เต็มไปด้วยสาระและข้อเท็จจริง คือหนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com ทุกบรรทัด ตรงไป ตรงมา...
nn สะเปะสะปะออกทะเลไปแล้วสำหรับฝ่ายค้าน ที่มุ่งมั่นจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทำประชามติหลายหนถึงขั้น วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาลออกมาเหยียบเบรกว่าทำประชามติต้องใช้เงินครั้งละ 3 พันล้าน ถ้า 3 ครั้งก็ 9 พันล้าน...
nn เอาเงินนี้ไปทำถนน สร้างอ่างน้ำให้ชาวบ้านจะไม่ดีกว่าหรือ เพราะเป็นเงินภาษีของประชาชนทั้งนั้น...
nn ล่าสุดฝ่ายค้านหันมาโจมตีเรื่องค่าไฟแพงขึ้น เอื้อกลุ่มทุน แต่ที่ “มือปราบ” รู้มาและผู้รู้หลายท่านก็บอกว่าไม่ได้เป็นไปตามที่ฝ่ายค้านมโนรายวัน...
nn เพราะสัมปทานไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนส่วนขยาย 3600 MW ที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อค่าไฟ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพราะการรับซื้อพลังงานสีเขียวรอบ 3600 MW นี้เป็นการรับซื้อเพิ่มเติม และต่อเนื่องจากการรับซื้อรอบแรก 5000 MW จากแผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้า (PDP) เดิม ที่ไทยต้องการจะมีพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้น เพื่อดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ...
nn ซึ่งเห็นได้ชัดว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกให้ความสำคัญมาก เช่น Microsoft Google Amazon เพื่อสร้าง Data Center หรืออุตสาหกรรม Semiconductors ที่เลือกจะมาลงทุนในไทย รวมถึง Could Computing และ AI ที่ต้องใช้พลังงานมหาศาลในการประมวลผลนี่ยังไม่รวมภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ต้องการใช้พลังงานสะอาด รวมถึงร้านค้าในห้างพวกแบรนด์ใหญ่ๆ ก็ต้องการใช้พลังงานสะอาด...nn เหตุที่สัญญาสัมปทานยาว 25 ปี เพราะราคาพลังงานสะอาดไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงพลังงาน มีแต่ต้นทุนการก่อสร้าง...
nn เพราะเป็นพลังงานสีเขียว ตัวเลขอัตราค่าไฟ 2:20 บาท/หน่วย เกิดจากการประเมินที่ EGAT คำนวณราคา และคาดการณ์ล่วงหน้าอย่างสมเหตุสมผล ซึ่งถือเป็นต้นทุนพลังงานที่ถูกที่สุด เมื่อเทียบกับพลังงานในรูปแบบอื่นๆ...nn หากเราเติมพลังงานสะอาดเข้ามาในระบบ ก็จะเป็นการถัวเฉลี่ยค่าไฟลง ช่วยให้ค่าไฟฟ้าในภาพรวมถูกลงได้ด้วย และเมื่อโรงไฟฟ้าก๊าซ ถ่านหิน หมดอายุไป รัฐบาลจะลดการต่ออายุโรงไฟฟ้าพลังงานเหล่านี้ลง พลังงานสีเขียวนี้ยังไม่มีความเสี่ยงต้นทุนเพิ่มขึ้นที่อาจจะกระทบจากตลาดโลก เช่น ราคาน้ำมัน ราคาก๊าซ หรือราคาถ่านหินอีกด้วย...
nn และหากเกิดวิกฤตในอนาคตมีการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ เหมือนช่วงโควิดมีความต้องการใช้ไฟเพิ่ม เอกชนที่ได้สัมปทานต้องมีการแบกรับต้นทุนจากค่าซ่อมบำรุงเอง หรือถ้าเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตใดๆ ก็จะไม่มีผลต่อราคาค่าไฟ เพราะรัฐบาลรับซื้อโดยประกันค่าไฟไปแล้วที่ 2:20 บาท/หน่วย ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดเอกชนรับผิดชอบ...
nn มีคำถามว่ารัฐบาลเอื้อทุนใหญ่หรือไม่ “มือปราบ” มองว่าไม่น่าจะใช่ เพราะที่ผ่านมาในอดีตแนวนโยบายพลังงานแห่งชาติ ก่อนมี PDP2018 เคยใช้การประมูลราคามาแล้ว แต่พบปัญหาผู้ที่ได้สัญญาไปขายสัญญาต่อ ไม่ได้ผลิตเอง ความเชี่ยวชาญความพร้อมไม่มี สุดท้ายก็ผลิตไฟฟ้าไม่ได้...
nn ดังนั้น การประมูลราคาเน้นราคาถูก จึงไม่ใช่คำตอบที่ถูกที่สุด ยกตัวอย่าง เหมือนสินค้าจีนราคาถูกแต่คุณภาพไม่ได้ ความปลอดภัยไม่มี ความน่าเชื่อถือไม่มี คุณจะซื้อไหม จะเอาการลงทุนที่กำลังจะเกิดขึ้นไปเสี่ยง...
nn รัฐบาลจึงหาทางแก้ไข เพราะพลังงานเป็นหนึ่งในมิติความมั่นคง ที่ต้องมีทั้ง 3 ด้าน เป็น 1.ความมั่นคงพลังงาน 2.ความมั่นคงทางราคา และ 3.ความมั่นคงทางสิ่งแวดล้อม ส่วนราคา ต้องยอมรับ และปฏิบัติตามค่าไฟที่รัฐกำหนด ซึ่งรัฐได้กำหนดไว้ถูกมาก...
nn บริษัทที่มีความพร้อม ด้านพื้นที่ เทคโนโลยี เชื้อเพลิง การเงิน และความเหมาะสมของแผนดำเนินงาน ที่ผ่านเกณฑ์เหล่านี้คุณก็มีสิทธิ์ในการได้สัมปทาน
ไม่มีการเอื้อกลุ่มทุนใดๆ เป็นเรื่องเกณฑ์ที่เหมาะสมและดีที่สุดย้ำอีกหน ค่าไฟฟ้าไม่แพง แต่ถูกสุด เมื่อเทียบทุกพลังงาน 2:20 บาท...
nn ทฤษฎีเกี่ยวกับพลังงานสะอาดนี้ สอดคล้องกับเรื่องที่ธนาคารโลก (The World Bank) มีหนังสือเชิญประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิก Climate Market Club เพื่อส่งเสริมการพัฒนารูปแบบการดำเนินงานร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกในการดำเนินโครงการนำร่องเพื่อการถ่ายโอนผลการลดก๊าซเรือนกระจกระหว่างประเทศภายใต้ข้อ 6.2 ของความตกลงปารีส (Article 6.2 of the Paris Agreement) ซึ่งครม.เห็นชอบตามที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอเข้าร่วมเป็นสมาชิก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สิ่งที่รัฐบาลไทยดำเนินการเรื่องพลังงานสะอาดถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว ฝ่ายค้านควรไปศึกษาเรื่องดังกล่าวให้มากกว่าเดิม...nn สวัสดีครับ
มือปราบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี