ภายหลังการมอบนโยบายให้กรมสรรพสามิตของนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล ที่รมช.คลัง สั่งการให้กรมสรรพสามิตพิจารณาการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่โดยมีแนวทางนำไปสู่การจัดเก็บภาษีบุหรี่อัตราเดียว (Single Rate) เพื่อลดการบิดเบือนกลไกราคาจากการเก็บภาษีบุหรี่สองอัตราที่ใช้ในประเทศไทยมานานกว่า 7 ปี กระทรวงการคลัง
ควรเร่งดำเนินการใช้ภาษีสรรพสามิตบุหรี่แบบอัตราเดียวโดยเร็ว เพราะไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อรายได้ภาษีของรัฐและการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) แต่ยังสอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับสากลที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และยังได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวไร่ยาสูบที่สนับสนุนให้เร่งเปลี่ยนแปลงภาษีให้เหมาะสม
ระบบภาษีสองอัตราในปัจจุบันได้พิสูจน์แล้วว่าไม่มีประสิทธิภาพในการบรรลุวัตถุประสงค์หลัก ซ้ำยังทำให้รายได้ภาษีสรรพสามิตบุหรี่ลดลงอย่างมากและไม่สามารถปกป้องผู้ผลิตในประเทศได้จริง เห็นได้จากการแข่งขันทางราคาของบุหรี่ถูกกฎหมายที่มีราคากระจุกตัวอยู่ในฐานภาษีชั้นล่าง การเปลี่ยนไปใช้ภาษีสรรพสามิตแบบอัตราเดียวจะทำให้ระบบภาษีง่ายต่อการบริหารจัดการ โดยไม่เพิ่มภาระภาษีสรรพสามิต ลดการบิดเบือนราคา และไม่ทำให้ปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายเลวร้ายลง จากรายงานล่าสุดการค้าบุหรี่ผิดกฎหมายก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 25,000 ล้านบาท รวมถึงการสูญเสียรายได้จากภาษีสรรพสามิตและกองทุนสุขภาพหลายพันล้านบาท
การใช้ภาษีแบบอัตราเดียวจะเพิ่มความสามารถในการทำกำไรแก่ ยสท. ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการนำส่งรายได้เข้ารัฐและการนำเงินไปช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบโดยไม่ต้องของบประมาณจากรัฐเพิ่มเติมเหมือนที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงไปสู่ภาษีแบบอัตราเดียวคาดว่าจะเพิ่มรายได้ของรัฐบาล ซึ่งสำคัญต่อการให้บริการสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐที่ต้องการสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ
สำหรับทั่วโลก แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับภาษีสรรพสามิตบุหรี่คือภาษีบุหรี่แบบอัตราเดียว (Uniform tax rate) สามารถเป็นตามปริมาณ ตามมูลค่า หรือแบบผสมก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพสังคมและเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ โดย WHO, ธนาคารโลก และ IMF ได้แนะนำแนวทางนี้ว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการบรรลุวัตถุประสงค์ด้านสุขภาพและรายได้ รายงานของ WHOเกี่ยวกับการระบาดของบุหรี่ทั่วโลก และคู่มือเทคนิคของ WHO เกี่ยวกับนโยบายและการบริหารภาษีบุหรี่ได้เน้นถึงประโยชน์ของภาษีอัตราเดียวในการลดการบริโภคบุหรี่และเพิ่มรายได้ของรัฐบาล นอกจากนี้ ประเทศสมาชิก OECD ในปัจจุบันทั้ง 38 ประเทศต่างก็ใช้ภาษีบุหรี่แบบอัตราเดียวทั้งนั้น
ประเทศที่นำภาษีสรรพสามิตบุหรี่แบบอัตราเดียวมาใช้ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในด้านสุขภาพของประชาชนและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ เช่น ฟิลิปปินส์ และตุรกี ที่มีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้นและอัตราการสูบบุหรี่ลดลง แสดงให้เห็นว่าภาษีบุหรี่แบบอัตราเดียวเป็นประโยชน์ต่อทั้งรายได้ของรัฐและสุขภาพของประชาชน
การใช้ภาษีสรรพสามิตบุหรี่แบบอัตราเดียวในประเทศไทยเป็นก้าวสำคัญสู่เสถียรภาพของรายได้ภาษีสรรพสามิตและสุขภาพของประชาชน และจะเป็นประโยชน์ต่อ ยสท. โดยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้สามารถอยู่รอดได้ในสถานการณ์ที่อุตสาหกรรมบุหรี่มีขนาดลดลงเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากล เตรียมพร้อมนโยบายภาษีบุหรี่ของไทยก่อนเข้าเป็นสมาชิก OCED ดังนั้น ถ้ากระทรวงการคลังเร่งนำภาษีบุหรี่อัตราเดียวมาใช้ก็จะช่วยให้ประเทศไทยมีอนาคตที่มีสุขภาพดีและมั่งคั่งมากขึ้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี