็นประเทศที่ใครก็ตามเมื่อมีอำนาจแล้วจงใจกระทำความผิด แต่กลับไม่ต้องรับโทษทัณฑ์ นอกจากไม่ต้องรับโทษแล้ว ยังกลับมาแสดงอิทธิฤทธิ์เย้ยคนไทยทุกคนว่า กูแน่ เพราะกูทำผิดแล้วไม่ต้องรับโทษ พร้อมกับแสดงตนราวกับว่า กูคือคนเพียงคนเดียวที่จะทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากภัยพาลได้
หากประเทศยอมทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม เพื่อให้คนพาลทำผิดกฎหมายแล้วไม่ต้องรับโทษยังลอยหน้าท้าฟ้าท้าดินได้ต่อไป ก็ไม่ต้องหวังอีกต่อไปว่าสังคมไทยจะมีความสงบ เรียบร้อย และจงรับรู้ไว้ด้วยว่า เมื่อบ้านเมืองเป็นแบบนี้แล้ว ต่อไปก็จะไม่มีใครเคารพกฎหมาย ไม่เคารพความถูกต้อง ไม่ศรัทธาในความดีงามอีกต่อไป
ลองคิดดูเถอะว่า หากบ้านเมืองของเราเละเทะแหลกเหลวเพราะไร้นิติรัฐ นิติธรรมแล้ว บ้านเมืองจะดำเนินต่อไปอย่างไร เราจะอยู่กันอย่างไรในสภาพอนาธิปไตย หรือว่าเราต้องกลับไปอยู่ในยุคถืออาวุธไว้ในมือของตนเอง แล้วฟาดฟันคนอื่นเพื่อความอยู่รอดของตนเอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี