รัฐบาลต้องมีเงินเพื่อใช้บริหารประเทศ แต่วิธีการหาเงินของรัฐบาลคือเครื่องบ่งบอกระดับปัญญาของรัฐบาลอย่างชัดเจน หากเป็นรัฐบาลไร้ปัญญา ก็จะรีดภาษีจากคนไร้ทางต่อสู้ หรือไม่ก็เน้นการก่อหนี้ตลอดเวลาแต่ถ้าหากเป็นรัฐบาลมีสติปัญญา ก็จะเน้นสร้างงาน สร้างอาชีพให้ประชาชน เพราะเมื่อประชาชนมีอาชีพ ก็มีรายได้ แล้วมีเงินจ่ายภาษี
สำหรับรัฐบาลไทยจัดอยู่ในกลุ่มผู้มีปัญญาหรือไร้ปัญญา คำตอบนี้คนไทยผู้มีปัญญาต่างประจักษ์ชัดมีข้อสังเกตง่ายๆ ว่ารัฐบาลไหนมีปัญญาหรือไร้ปัญญาคือดูจากการกำหนดนโยบายสาธารณะ
รัฐบาลไร้ปัญญาแต่ตั้งหน้าตั้งตาทุจริตฉ้อโกงจะใช้นโยบายประชานิยมเป็นเครื่องมือ ซึ่งตรงกันข้ามกับรัฐบาลที่มีสติปัญญา จะเน้นนโยบายสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มพูนความรู้ด้านวิชาการ และเพิ่มทักษะการประกอบอาชีพขั้นสูงให้กับประชาชน
รัฐบาลไร้ปัญญาเน้นการหว่านแจกเงินผ่านนโยบายประชานิยม เพื่อซื้อเสียง ซื้อคะแนนการเมืองจากประชาชน โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มที่เข้าใจผิดคิดว่าโลกนี้มีของฟรี รัฐบาลที่มุ่งเน้นทุจริตคอร์รัปชั่น จงใจทำให้ประชาชนอ่อนแอ ง่อยเปลี้ยเสียขา ไม่สามารถยืนด้วยลำแข้งของตนเอง ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ ต้องแบมือรอขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลตลอดเวลา โดยลืมนึกไปว่าเมื่อรัฐบาลหว่านแจกเงินโดยไร้เหตุผล ก็หมายถึงการผลาญเงินภาษีอากรของประชาชน ควบคู่ไปกับการทุจริตคอร์รัปชั่น โกงกินปล้นเงินของประเทศเข้ากระเป๋านักการเมืองผู้ยึดกุมอำนาจรัฐไว้ในกำมือ
รัฐบาลที่มอมเมาประชาชนด้วยนโยบายประชานิยม จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อหว่านแจกประชาชน เมื่อใช้เงินมากก็ต้องหาเงินมาก แต่เป็นการใช้เงินโดยเปล่าประโยชน์ ไม่ได้สร้างผลดีให้ประเทศชาติ ไม่ได้สร้างความเข้มแข็งทางสติปัญญา และทางเศรษฐกิจให้ประชาชน
ประชาชนไม่ปฏิเสธหน้าที่การเสียภาษี เพราะรู้ดีว่าภาษีคือสิ่งสำคัญที่ช่วยพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรือง แต่ประชาชนไม่ยินยอมเสียภาษีเพื่อให้นักการเมืองและข้าราชการโกงกิน ไม่ยินยอมเสียภาษีเพื่อให้รัฐบาลใช้เพื่อการทุจริตเชิงนโยบาย
มาบัดนี้ ประชาชนไทยได้ยินข่าวจากปากของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิชัย ชุณหวชิร ที่ทำเสมือนจงใจโยนหินถามทางเรื่องขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax หรือ VAT) อัตรา 15 เปอร์เซ็นต์ และลดภาษีธุรกิจนิติบุคคลรวมถึงลดภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ต้องบอกว่าสิ่งที่พิชัยบอกกล่าวนั้นเป็นเรื่องสุดมหัศจรรย์ เพราะดันจะขึ้น VATแต่ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีธุรกิจนิติบุคคล
ไม่มีใครปฏิเสธว่า VAT ในประเทศไทยอยู่ในอัตราค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับหลายประเทศใน ASEAN และ Asia รวมถึงในกลุ่มประเทศยุโรป แต่คำถามที่พิชัยต้องตอบให้ชัดก่อนคือ รายได้โดยเฉลี่ยของคนไทยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ดังที่กล่าวข้างต้นอยู่ในระดับใด รายได้คนไทยส่วนใหญ่เทียบกับรายได้โดยเฉลี่ยของคนสิงคโปร์ คนมาเลย์ คนจีน คนยุโรป ได้หรือ เศรษฐกิจไทยเข้มแข็งเหมือนประเทศอื่นๆ เช่นนั้นหรือ การทุจริตคอร์รัปชั่นในหมู่นักการเมืองและข้าราชการไทยน้อยกว่าประเทศอื่นๆ หรือ
ประเทศในแถบสแกนดิเนเวียเก็บ VAT 25 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงเก็บภาษีเงินได้ส่วนบุคคลประมาณ 40-55 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ต้องย้ำว่าประเทศของเขาไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่นโดยนักการเมือง แล้วเมื่อหันมามองประเทศไทย จะพบว่านักการเมืองไทยจำนวนไม่น้อยโกงกินคอร์รัปชั่นสารพัดรูปแบบ
คนไทยยินดีเสีย VAT และ Income Tax ในอัตราเดียวกับคนสแกนดิเนเวีย หากรายได้ของคนไทยสูสีกับคนสแกนดิเนเวีย และหากนักการเมืองไทยไม่โกงบ้านกินเมืองอย่างบ้าระห่ำเช่นที่เป็นอยู่ แต่คนไทยไม่ยินยอมเสีย VAT และ Income Tax เพื่อให้นักการเมืองโกงกิน และขอบอกว่าก่อนจะขึ้น VAT 15 เปอร์เซ็นต์ รัฐบาลควรต้องเพิ่มสติปัญญาให้มากขึ้นลดการโกงให้น้อยลง แล้วต้องไปไล่เก็บภาษีที่ดินจากพวกเศรษฐี และนักการเมืองจำพวกที่หนีภาษีด้วยการปลูกต้นกล้วย ต้นมะนาวในพื้นที่รกร้างว่างเปล่าผืนใหญ่มโหฬารใจกลางกรุงเทพฯ ให้ได้เสียก่อน อย่าคิดแค่เพียงถอนขนห่านจากห่านที่ไร้ขน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี