เป็นที่ปลื้มปีติยินดีกันไปอย่างถ้วนหน้าในสังคมไทย เมื่อได้รับทราบข่าวว่า รัฐบาลจีนโดยคำสั่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เป็นองค์กรอำนาจสูงสุดของจีน จะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากจีนมาสู่ประเทศไทย เพื่อชาวไทยจักได้สักการบูชาเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และร่วมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตในการเมืองระหว่างประเทศร่วมสมัยครบ 50 ปี
การนี้ก็อดคิดในเชิงบวกไม่ได้ว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังกลับเนื้อกลับตัว เปลี่ยนใจจากการที่เคยเป็นศัตรูและผู้ปราบปรามทำลายล้าง
พุทธศาสนาในช่วงที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเอาชัยชนะคู่อริพรรคชาตินิยมก๊กมินตั๋งในสงครามกลางเมืองเหนือพื้นแผ่นดินใหญ่จีน (เว้นเกาะไต้หวัน ที่ฝ่ายก๊กมินตั๋งหนีความพ่ายแพ้ไปตั้งมั่นอยู่ที่เกาะไต้หวันจนทุกวันนี้) ภายใต้การนำพาของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำกองทัพแดงและพรรคคอมมิวนิสต์ผู้ยิ่งใหญ่
ลัทธิคอมมิวนิสต์นั้นต้องการเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนรูปโฉมของสังคม ถอนรากถอนโคนสังคมศักดินาต่างๆ และไม่เอาด้วยกับศาสนาและลัทธิความเชื่อถือต่างๆ ซึ่งเหมา เจ๋อตุง ถึงกับเคยกล่าวไว้ว่า ศาสนาคือฝิ่นหรือยาเสพติดที่ครอบงำสังคมและกดขี่ประชาชนพลเมือง ในการนี้ภายใต้นโยบายและมาตรการว่าด้วยการปฏิวัติสังคม (Cultural Revolution) ก็ได้เกิดการทำลายล้างความเชื่อถือต่างๆ แต่ดั้งเดิม โดยเฉพาะพุทธศาสนา ซึ่งแม้ว่าแต่เดิมจะเป็นเรื่องที่นำเข้าจากชมพูทวีป แต่ในที่สุดก็ได้เข้าผสมผสานเป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรมจีนอย่างลึกซึ้งและแน่นแฟ้นเป็นเวลาร่วม 2,000 ปี
โลกก็ได้เห็นรัฐบาลจีนคอมมิวนิสต์รื้อถอนทำลายล้างวัดวาอาราม พระพุทธรูป และเครื่องสักการบูชา ไปจนถึงการเผาทิ้งซึ่งพระไตรปิฎกและเอกสารสำคัญๆ ต่างๆ และการประหัตประหารภิกษุสงฆ์และภิกษุณี เป็นการทำลายล้างและกดขี่ความเชื่อถือและปฏิบัติอย่างให้ถึงที่สุด แต่ทว่าชาวพุทธจีนก็อดทนเหนียวแน่นแม้ว่าจะต้องลงใต้ดินแบบหลบๆ ซ่อนๆ บ่งบอกว่าชาวพุทธจีนไม่ยอมแพ้ ไม่โอนอ่อน และพร้อมที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อคงไว้ซึ่งพุทธศาสนา และสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา แต่สุดท้ายก็ค่อยเผยตัวออกมาได้มากขึ้นเป็นระยะๆ จนถึงปัจจุบันนี้ ดังจะเห็นได้ว่าชาวพุทธจีนสามารถไปทำบุญในวันสำคัญๆ ทางพุทธศาสนาได้อย่างเปิดเผยและมากขึ้นเป็นลำดับ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดต่างๆ และบรรยากาศของการถูกควบคุมและสอดส่องอย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ได้ให้ข้อคิดว่า ลัทธิคอมมิวนิสต์ซึ่งมีอายุความในจีนมาแค่ประมาณ 100 ปี ไม่สามารถที่จะทำลายล้าง 2,000 ปีของพุทธศาสนาในจีนได้
และมาบัดนี้ก็จะมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุโดยทางการจีนดังกล่าว น่าจะบ่งบอกว่าฝ่ายคอมมิวนิสต์จีนยอมรับสภาพความเป็นจริง และการต้องอยู่ร่วมกับพุทธศาสนาในระดับหนึ่ง อีกมุมมองหนึ่งก็อาจจะชี้ให้เห็นว่า ลัทธิคอมมิวนิสต์มิสามารถเข้ามาครอบครอง ครอบงำจิตใจของชาวจีนได้สำเร็จ เพราะชาวจีนก็ยังต้องการอยู่กับศาสนาและประเพณีวัฒนธรรมของการอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออาทรและเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถที่จะแยกแยะได้ว่าเรื่องการเมืองการปกครองก็เป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนเรื่องศาสนาและความเชื่อถือก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะจิตใจมนุษย์มิใช่มีแต่เรื่องทางวัตถุและอำนาจเท่านั้น แต่ก็มีเรื่องความสูงส่ง และความสงบสบายใจจากการนับถือศาสนาด้วย
ในอีกมุมมองหนึ่งก็อาจเป็นไปได้ว่า ความยิ่งใหญ่และความเจริญก้าวหน้าของจีนจะติดกับอยู่กับลัทธิและพรรคคอมมิวนิสต์แต่เพียงอย่างเดียวมิได้ จำจะต้องนำเอาอารยธรรม อันได้แก่ เรื่องการนับถือศาสนากลับมาเป็นของคู่บ้านคู่เมืองด้วย
ก็มีคำถามว่า เมื่อฝ่ายจีนต้องการจะกระชับความสัมพันธ์กับไทยผ่านพุทธศาสนา ผ่านการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่ประเทศไทย แล้วฉะนั้นในแง่กลับกัน จีนจะเปิดบ้านให้ฝ่ายไทยนำเอา หรืออัญเชิญสิ่งที่ดีงามของพุทธศาสนาของไทยไปให้คนจีนได้สักการบูชา หรือชื่นชมบ้างได้หรือไม่ ถ้าเป็นไปได้ก็จะเป็นการแสดงออกซึ่งความจริงใจของฝ่ายจีน และความมั่นใจในตัวเองว่า จีนจะสามารถปกครองตัวเองได้ด้วยพรรคคอมมิวนิสต์ต่อไป แต่อยู่ร่วมกับการนับถือศาสนาที่เป็นส่วนสำคัญยิ่งอันหนึ่งของอารยธรรมจีนได้
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี