รายการ “โปลิศจับขโมย” ถือเป็น “รายการปกติ” ที่ตำรวจทั่วโลกต้องทำ เพราะหน้าที่ของ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” นั้นจะต้อง “จับทุราจารที่ขยันทำผิดกฎหมาย”

ส่วนจะจับแบบไหน? จับแบบ “โหด โหด” เหมือนตำรวจมะกันหรือไม่? หรือจับแบบ “ถูกต้องตามตัวบทกฎหมาย” เพราะ “ผู้ร้ายก็เป็นมนุษย์” เหมือนตำรวจ? ย่อมขึ้นอยู่กับโปลิศของแต่ละประเทศ

ที่แน่ๆ “โปลิศจับตำรวจ” บางประเทศก็เป็นงาน “สุดหิน” บางประเทศก็ถือเป็น “เรื่องปกติ” เพราะใครทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกจับทั้งสิ้น

แต่กรณี “โปลิศจับเทวดา” นั้น ต้องถือว่า “ยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นหน้าผา” เพราะเทวดาย่อมมีฤทธิ์เดชและอภินิหารมากมายที่เหนือกว่ามนุษย์ โดยสามารถเสกให้หลักฐานการกระทำผิดหายได้อย่างอัศจรรย์

แม้แต่ผู้ช่วยเทวดาให้พ้นผิด และได้รับอภิสิทธิ์ต่างๆ ตำรวจก็หาหลักฐานไปเล่นงานไม่ได้ เช่น

หมอและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ร่วมกันทำผิดกฎหมายช่วยเทวดาที่ถูกคำพิพากษาให้ติดคุกไม่ต้องถูกขังอยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียว เพราะเกิดรายการ “ป่วยทิพย์” จนเทวดาใกล้ตาย ต้องไปนอนนอกคุก บนวิมานชั้น 14 ณ คอนโดดาว 8 แฉก

รายการ “ประหลาด” นี้ เกิดขึ้นที่ “นครสารขัณฑ์” ซึ่งมี “เทวดา” รายหนึ่ง“ศาลสั่งให้ติดคุกแต่ไม่ต้องติดคุก” เพราะ “หมอ” และ “เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์” ทำการ “แหกด่านกฎหมาย” ช่วยเทวดาให้ “ป่วยทิพย์”ด้วยอาการ “ใกล้ม่องเท่ง” โดยเป็นโรคร้ายแรงที่ “หมอในคุกรักษาไม่ได้”

เทวดานอนอยู่นอกคุกอย่างยาวนาน จนพ้นโทษกลายเป็น “มนุษย์ผู้มีอิสรภาพ” ทำให้ชาวสารขัณฑ์ จำนวนมากต่างรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เพราะ “กระบวนการยุติธรรม” ของประเทศสารขัณฑ์ ถูกขยี้ขย้ำจนแหลกเหลวที่เกิดจาก “การกระทำของหมอบางคน”

แต่แล้วก็เกิดรายการอัศจรรย์ “กรรมติดจรวดมีจริง” หรือเกิดรายการ “สวรรค์มีตา ฟ้ามีใจ” ตรงที่เกิดปฏิบัติการ “หมอจับหมอ” เกิดขึ้นอย่าง “ไม่คาดฝัน”

“หมอจับหมอ” เกิดจากกรณี “แพทยสภา” กำลัง “ตรวจสอบจรรยาแพทย์” ของหมอที่ช่วยเทวดาที่ต้องติดคุก “ให้ป่วยทิพย์” ด้วยโรคร้ายแรงและรุนแรงจนได้รับอภิสิทธิ์อยู่นอกคุกจนพ้นโทษโดยให้ทุกหมอที่เกี่ยวข้องกับการรักษาคนไข้ “ส่งหลักฐานทุกชิ้น” ที่หมอได้ตรวจและรักษาโรคของเทวดาแก่แพทยสภา

งานนี้คงต้องมา “ลุ้น” กันต่อไป “หมอจับหมอ” จบท้ายทำได้สำเร็จหรือไม่? หากมีหมอต้องถูกจับและต้องติดคุกแล้วหมอเหล่านั้นจะ “ซัดทอด” ถึงใครบ้างที่สั่งให้หมอกระทำผิดกฎหมาย?

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม