“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า, แนวหน้าออนไลน์ /- www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสามย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิด,นักเลือกตั้งชังชาติ, ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสีกินอุจจาระอาจม, สลิ่มติ่งแดงด้อมส้มอุปกรณ์ทำการเกษตรใช้สนตะพายเทียมคันไถ อย่างเท่าเทียม” เริ่มต้นสัปดาห์แรกของเดือนสุดท้ายของปี “มะโรง – งูใหญ่” เพื่อก้าวต่อไปสู่ปี “มะเส็ง – งูเล็ก”/- 2568 สังคมไทยยังไม่มีอะไรใหม่ไม่มีความเปลี่ยนแปลงเป็นชิ้นเป็นอันกับ “ท่านผู้นำซอฟต์เบรนด์ /-นักการเมืองฝึกงานนายกรัฐมนตรีสืบสันดาน และ คณะรัฐมนตรีสืบสันดาน” ราวกับว่า “ฮันนีมูน”ไม่สิ้น ยกเว้นถีบส่ง “ประชาชน” รับ “บทบาทมีเกียรติมีศักดิ์ศรี...เป็น ขอทาน” สำเร็จสมความตั้งใจสมราคา “นักการเมืองให้ปลา พระราชาให้เบ็ด”...

nn “ออ.เฟียซ , มาดามแพ /- แพทองธาร ชินวัตร” สมองนางปราดเปรื่องสมเป็นปราชญ์ผู้ไร้วุฒิภาวะสามัญสำนึกลืมหน้าที่ที่ขันอาสามารับใช้ประชาชน “บันเทิงเริงรมย์” กับการประชุมครม.สัญจรครั้งแรกของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสืบสันดานจนล้มซับน้ำตาลืมความทุกข์ยากลำบากยากเข็ญของพี่น้องปลายขวานทองที่ประสบอุทกภัยในขณะนี้ทว่าปฏิบัติหน้าที่คุณแม่ได้คะแนนเต็ม พา ด.ญ.ธิธาร สุขสวัสดิ์ บุตรสาว และ ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ บุตรชายไปเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพื่อชม “น้องเอวา” เสือโคร่งหน้าแบ้วอย่างสบายอกสบายใจ ก่อนแจ้งสื่อสั่งการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยเร่งรัดการเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ในสัปดาห์หน้า...

nn ถือว่าเป็นโชคดีของพี่น้องปักษ์ใต้ที่ “นังลูกสาวเกิดภาวะต่อมจิตสำนึกกระตุก” ต่างกับ “ท่านผู้ทรงเกียรติค่ายสีฟ้าพระแม่ธรณีบีบมวยผม /- สมยศ พลายด้วง” ที่เกิดอาการป่วยกะทันหันทำต่อมจิตสำนึกบกพร่อง ใช้เงินกว่า 10 ล้านบาท เนรมิตงานวันเกิดสุดหะรูหะราไม่แคร์สายตาพี่น้องที่ตัวเองเป็นตัวแทนประสบภัยน้ำท่วม ... “ไม้หน้าสาม” เห็นเพื่อนอย่าง “นิพนธ์ บุญญามณี” ที่เป็นทั้ง อดีตสส. , อดีตรมช.มหาดไทย และอดีตนายก อบจ.สงขลา ขึ้นเวทีอวยพร เอาล่ะตามมารยาททว่าเพื่อนเอ๋ยไม่สง่าเลยสักนิดคนค่อนจังหวัดน้ำตานองหน้า ในวันที่ “นังลูกสาว,นายกรัฐมนตรีสืบสันดาน /- แพทองธาร ชินวัตร” ระรี้ระริกอยู่ที่เชียงใหม่พาลูกเที่ยวไนท์ซาฟารีเชียงใหม่ หลังประชุมครม.ตามประสาแม่ๆ ลูกๆ อย่างสนุกสนานก็ถือว่ากลัดหนองแล้ว แต่คนกันเองในพื้นที่กระทำเหมือนไม่ยี่หระต่อเคราะห์ภัยที่เกิดขึ้น ประสาเพื่อนน่ะ “นิพนธ์” ควรสำนึกกระดากอายบ้างน่ะเพื่อน ค่ายสีฟ้าประชาธิปัตย์วันนี้ “ลูกผีลูกคน” จะต่ำสิบหรือสูญพันธุ์ยังไม่รู้ แต่พื้นที่ค่อยๆ ถูกข้าศึกยึดทีละหน่วยทีละพื้นที่ไม่นานหมด 52 ที่นั่ง ถ้ายังสำราญกับอดีตเยี่ยงนี้...

nn สังคมแห่งการทุจริตคอร์รัปชั่นเบ่งบานไปทุกสาขา ทั้งภาคประชาชนธุรกิจแชร์ลูกโซ่ขายตรง ทนายความเจ้าเล่ห์ หรือฝ่ายการเมืองทั้งระดับชาติ และท้องถิ่น 2-3 ฉบับที่ผ่านมาเขียนเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น วงจรอุบาทว์หลายครั้ง เพราะตราบใดที่หมายังกินขี้ ฉันใด สังคมไทยก็ฉันนั้น“ไม้หน้าสาม” ขอทบทวนความจำคดีทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสักครา กรณีนายกฯเอ๋ “พิมพ์พัชชา หยิมการุณ”นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางคูรัด ที่มีการถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้รถยนต์หลวง ครั้งนั้นได้รับการชี้แจงจากนายกพิมพ์พัชชาว่า ... “ไม่มีคดีทุจริต..นัยว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ป.ป.ช. ยกคำร้องไปหมดแล้ว” ไม่ได้แค่ชี้แจงอย่างเดียวยังส่งเสียงคำรามกรรโชกขู่เพื่อนร่วมงานเรียกร้องให้หยุดเสนอข้อมูลและให้ขอโทษกับเนื้อหาที่นำเสนอไปล่าสุด “ไม้หน้าสาม”ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวในคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่ามีมติเมื่อวันที่ 9 ต.ค.2567 ชี้มูลความผิดในคดีอาญาถึง 2 เรื่อง คือ 1.การใช้รถยนต์หลวง และ 2.การทุจริตงบประมาณจัดงานวันเด็ก ซึ่ง ป.ป.ช.มีความเห็นสั่งให้ถอดถอนจากตำแหน่งและให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้นายอำเภอบางบัวทองมีความเห็นตามป.ป.ช. และได้ส่งเรื่องให้ “เกียรติศักดิ์ ตรงศิริ พ่อเมืองนนทบุรี” พิจารณาเรียบร้อยแล้ว ก็คงต้องลุ้นกันต่อไปว่า จะมีความเห็นให้นายกเอ๋ตกเก้าอี้นายกเล็กไปตามความเห็น ป.ป.ช.หรือไม่??? ทว่าคนในอบต.บางคูรัดให้ข้อมูลว่า นายกเอ๋-พิมพ์พัชชา ก็เขียนใบลาพักร้อนไปรับลมหนาวถึงยุโรป “ไอซ์แลนด์-อังกฤษ” กับคิงส์เพื่อนคนสนิท เพิ่งกลับมาเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมานี่เอง ร่ายยาวมานี้ ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า “ไม้หน้าสาม” ไม่ได้ไร้เดียงสามั่วข้อมูลตามที่มีการคำรามกรรโชกกัน ไม่ได้มีเรื่องราวการทุจริตเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว...

nn “ไม้หน้าสาม” ได้รับฟังความเดือดร้อนจาก ชาวนาบางคูรัดที่ได้รับผลกระทบจากโครงการติดตั้ง แสงสว่างโซลาร์เซลล์ ตามหัวไร่ปลายนา ทั้งที่ชาวนาไม่ต้องการ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวนา ข้าวไม่ตกรวงสุก เพราะแสงไฟที่ไม่พึงประสงค์สาดส่องนาข้าวจนเสียหาย รวมถึงการติดไฟส่องสว่างโซลาร์เซลล์บริเวณคลองชลประทาน พื้นที่ของกรมชลประทานแบบลุยถั่วจนกรมชลประทานมีคำสั่งให้รื้อถอนออกไป และการก่อสร้างสะพานงบประมาณ 3.5 ล้านบาท บริเวณคลองเจดีย์เชื่อมคลองโต๊ะใหม่ มีแต่สะพานแต่ไม่มีคอ-ตีนสะพาน น่าสนใจตรงที่ไม่มีถนนสัญจรไปได้ ชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์ใดๆ กับสะพานนี้เลย นอกจากเป็นที่ให้สุนัขมาขับถ่ายสิ่งปฏิกูล คำถามคือท่านนายกเอ๋มีหลักคิดอย่างไรในการใช้งบประมาณภาษีประชาชน...

nn อีกพื้นที่หนึ่งของเมืองนนทบุรี ที่มีการบริหารงบประมาณแผ่นดินแบบท้าทายกฎหมายบ้านเมือง นั้นคือ อบต.บางไผ่ ซึ่งมีกระบวนการเล่นแร่แปรธาตุทำเป็นขบวนการตกเขียวงบกรมชลฯในการซ่อมบำรุงประตูระบายน้ำในพื้นที่ “บอสสุวิชัย บุญเพ็ง นายกอบต.บางไผ่” ต้องเร่งทำความจริงให้ปรากฏ เพราะภาพมันฟ้องว่า มีการใช้งบประมาณที่ไร้ประสิทธิภาพอย่างชัดแจ้ง โดยเฉพาะบริเวณประตูระบายน้ำคลองบางไผ่ สะพานพระราม 5 พบมีถุงบรรจุทรายป้องกันอุทกภัยปี 2554 ถูกนำมาทิ้งไว้จำนวนไม่น้อย มีการร้องเรียนสื่อท้องถิ่น บอส สุวิชัยแก้ปัญหาแบบมหัศจรรย์พันลึกกดดัน รองนายก ปู-รุ่งนภา งามสาย ต้องตัดใจชิงลาจากตำแหน่ง พร้อมตั้ง “วีระพล บุญเพ็ง” น้องเลิฟเสียบแทน “ไม้หน้าสาม” เห็นว่า หาก “รองปู” มีการดำเนินการที่ไม่โปร่งใสส่อไปในทางทุจริต สมควรต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อนำคนผิดมาดำเนินคดีไม่ใช่กดดันให้ไขก๊อก อย่างนี้ไม่ต่างอะไรกับสำนวนที่ว่า “ฆ่าตัดตอน”...เบื้องลึกมีข้อมูลการใช้งบที่ไม่สุจริตหรือไม่??? เช่นการจัดฉากซ่อมบำรุงประตูน้ำ ขุดลอกคลองทิพย์แล้วถ่ายภาพส่งมอบงาน มีการตรวจสอบพบว่าเสนอตั้งเบิกไปสอดคล้องกับข้อเท็จจริง เช่น ใช้สัมภเวสีมารับเงิน และมีบุคคลใกล้ชิดกับผู้บริหารมาอยู่ในบัญชีเบิกจ่าย ทั้งที่ไม่ได้ทำงานจริงหรือไม่??? ภาพกระสอบทรายถูกขนย้ายมาทิ้งบริเวณประตูน้ำนี่ ย่อมเป็นเครื่องชี้ถึงประสิทธิภาพการบริหารอบต.บางไผ่ได้เป็นอย่างดี บอสสุวิชา ควรทำความจริงให้ปรากฏ อย่าคิดเลียนแบบ “โจรเทวดา” ว่าใครทุจริตคิดร้ายต่อเงินแผ่นดินต้องได้รับบทลงโทษตามกฎหมาย “ช้างตายทั้งตัว...ใบบัวปิดไม่มิด” ดอกบอส...nn

ไม้หน้าสาม