สหรัฐอเมริกาห้ามฟ้องร้องประธานาธิบดีที่กำลังดำรงตำแหน่ง เพราะไม่ต้องการให้ผู้นำประเทศต้องเผชิญปัญหาการฟ้องร้อง จะได้มีเวลาเพื่อบริหารประเทศให้ดีมากที่สุด แล้วที่ผ่านมาก็มักจะพบว่าประธานาธิบดีสหรัฐ น้อยรายเหลือเกินที่จะประพฤติตนจนทำให้เกิดการฟ้องร้องเป็นคดีความ แต่ก็มีคำถามว่าถ้าหากประธานาธิบดีสหรัฐ ทำผิดในเรื่องใดๆ ขึ้นมา จะถูกลงโทษหรือไม่ตอบว่าเขามีกระบวนการพิจารณาลงโทษด้วยกระบวนการทางสภา คือ impeachment
แต่สำหรับโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ คนใหม่ล่าสุดที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในช่วงประมาณกลางเดือนมกราคม 2568 (จะเรียกว่าทรัมป์เป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 หรือ 47 ดี เพราะเขาเคยเป็นประธานาธิบดีมาแล้วหนึ่งสมัย) นับได้ว่าทรัมป์เป็นคนที่มีคดีความมากมายถึง 34 คดี โดยเป็นคดีอาญาที่รัฐบาลกลาง และรัฐบาลมลรัฐของสหรัฐฟ้องร้องเขา นอกจากนี้ยังมีคดีแพ่งอีกด้วย
ในอนาคตอันใกล้นี้ ทรัมป์จะขึ้นไปรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐ จึงทำให้เขารอดพ้นจากการถูกฟ้องร้อง แต่ทรัมป์ก็พยายามวางแผนใช้อำนาจรัฐที่ตนกำลังจะมีในอนาคต เข้าไปแทรกแซงการทำงานในกระบวนการยุติธรรมดังที่ปรากฏว่า Jack Smith อัยการพิเศษ (SpecialCounsel) ถอนฟ้องคดีที่ทรัมป์ล้มล้างผลการเลือกตั้งของปี ค.ศ. 2020 รวมถึงคดีที่ทรัมป์นำเอกสารของทางการไปเก็บไว้ที่บ้านของทรัมป์ ในรีสอร์ทมาร์เอลาโก (Mar-a-laco Club ที่ปาล์มบีช ฟลอริดา) ซึ่งการถอนฟ้องเกิดขึ้น เพราะทรัมป์จะได้ขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ในช่วงประมาณกลางเดือนมกราคมปีหน้า (ขออนุญาตขยายความว่ากระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ ห้ามฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี)
ขอพักเรื่องการถอนฟ้องคดีทรัมป์ไว้ก่อนแล้วจะไปดูเรื่องคดีความของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งมีความเหมือนและความต่างในหลายแง่มุม ในส่วนที่คล้ายคือทั้งทรัมป์และทักษิณต่างมีคดีความด้วยกันทั้งคู่ แต่ทรัมป์ยังไม่ถูกตัดสิน ในขณะที่ทักษิณถูกตัดสินคดีเรียบร้อยแล้ว (อันที่จริงต้องบอกว่าทั้งคู่ยังเป็นนักธุรกิจเหมือนกันอีก) ทรัมป์ถูกมองว่าพยายามใช้อิทธิพลการเมืองเพื่อจัดการกับฝ่ายตรงข้ามของตน ซึ่งก็ไม่ต่างจากทักษิณที่ถูกมองว่าใช้อิทธิพลการเมืองเพื่อทำให้ตนเองไม่ต้องรับโทษ ถึงแม้ทักษิณได้ยอมรับสารภาพแล้วว่ากระทำผิด
ทักษิณถูกพิพากษาให้ต้องจำคุก แต่ก็ไม่เคยเข้าคุกแม้แต่วันเดียว ส่วนทรัมป์จะยังรอดพ้นจากการถูกฟ้องร้องในคดีต่างๆ เพราะยังมีตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นเครื่องคุ้มกัน แต่ในวันที่ทรัมป์ลงจากตำแหน่ง หากคดีต่างๆ ของทรัมป์ยังไม่ถูกเป่าให้มลายไป เขาก็จะต้องกลับไปสู้คดีต่อไป
จะเห็นได้ว่าทรัมป์ยังไม่ถูกฟ้องร้องเพราะมีตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ทักษิณถูกฟ้องร้องและถูกพิพากษาคดีไปแล้ว แต่ก็ไม่ต้องรับโทษจริง แม้ทักษิณไม่ได้มีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตัวจริง แต่ทว่าเขาประกาศก้องว่าเขามีสถานะเป็นผู้ครอบครองนายกรัฐมนตรี
จะเห็นได้ว่าผู้มีตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐที่ชื่อทรัมป์ กับผู้มีตำแหน่งผู้ครอบครองนายกรัฐมนตรีประเทศไทย ผู้ชื่อทักษิณ มีความเหมือนกันประการหนึ่งคือกฎหมายไม่สามารถเล่นงานหรือลงโทษเขาได้
ก็ต้องตามดูกันต่อไปว่าทรัมป์และทักษิณจะมีโอกาสเข้าคุกติดตะรางหรือไม่ แล้วก็ต้องรอดูด้วยว่าคุกไทยกับคุกอเมริกัน สามารถใช้คุมขังอดีตนายกรัฐมนตรีไทย และอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ได้หรือไม่ คุกไทยถูกวิพากษ์ว่ามีไว้ขังหมากับคนจน ส่วนคุกอเมริกันมีไว้เพื่อขังหมากับคนจนเหมือนคุกไทยหรือไม่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี