หลายฝ่ายสงสัยว่า ประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล แห่งเกาหลีใต้ ทะเล่อทะล่า ประกาศกฎอัยการศึก เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา อะไรเป็นเหตุจูงใจให้ ประธานาธิบดีอนุรักษนิยมขวาจัด นำประเทศชาติถอยหลังไปไกลได้ถึงปานนั้น
เนตซิติเซนเกาหลีใต้ พาสงสัยว่า ประธานาธิบดี ยุน เกิดอาการละเมอ เพราะถูกผีคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนืออำหรือไม่ก็เกิดอาการหวาดผวากลัว ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เรียกค่าคุ้มครองเพิ่มมากเกินไป จนต้องรวบอำนาจบริหารด้วยการประกาศกฎอัยการศึก
หากพิเคราะห์ตามความเป็นจริงแบบชาวบ้าน ที่ติดตามข่าวเหตุการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีมากว่า 50 ปี กล่าวได้ว่า เป็นไปได้ทั้งสองทาง คือ อันดับแรก เหตุจูงใจจากถูกผีคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือครอบงำ ประธานาธิบดียุนในวัย 61 ปี ถือได้ว่า ได้รับการปลูกให้เกลียดชังเกาหลีเหนือ ตั้งแต่วัยเด็ก และเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นมีการศึกษา เขาได้รับการปลูกฝังว่าอำนาจเผด็จการเท่านั้น ที่ต่อสู้เกาหลีเหนือได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจเผด็จการที่ได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตัน
ต้องไม่ลืมว่าประธานาธิบดียุน เกิดในยุคพลเอกปัก จุง ฮี ปฏิวัติรัฐประหารในปี 2505 และใช้อำนาจเผด็จการ บริหารเกาหลีใต้ จนถึงปี 2522 หลังจาก ปัก จุง ฮี ถูกลอบสังหาร พลเอกชุน ดูฮวาน ยึดอำนาจในปี 2523 และบริหารแบบเผด็จการ จนถึงปี 2531 ระหว่างปกครองด้วยอำนาจเผด็จการ ประกาศใช้กฎอัยการศึกไม่น้อยกว่ายี่สิบครั้ง
ดังนั้น ยุน ซอก ยอล ชึ่งเป็นวัยรุ่นกำลังเติบใหญ่ ได้รับการศึกษา ในห้วงเวลาที่เกาหลีใต้กำลังพัฒนาจากการปกครองด้วยกฎอัยการศึก จึงไม่แปลกใจ ที่เขาฝังใจว่า
กฎอัยการศึกพัฒนาประเทศก้าวหน้า และปราบปรามคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือได้
ดังนั้น ตั้งแต่ได้เป็น ประธานาธิบดีใน 2022 เขาจึงมีนโยบายเป็นศัตรูเกาหลีเหนือ เอาเป็นเอาตาย เขาร่วมมือกับสหรัฐและญี่ปุ่น ต่อต้านเกาหลีเหนือ สั่งซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบ THAAD ของอเมริกามาติดตั้งไว้หลายแห่งในเกาหลีใต้ จัดการร่วมฝึกรบกับกองทัพอเมริกา กองทัพญี่ปุ่นแทบทุกเดือน
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้มีสงครามในสายเลือดส่งผู้แทนระดับสูงไปเยือนเกาหลีใต้เสนอขายอาวุธมีประสิทธิภาพสูงให้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินรบ F-35A แบบล้ำยุคล้ำสมัย หรือขีปนาวุธพิสัยไกลมีประสิทธิภาพสูง ประธานาธิบดีไบเดนก็จัดให้ โดยเป่าหูประธานาธิบดียุนว่า เห็นไหม คิม จอง อึน มีกองทัพยิ่งใหญ่ส่งทหารไปช่วยรบรัสเซียได้เป็นหมื่นๆ นาย เกาหลีใต้ต้องตายอย่างเขียดหากไม่ซื้ออาวุธล้ำสมัยของอเมริกามาตุนไว้มากพอ
แต่น่าเสียดายที่ความคิดแบบอนุรักษ์นิยมขวาสุดโต่งของยูน เข้ากับคนเกาหลีใต้ รุ่นเค-ป๊อป ที่หน้าตาเหมือนกันทั้งบ้านทั้งเมืองไม่ได้ คนเกาหลีใต้วัยสี่สิบปีหรืออ่อนกว่านั้น ไม่สนใจว่าปัก จุง ฮี กับ ชุน ดูฮวาน บริหารประเทศด้วยระบอบเผด็จการทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นอย่างไร
คนเกาหลีใต้วัยสี่สิบปีลงมา รู้แต่เพียงว่าเค-ป๊อป ซี่รีส์ทีวีเกาหลีใต้ และคลินิกศัลยกรรม ทำนม ทำจมูก เหลาคางเหลาหน้า คือ ซอฟต์พาวเวอร์ ทำให้เกาหลีใต้พัฒนาเศรษฐกิจล้ำหน้ากว่าหลายประเทศในเอเชียด้วยกัน
ประธานาธิบดียุน ซอก ยอล จึงได้รับความนิยมต่ำมากในหมู่ประชาชน ตั้งเขาเข้ามาเป็นประธานาธิบดีในปี 2022 มาตรการต่อต้านเกาหลีเหนือ ไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเท่าที่เขาเข้าใจ ในด้านการเมืองนโยบายเพิ่มงบประมาณซื้ออาวุธ หรืองบประมาณใช้ต่อต้านเกาหลีเหนือ นอกจากถูกฝ่ายค้านขัดขวางในสภา สื่อมวลชนส่วนใหญ่ในประเทศวิพากษ์วิจารณ์นโยบายรัฐบาลเสียๆ หายๆ เท่านั้นยังไม่พอเขายังถูกโจมตีในสภาและในที่สาธารณะว่า ประธานาธิบดีกับภริยาร่วมกันรับสินบนและคอร์รัปชั่น
และหลัง ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลายเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สภาเกาหลีใต้ มีการอภิปรายเรื่องงบประมาณใช้กับกองทัพอเมริกันมากขึ้น และทุกครั้งที่รัฐบาล นำญัตติงบประมาณใช้กับกองทัพสหรัฐและงบประมาณทหารเข้าสภา มักถูกฝ่ายค้านขัดขวางจนรัฐบาลเดินหน้าต่อไม่ได้
เมื่อเหลืออดเหลือทนกับสื่อมวลชนและฝ่ายค้านประธานาธิบดียุน ถึงกับประณามว่า สื่อมวลชนกับฝ่ายค้านสนับสนุนเป็นแนวร่วมเกาหลีเหลือขัดขวางรัฐ และนั้นเป็นวลีที่เขาใช้เป็นความชอบธรรมในการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม
อย่างก็ตาม ยังมีนักวิชาการบางคนตั้งข้อสังเกตว่าทรัมป์ชนะเลือกตั้งอาจเป็นปัจจัยหนึ่งทำให้เกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึก เพราะเหตุว่าในยุคประธานาธิบดีโจ ไบเดน เกาหลีใต้ ขอ (ซื้อ) อะไรก็ได้ไบเดนจัดให้ หรือแม้แต่ลดค่าคุ้มครองความปลอดให้เกาหลีใต้
ปัจจุบันมีทหารอเมริกันประจำการในเกาหลีใต้ราว 28,500 คน วัตถุประสงค์หลักคือ การป้องปรามภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ การเจรจาเรื่องเพิ่มส่วนแบ่งค่าใช้จ่ายสำหรับทหารอเมริกันที่ประจำการในเกาหลีใต้ ชะงักงันมาตั้งแต่รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดก่อน เมื่ออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิเสธข้อเสนอของเกาหลีใต้ที่จะจ่ายส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นอีก 13% เป็น 1,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
โดยอดีตผู้นำสหรัฐฯ (ทรัมป์) ต้องการให้เพิ่มเป็น 5,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี จากระดับ 920 ล้านดอลลาร์ต่อปีในปัจจุบัน
เกาหลีใต้เริ่มจ่ายส่วนแบ่งสำหรับค่าใช้จ่ายในการตั้งฐานทัพอเมริกันในเกาหลีใต้มาตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 ในช่วงที่กำลังฟื้นฟูเศรษฐกิจ ภายใต้สนธิสัญญาที่จัดทำร่วมกันในช่วงหลังสงครามเกาหลี
จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า หลังจากประธานาธิบดี ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่งสมัยที่สองวันที่ 20 มกราคม 2025 ประเด็นค่าทหารอเมริกันคุ้มครองเกาหลีใต้ที่ไบเดนอนุโลมให้เกาหลีใต้จ่ายปีละ 1,000 ล้านดอลลาร์ ทรัมป์อาจเพิ่มราคาให้เกาหลีใต้จ่ายค่าคุ้มครองเป็นปีละ 5,000 ดอลลาร์ ก็เป็นไปได้ และมันอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยทำให้ ยุน ซอก ยอล ประกาศกฎอัยการศึก เพื่อกันไม่ให้ฝ่ายค้านขัดขวางงบประมาณค่าคุ้มครองต้องจ่ายให้วอชิงตัน
สำนักข่าวเอพี รายงานวันที่ 11 ธันวาคม ว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้พร้อมด้วยนายตำรวจประจำกรุงโซลหลายนาย ถูกจับกุมข้อหาบังคับใช้กฎอัยการศึก ตามคำประกาศของประธานาธิบดียุน ซอก ยอล เมื่อวันที่ 3-4 ธ.ค. ตำรวจแถลงการณ์จับกุมเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนพรรคฝ่ายค้านหลักยื่นญัตติถอดถอนยุน ครั้งใหม่ ในข้อหาประกาศใช้กฎอัยการศึกพรรคฝ่ายค้านตั้งเป้าหมายยื่นญัตติเข้าสภา ในวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีกลาโหมของ ยุน คิม ยอง ฮยุน ถูกจับกุมในข้อหามีบทบาทสำคัญก่อการขบถและใช้อำนาจโดยมิชอบ คิม ถูกจับเป็นคนแรกจากการประกาศกฎอัยการศึกวันที่ 3 ธันวาคม
ฝ่ายค้านและผู้เชี่ยวชาญกฎหมายหลายคนกล่าวว่า การประกาศกฎอัยการศึกครั้งนั้นขัดรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวว่า ประธานาธิบดีมีอำนาจประกาศกฎอัยการศึกได้ ในระหว่าง “สงคราม หรือสถานการณ์คล้ายสงคราม หรือเปรียบเทียบเหตุการณ์อื่นคล้ายสงคราม” แต่เกาหลีใต้ไม่อยู่ในภาวะดังกล่าว
ในคำประกาศกฎอัยการศึก ยุนเน้นว่า เขาจำเป็นต้องสร้างประเทศใหม่ โดยกำจัด “ลูกสมุนเกาหลีเหนือและพลังต่อต้านรัฐ” ซึ่งฝ่ายค้านโจมตีว่า เป็นข้ออ้างขัดขวางคู่แข่งทางการเมืองที่ถอดถอนคนใกล้ของเขาหลายคน ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี 2022
ยุน มีข้อขัดแย้งกับพรรคฝ่ายค้านหลักคือพรรคประชาธิปไตยตลอดมา วันที่ 7 ธันวาคม เขารอดพ้นจากการถอดถอน เมื่อสส.ฝ่ายรัฐบาลบอยคอตต์ไม่เข้าห้องประชุม
หากเขาถูกถอดถอนวันที่ 14 นี้ อำนาจประธานาธิบดี จะถูกระงับจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าคืนอำนาจให้เขาหรือให้เขาพ้นจากตำแหน่ง ถ้าเขาพ้นจากตำแหน่ง ต้องเลือกประธานาธิบดีใหม่
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี