สถานการณ์การเมืองไทยร้อนระอุ ขึ้นมาทันที หลังนายทักษิณ ชินวัตร กร่างโชว์ขี้ข้า ในงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา
1) “ทักษิณ” สับแหลกพรรคร่วม หนีประชุม ครม. ออก พ.ร.ก.ภาษี ไล่ส่งถ้าไม่อยากอยู่ก็บอกมา
โดยได้กล่าวว่า “...เมื่อ 2 วันก่อนมีพระราชกำหนดเกี่ยวกับมาตรการทางภาษีระหว่างประเทศเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ปรากฏว่ามีพรรคร่วมบางพรรคหลบ ป่วย อย่างนี้ ไม่ใช่เลือดสุพรรณนี่หว่า ถ้าอยู่ด้วยกันก็ต้องด้วยกันสิ วันหลังไม่อยากอยู่ต้องบอกให้ชัดเจน เราเป็นคนพูดรู้เรื่อง ห้ามหนี ต่อไปใครหนีก็บอกว่าถ้าหนีก็ส่งใบลาออกมาด้วย ง่ายดี
...ผมเป็นคนเกลียดพวกอีแอบ ตรงไปตรงมาง่ายๆอยู่ก็อยู่ ไม่อยู่ก็ไม่ต้องอยู่ ถ้าอยู่ก็ต้องสู้ด้วยกัน ในเมื่อเป็นนโยบายรัฐบาลร่วมกัน แถลงนโยบายคุณยกมือเห็นด้วยพอได้เก้าอี้ รัฐมนตรีค่อยๆ หลบมือออก ไม่ได้ ต้องตรงไปตรงมา..
...พรรคร่วมรัฐบาลต้องทำงานร่วมกันจริงๆ ตรงไปตรงมา มีอะไรไม่พอใจพูดกัน แต่สิ่งไหนที่เป็นนโยบายรัฐบาลคือต้องทำ ไม่ใช่ได้ตำแหน่งแล้วไม่เอาแล้ว รัฐบาลเป็นกลไกประชาธิปไตย มีหลายออปชั่น อยากส่งสัญญาณให้รู้ว่า วันนั้นไม่สวยเลย วันนี้ที่หายไปตอน พ.ร.ก.เข้า มันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ให้รู้ว่าการทำงานร่วมกันง่ายมาก...”
2) นายเทพชัย หย่อง สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊ก โดยมีภาพพาดหัวข่าวว่า “ทักษิณบอกพรรคร่วมต้องสนองนโยบายรัฐบาล ถ้าไม่อยากอยู่ก็ส่งใบลาออกมา” ว่า
“ไม่ต้องอ้อมค้อม ไปต้องปิดบังอีกต่อไป ใครใหญ่ที่สุดตอนนี้ให้มันรู้กันไป “Power tends to corrupt, and absolute power corrupts absolutely.” อำนาจนำมาซึ่งความฉ้อฉล อำนาจเด็ดขาดนำมาซึ่งการฉ้อฉลแบบเบ็ดเสร็จ”
3) นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ(คปท.) โพสต์เฟซบุ๊ก “เอาอย่างไร รองนายกฯ 2 ท่าน 2 พรรค จะเอาอย่างไร” ความว่า...
ทักษิณพูดถึงการลาประชุม ครม.ถ้าครั้งหน้าก็ให้ยื่นใบลาออกมาด้วย
ประเด็นไม่ใช่อยู่แค่ครั้งที่ผ่านมา แต่น่าสนใจที่เพื่อไทย พยายามดัน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เข้าเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ แต่ติดปัญหาที่คุณสมบัติ แว่วๆจากทำเนียบมาว่าคุณอนุทิน และ คุณพีระพันธุ์ 2รองนายกฯ ก็ทราบว่าหาก ครม.รับรอง นายกิตติรัตน์ อาจจะมีปัญหาทั้ง ครม. โดยเฉพาะ รองนายกฯพีระพันธุ์ ซึ่งเป็นนักกฎหมาย ทราบเรื่องนี้ดี
ชื่อนายกิตติรัตน์ จึงค้างอยู่ไม่ได้เข้า ครม.สักที
ทักษิณ พูดที่หัวหิน จึงส่งผลต่อการประชุม ครม.เพื่อรับรอง นายกิตติรัตน์ แน่นอน
2 รองนายกฯจะกล้าหนีการประชุมในวาระ ดัน นายกิตติรัตน์ เข้า ครม.หรือไม่ น่าสนใจ เพราะถ้าอยู่ก็เลือดสุพรรณ ตายหมู่ ไม่อยู่ ก็ยื่นใบลาออกให้ เจ้าของร้านมาม่า ที่เปิดบ้านจันทร์ส่องหล้าให้หลายท่านไปกินเส้นกันมาแล้ว
งานนี้น่าจับตามองอนาคตพรรคร่วม สงสัยมาม่าเส้นจะหมด คงได้ซดเกาเหลากันแทน
4) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดบนเวทีสัมมนาพรรคเพื่อไทย (พท.) เรื่องพรรคร่วมรัฐบาลลาประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงกฎหมายสำคัญเป็นการส่งสัญญาณไม่ให้พรรคร่วมแตกแถวใช่หรือไม่ว่า
ตนไม่ทราบว่านายทักษิณเตือนหรือไม่เตือน เพราะท่านไม่ได้มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวข้อง แต่เมื่อท่านพูดมา เราก็รับฟังว่าเป็นอย่างไร ถือเป็นความเห็นของผู้มีอาวุโสทางการเมืองที่จะเห็นว่า วิธีการเช่นนี้มีความเหมาะสมหรือไม่ ก็วิพากษ์วิจารณ์มา เพราะท่านเป็นบุคคลที่ติดตามการเมือง
เมื่อถามว่า หากไปดูรายชื่อของครม.ที่ลาประชุมในวันที่ 11 ธันวาคม ซึ่งมีการพิจารณาร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ภาษีส่วนเพิ่ม (Pillar2) ส่วนใหญ่เป็นคนของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะถือว่าเป็นการเตือนไปในตัวหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ผมไม่มั่นใจว่าเป็นพรรคภูมิใจไทยทั้งหมดหรือไม่ เพราะวันนั้นมีครม.ติดภารกิจหลายคน แต่สักครู่ก็เห็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเข้ามาประชุม จึงไม่แน่ใจว่าเรื่องอะไร เพิ่งมาเอะใจก็ตอนที่ได้ฟังแต่คิดว่าไม่มีอะไร เพราะเห็นนายอนุทินมานั่งประชุมตามปกติ”
ถามย้ำว่า นายทักษิณระบุด้วยว่ามีการแกล้งป่วยและวันนั้นนายอนุทินได้ลาไปพบแพทย์พอดี จะหมายความถึงนายอนุทินหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า“น่าจะถามผิดคนนะ คงต้องไปถามท่านทักษิณว่ามีความเห็นอย่างไร ผมยังไม่ทราบรายละเอียด”
ถามอีกว่า พรรค พท.กับพรรค ภท. ยังสามารถทำงานร่วมรัฐบาลกันได้ต่อหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่ายังไปต่อกันได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร
5) “ทักษิณ” ลั่นมีแต่ควายเท่านั้น ยกประเทศให้เพื่อนบ้าน บอกกัมพูชาลากเส้นไม่ถูก
“เรื่องนี้คือตกลงจะคุยเรื่องที่เรายังไม่ตกลง อย่าเพิ่งโวยวายไม่มีใครขายชาติหรอกถ้าขายคนเฮงซวยพอคุยได้แต่คงไม่มีคนเอา ยืนยันเรื่องบนบกไม่ต้องเถียงกันจบไปนานแล้ว เหลือแต่เส้นทางทะเล แต่วันนี้เถียงกันแทบตาย แต่คนที่ได้ประโยชน์คือคนที่ได้สัมปทานเดิม...
การเป็นเพื่อนดีกว่าเป็นศัตรู แต่หลักการประเทศต้องมาก่อน ไม่ใช่เป็นเพื่อนแล้วบอกยกประเทศให้เพื่อน อันนั้นมันควายแล้ว...”
6) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ที่ปรึกษาพรรคไทยภักดีโพสต์เฟซบุ๊กว่า #ควายหรือโคตรควาย ความว่า
กรณีที่คุณทักษิณ อดีตนักโทษคดีทุจริต ได้ไปบรรยายพิเศษให้ สส.พรรคเพื่อไทย และได้โยงไปพูดเรื่อง MOU44
มีประเด็นที่น่าสนใจ ที่คุณทักษิณตอกย้ำว่า เกาะกูดเป็นของไทยมานานแล้ว เป็นเพื่อนดีกว่าศัตรู ไม่ใช่เป็นเพื่อนแล้ว บอกยกประเทศให้เพื่อน อันนั้นมันควายแล้ว
ผมเห็นด้วยที่คุณทักษิณพูดเช่นนี้ แต่การที่เกาะกูดเป็นของไทยมานานแล้ว กัมพูชา ลากเส้นเขตแดนทางทะเล ผ่านมาที่เกาะกูด ถือว่าล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยแล้วใครก็ไม่รู้ นอกจากไปยอม “รับรู้” เส้นนี้ของเขมร แถม “ไม่ปฏิเสธ” ยังเอามาแนบเป็นหลักฐานในแผนที่แนบท้าย MOU แบบนี้ควายไหม หรือโคตรควาย!!!
บางคนก็บอกว่า ถ้าเส้นที่ลากของกัมพูชา ที่ลากมาไม่ถูกต้อง ล้ำเข้ามาในเขตไทยเรา เขาไม่ยอมถอยก็แบ่งผลประโยชน์กัน แบบนี้ควายไหมหรือโคตรควาย!!!
ทั้งๆ ที่เกาะกูดเป็นของไทย แต่บอกว่ากัมพูชายอมลากอ้อมเกาะกูด ทำให้ไทยเราเสียพื้นที่ทะเลภายใน เสียทะเลอาณาเขตของเกาะกูด ชนิดไม่รู้สึกรู้สา แบบนี้ควายไหม หรือโคตรควาย!!!
ที่เลวร้ายการที่ทำแบบนี้ จะเป็นสารตั้งต้นของการเสียดินแดน หลายฝ่ายเตือนแล้วเตือนอีก ก็ยังไม่รู้เรื่อง แบบนี้ควายไหม หรือโคตรควาย!!!
ที่สำคัญพื้นที่ที่จะแบ่งปัน ผลประโยชน์พลังงาน ก็ไม่ต้องมีการแบ่งปันเขตแดนก่อน จะเอาผลประโยชน์ท่าเดียว ไม่สนใจการเสียดินแดนตามมา แบบนี้ควายไหม หรือโคตรควาย!!!
ฝากคุณทักษิณช่วยพิจารณาด้วยนะครับ
7) นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ระบุว่า ทักษิณ ชินวัตร เริ่มขู่พรรคร่วมรัฐบาลกรณีไม่เข้าประชุม ครม. ลงมติ พ.ร.ก.ภาษีระหว่างประเทศ พร้อมคำรามขับไล่พรรคอีแอบ อยู่ไม่ได้ก็ออกไป บ่งชี้ถึงการแสดงความยิ่งใหญ่ที่มีมากขึ้นตามลำดับ
นายจตุพรกล่าวว่า ใครไปดีลหรือทำข้อตกลงอย่างไรก็ตาม แต่การแสดงความยิ่งใหญ่ย่อมสะท้อนได้ชัดเจนว่า ดีลกลับบ้านมาเลี้ยงหลานไม่มีอยู่จริง ยิ่งไปกว่านั้น ทักษิณกำลังเร่งสถานการณ์ให้กลับไปสู่สถานการณ์ของรัฐที่สร้างความกลัว โดยใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือ เหมือนคราวเกิดรัฐตำรวจในสงครามปราบยาเสพติดที่เคยเกิดขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ทักษิณ ถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต และลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ 17 ปี เวลาที่เสียไปนั้นเพราะเลือกเอง หนีเอง ถ้าไม่หลบหนีก็ไม่เสียเวลาถึง 17 ปี ดังนั้นเมื่อทักษิณ ใหญ่เกินเบอร์เหมือนเดิมแล้ว ปัญหาส่อจะจบแบบเดิมอีก
นายจตุพร กล่าวว่า มีข่าวการประชุมของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จะพิจารณาเรื่องป่วยทิพย์ชั้น 14 ซึ่งปกติประชุมทุกวันพุธ แต่คงกลัวประชาชนไปให้กำลังใจกันมาก จึงเลื่อนมาประชุมวันจันทร์ที่ 16 ธ.ค. นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงขบวนการประชาชนไปให้กำลังใจทำหน้าที่ในวันพุธที่ 18 ธ.ค.นี้
“แต่เอาเถอะ อยากจะทำอะไรได้ก็ทำเลย ถ้าบ้านเมืองนี้กระบวนการยุติธรรมไม่มีความหมายใดๆ ก็ให้เป็นไป ถ้าจะอยู่ในสภาพแบบนี้ อะไรจะเกิดก็ให้เกิดไประบอบทักษิณจะกลับมาก็ให้เป็นไป แต่ประชาชนยังจะไปหา ป.ป.ช.ในวันที่ 18 ธ.ค.ตามเดิม”
นายจตุพร กล่าวว่า ทักษิณพูดถึงการเจรจากับพระเจ้าในประเทศไทยนั้น ตนไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร แต่แผ่นดินนี้มีพระสยามเทวาธิราชคอยปกป้อง สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคุ้มครองบ้านเมือง ดังนั้นถัดจากนี้ถ้าทักษิณใหญ่มากเท่าไรยิ่งจะกลายเป็นชนวน เมื่อแสดงพฤติกรรมท้าทายแบบเดิม ต้องเจอเสียงคัดค้านแบบเดิมๆ อีก
8) ทักษิณกล่าวว่า
“...วันนี้ได้กลับมาเมืองไทย คิดว่าคงจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองไม่มากก็น้อย เพราะเวลาเหลือไม่นานแล้ว ตอนนี้ 75 ปีแล้ว ผมเป็นคนคิดบวก พูดเล่นบ้างอะไรบ้างก็อย่าแปลกใจ ที่บอกขออีก 40 ปี ก็จะเจรจากับพระเจ้าในประเทศไทยว่าขอเวลาอีก 17 ปีที่หาย...”
ผมไม่รู้ว่า “พระเจ้าในประเทศไทย” ที่ทักษิณกล่าวนั้น เขาหมายถึงใคร พระอินทร์ พระพรหม พระตรีมูรติ พระคเณศ พระสยามเทวาธิราช ฯลฯแต่คำว่า เวลา 17 ปี น่าจะหมายถึงเวลาที่เขาหนีไปอยู่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นการหนีคำพิพากษาจำคุกของศาล จากคดีทุจริตคดโกงและใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีในทางที่ไม่สุจริต หาประโยชน์เข้าตนและพวกพ้อง
เมื่อกลับเมืองไทยหลังหลบหนีคุกหนีหมายจับจากคดีต่างๆ ทักษิณได้รับพระมหากรุณาธิคุณ “อภัยลดโทษ” จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังเขาถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ความตอนหนึ่งในราชกิจจานุเบกษาระบุว่า
“...เมื่อถูกดำเนินคดีและศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกดังกล่าวด้วยความเคารพในกระบวนการยุติธรรม ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด จึงขอรับโทษตามคำพิพากษา ขณะนี้อายุมาก มีปัญหาสุขภาพเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาพยาบาลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
“ความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว จึงพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไป อีก 1 ปี ตามกำหนดโทษตามคำพิพากษา เพื่อจะได้ใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ช่วยเหลือและทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ สังคมและประชาชน สืบไป”
ภายหลังทักษิณถูกตรวจสอบว่า เขาเข้าคุกไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง ก็ถูกส่งตัวมาอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจและไม่เคยย้อนกลับเข้าคุกอีกเลย โดยอ้างว่า “ป่วย”
ในเวลาที่เขาแขวะนายอนุทิน เขา “อาย”บ้างไหม เรื่องป่วยหรือไม่ป่วย ป่วยจริงป่วยเท็จ
ในเวลาที่เขาให้สัมภาษณ์หลายครั้งหลายหน ว่าเขาถูก “ยัดคดี” มาเยอะ เขาไม่นึกถึงข้อความที่เขารับสารภาพว่าสำนึกในความผิดที่ถวายฎีกาเลยหรือ
และเขาได้ติดคุก 1 ปี เพื่อรับผิดชอบในความผิดของตน ตามพระบรมราชโองการ “อภัยลดโทษ” ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ...กี่วัน?
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี