“หวยเกษียณ” เป็นหวยที่ผู้ซื้อไม่มีวันถูกกิน!
ก่อนหน้านี้ ครม.เห็นชอบในหลักการโครงการหวยเกษียณ ตามแนวทางในการส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อรองรับการเกษียณ ผ่านโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ (โครงการสลากสะสมทรัพย์ฯ) ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ
เมื่อวานนี้ ครม.เห็นชอบตัวร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... แล้ว
เตรียมนำเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรต่อไป
เป็นสัญญาณว่า ได้คลอดแน่ๆ สำหรับ “หวยเกษียณ”
คาดหวังว่า จะช่วยดึงดูดแรงงานนอกระบบให้เข้ามาสมัครเป็นสมาชิก กอช. เพิ่มมากขึ้นถึง 10 ล้านคน (จากปัจจุบันที่มีอยู่ 2.76 ล้านคน)
1. คาดว่า จะเริ่มขายหวยเกษียณได้ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2568
เบื้องต้นจำนวน 5 ล้านใบต่อสัปดาห์ (ต่องวด)
หวยเกษียณ มี 2 รางวัล ได้แก่
รางวัลที่ 1 วงเงิน 1 ล้านบาท จำนวน 5 รางวัล
รางวัลที่ 2 วงเงิน 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล
หากแต่ละงวดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะมีการทบรางวัลนั้นๆ ไปในงวดถัดไป
โดยสามารถซื้อสลากขูดดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชั่น กอช.
ใบละ 50 บาท ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน
สามารถซื้อได้ทุกวัน โดยจะมีการออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น.
ไม่ว่าถูกรางวัล หรือไม่ถูกรางวัล เงินที่ซื้อสลากทุกบาท จะถูกเก็บไว้ในบัญชีเงินออมของแต่ละบุคคล ผ่าน กอช. และจะสามารถถอนคืนได้ตอนอายุ 60 ปี เพื่อการออมทรัพย์ รองรับการเกษียณ แต่หากผู้ซื้อเสียชีวิตก่อน เงินทั้งหมดนั้น จะถูกส่งคืนทายาท ตามลำดับ
เงินในบัญชีนั้น ยังได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนตลอดระยะเวลาก่อนเกษียณ ผ่าน กอช.
ผู้มีสิทธิซื้อ จะต้องเป็นสมาชิก กอช. ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้ประกันตนมาตรา 40 แรงงานนอกระบบ อายุ 15 ปีขึ้นไป
สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน ซื้อเท่าไรก็เก็บเท่านั้น ซึ่งส่วนนี้จะสะสมให้ครบ 10 ปี ถึงจะสามารถถอนออกมาได้ โดยรัฐจะไม่สมทบเข้าไป แต่หากถูกรางวัลสามารถนำไปขึ้นเงินได้ทันที
2. ล่าสุด ตัวร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..)พ.ศ. ....ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เนื้อหาสาระสำคัญ ได้แก่
เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 (เรื่อง แนวทางในการส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติเพื่อรองรับการเกษียณผ่านโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ) โดยเปลี่ยนชื่อโครงการ จาก “โครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ” เป็น “โครงการสลากออมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ (สลากเกษียณ)” และเพิ่มเติมหลักการกรณีผู้ที่มีอายุครบ 60 ปีให้ซื้อสลากของกองทุนต่อไปได้
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..)พ.ศ. ….
รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลาและกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มอบหมายให้ กค. และ กอช. ดำเนินการขอรับจัดสรรงบประมาณเพื่อรองรับโครงการ
ในรายละเอียด เช่น
เพิ่มวัตถุประสงค์ของกองทุนให้รวมถึงการส่งเสริมการออมทรัพย์โดยการออกสลากและขายสลาก เพื่อจูงใจให้มีการซื้อสลากซึ่งเป็นการออมเงินอีกรูปแบบหนึ่ง (เดิมกำหนดวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกและเพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนแก่สมาชิกเมื่อสิ้นสมาชิกภาพ)
กำหนดให้คณะกรรมการ กอช. มีอำนาจหน้าที่กำหนดประเภทการออก การขายและรายละเอียดที่เกี่ยวกับสลากตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (เดิมไม่ได้กำหนด)
กำหนดหลักเกณฑ์การซื้อสลาก
กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินรางวัลจากบัญชีเงินกองกลางตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้ รัฐบาลต้องจัดสรรเงินให้เพียงพอสำหรับการจ่ายเงินรางวัลดังกล่าว
กำหนดสิทธิประโยชน์แก่สมาชิกที่ซื้อสลาก
กำหนดให้ถือว่าการออกสลาก รวมทั้งการจัดให้มีการแถมพกหรือรางวัลด้วยการเสี่ยงโชคโดยวิธีใดๆ เกี่ยวกับการออกสลากได้รับใบอนุญาตและประทับตราจากเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการพนันแล้วและไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ฯลฯ
3. กระทรวงการคลัง ได้จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย ตามแนวทางมติคณะรัฐมนตรี (19 พฤศจิกายน 2562)
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ - การจำหน่ายสลากของกองทุนจะทำให้มีเม็ดเงินจำนวน 13,000 ล้านบาทต่อปี (ประมาณการจากการจำหน่ายสลาก 5 ล้านใบต่องวด (ต่อสัปดาห์) จำนวน 52 งวดต่อปี หรือจำนวน 260 ล้านใบต่อปีในราคาขายใบละ 50 บาท คิดเป็นเงินจำนวน 13,000 ล้านบาทต่อปี)
จะถูกนำไปบริหารจัดการผ่านการลงทุน และส่งผลให้มีเม็ดเงินจำนวนดังกล่าวหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น เมื่อเทียบกับต้นทุนเงินรางวัลที่รัฐจะจัดสรรจำนวน 780 ล้านบาทต่อปี
ผลกระทบต่อสังคม - สร้างแรงจูงใจให้แรงงานนอกระบบเกิดการออมมากขึ้นในรูปแบบ “สลากออมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ” (สลากเกษียณ) และสามารถเก็บเป็นเงินสะสมให้กับสมาชิกเพื่อรับเป็นเงินบำนาญเมื่อเกษียณอายุได้
ผลกระทบอื่นที่สำคัญ - ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงการบริการของรัฐ โดยให้แรงงานนอกระบบที่ยังไม่ได้รับความคุ้มครองเพื่อการชราภาพอย่างทั่วถึงมีช่องทางหรือโอกาสเข้าถึงระบบการออมเงิน เพื่อสร้างความมั่นคงในบั้นปลายของชีวิตและลดภาระของภาครัฐในการดูแลผู้สูงวัยในระยะยาว
4. ภาพรวม “หวยเกษียณ” เป็นหวยที่ผู้ซื้อไม่มีวันถูกกิน!
ได้ลุ้นรางวัล รับโชค แต่ถ้าไม่ถูกรางวัลเงินที่ซื้อหวยก็คือเงินฝากไว้ในบัญชีชื่อของตนเอง
เท่ากับว่า ประชาชนได้ 3 เด้ง
เด้งหนึ่ง ได้ลุ้นเงินรางวัล
เด้งสอง เงินไม่หาย เมื่อผู้ซื้อสลากอายุครบ 60 ปี จะสามารถถอนเงินทั้งหมดที่เคยซื้อสลากออกมาได้
เด้งสาม เงินที่ออมอยู่ในบัญชี กอช.จะลงทุนบริหารจัดการด้วยอัตราความเสี่ยงที่ต่ำ ในกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund)
มีดอกผลงอกเงยด้วย
โครงการหวยเกษียณจะต้องใช้งบประมาณสัปดาห์ละ 15 ล้านบาท หรือเดือนละ 60 ล้านบาท หรือปีละประมาณ 780 ล้านบาท แลกกับการจูงใจให้ประชาชนออมเงิน เพื่อจะได้มีเงินใช้ในวัยเกษียณ
รับมือกับสถานการณ์สังคมสูงวัย ที่ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Completely Aged Society)
โดยในปี 2576 คาดว่า ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super - Aged Society)
จึงต้องกระตุ้นและเพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายเข้าสู่ระบบการออมเพื่อให้เกิดความมั่นคงทางการเงินในวัยเกษียณ ลดภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางที่อาจจะกลายเป็นคนยากจนในวัยเกษียณอายุ ลดภาระทางการคลังในระยะยาวสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ
แต่ใช้วิธีแบบ “เกลือจิ้มเกลือ” คนที่ชอบลุ้น แต่สูญเสียเงินไปกับการเล่นหวย ก็เลยจัดกิจกรรมให้ได้ลุ้นด้วย และได้ออมเงินด้วยเสียเลย
จึงเรียกว่า แนวทางการส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกเพื่อรองรับการเกษียณ ผ่านโครงการสลากสะสมทรัพย์ฯ
เชื่อว่า หลังจากนี้ หลายคนรอลุ้นหวยเกษียณ ทุกวันศุกร์แน่ๆ
คาดว่า จะเริ่มขาย ไตรมาสแรกของปีหน้า 2568 เป็นต้นไป
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี