พ่อมดเมอร์ลิน เป็นพ่อมดที่หนุนให้กษัตริย์ อาเธอร์ให้เป็นนักรบผู้เกรียงไกรในศตวรรษที่ 6 จนโลกต้องจารึกไว้ใน “ตำนานสุดยอดพ่อมด”

แต่ที่ “นครสารขัณฑ์” ก็เกิดตำนาน“ยอดพ่อมด” เช่นกัน เป็นตำนาน “พ่อมดผู้ถูกฆ่าไม่ตายทางการเมือง” จนได้ฉายา “พ่อมดทศกัณฐ์” ผู้ถอดหัวใจฝากไว้ที่พระฤๅษีโคบุตร

“พ่อมดทศกัณฐ์” นั้น มีมนต์สุดขลังไม่แพ้ “พ่อมดเมอร์ลิน” เห็นได้จากยุคที่พ่อมดผาดโผนอยู่ในสนามเลือกตั้งช่วงชิงอำนาจรัฐ พ่อมดได้ใช้เวทมนตร์สะกดจิตชาวสารขัณฑ์จำนวนมาก หากเข้าคูหาเลือกตั้ง จงกาเลือกสาวกของพ่อมดเข้าสภา จนพรรคการเมืองของพ่อมด มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลปกครองประเทศอย่างยาวนาน

“แต่ชะตากรรมใช่ว่าเกิดจากฟ้าลิขิตเท่านั้น?” แท้จริงแล้ว “ยังเกิดจากกรรมชั่วทั้งหลายที่ได้ก่อขึ้น” เช่น “ฉ้อโกงชาติอย่างเมามัน”เป็นต้น

ดังนั้น พ่อมดทศกัณฐ์แม้จะสะกดจิตชาวบ้านจนชนะเลือกตั้ง แต่ไม่อาจสะกดจิตท่านเปาได้จึงถูกคำพิพากษาให้ติดคุกหลายคดี จนพ่อมดต้องหนีไปอยู่ไพรัชประเทศ

แต่ในทางการเมือง พรรคการเมืองของพ่อมดยังเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลทุกยุค พ่อมดจึงแต่งตั้งให้นอมินีบริหารแทนตนหลายยุคหลายสมัย

แต่แล้ว “พ่อมดทศกัณฐ์” ก็ต้อง “เจ็บช้ำ” เพราะถูกนอมินีบางราย ทำการ “หักดิบ หักหลัง” จนพ่อมดจดจำอย่าง “สุดกลัว”

ด้วยประการฉะนี้ พ่อมดจึงตัดสินใจ“สร้างนอมินีที่เป็นทายาทแท้ของตนเองขึ้นมา บริหารงานแทนตน” บ้าง

“แม้จะเป็นทายาทที่ไร้สมอง” พ่อมดก็ยิ่งพอใจ เพราะจะ “ได้ชักใยทุกความต้องการของตนเองได้อย่างสุดคล่องและสุดแน่ใจว่าจะ
ไม่เบี้ยว”

พ่อมดทศกัณฐ์ได้ใช้นอมินีบริหารแทนตนไปแล้ว 5 ราย โดยมีทายาทที่เป็นสายเลือดเดียวกัน 2 ราย ได้แก่ “นางพญาผมเป๊ะ”ผู้เป็นน้องเลิฟ และ “นางพญาปากไว” ผู้เป็นลูกรัก

สองนางพญาที่พ่อมดสร้างขึ้นให้เป็นนอมินีมีบทบาทอย่างไร? พบกันได้ในฉบับวันจันทร์

กมลศักดิ์  ตั้งธรรมนิยม