จากกรณี “แบงค์ เลสเตอร์” อินฟลูเอนเซอร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่โด่งดังจากแร็พขายพวงมาลัยเลี้ยงดูแลคุณยาย ที่ต้องมาจบชีวิตลง เพราะถูกจ้างดื่มเหล้าให้หมดแบนจากกลุ่มอินฟลูฯ ตลาดล่าง ทำคอนเทนต์ขยะเพื่อแลกเงิน 3 หมื่น จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในขณะนี้
โลกออนไลน์ได้นำคลิปจาก TikTok ส่วนตัวของ “แบงค์ เลสเตอร์” กลับมาแชร์อีกครั้ง ซึ่งเป็นคลิปที่แบงค์ ถูกกลุ่มอินฟลูฯ ตลาดล่าง อย่าง “เบิร์ด วันว่างๆ” ทำคอนเทนต์แกล้ง โดยการนำลูกแตงโมยีหัว โดยแบงค์ ระบุข้อความในแคปชั่นว่า “ชีวิตคนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ครับ .. ผมยอมโดนแกล้ง โดนดูถูก .. เพื่อแลกกับเงินมาจุนเจือครอบครัว”
1) เพจ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว” ได้เปิดเผยข้อมูลจากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่า “นายธนาคาร คันธี หรือ “แบงค์ เลสเตอร์”ผู้ที่เสียชีวิตเป็นผู้พิการทางสติปัญญาตั้งแต่กำเนิด” จึงสร้างเสียงสะท้อนจากสังคมออนไลน์จำนวนมาก ทั้งเรียกร้องให้ดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องพร้อมวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มอินฟลูฯ ตลาดล่าง ที่ทำคอนเทนต์จนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต
2) เฟซบุ๊ก “ภานุพงศ์ อั๋น น้อยวัน” เนตไอดอลชื่อดัง ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน ได้ออกมาโพสต์ข้อความกล่าวถึงเหตุการณ์ของ “แบงค์ เลสเตอร์” และกลุ่มอินฟลูฯตลาดล่างซึ่งเป็นต้นเหตุให้น้องต้องเสียชีวิต โดยเล่าถึงเบื้องหลังที่ “แบงค์ เลสเตอร์” ต้องเผชิญสุดท้ายก็ทำให้เสียชีวิต โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า
“แบงค์ เลสเตอร์ เป็นเด็กที่คนเที่ยวเลียบด่วนเกษตรจะคุ้นหน้าน้องกันดี เพราะน้องไม่ได้เป็นอินฟลูแต่แรก
“น้องเป็นเด็กพิเศษ” ที่เดินขายพวงมาลัย
น้องมีอาชีพขายพวงมาลัย เดินไปในร้านอาหาร ขายหมดก็เปลี่ยนร้าน น้องจะเดินเข้ามาด้วยท่าทีสุภาพแล้วดีดนิ้วพร้อมแร็พ สะพานโค้ง พร้อมยื่นพวงมาลัยให้
รู้จักเด็กมันมากี่ปีแล้ว เด็กคนนี้ถูกพาไปหลายรายการผมก็เคยส่งน้องไปรายการทีวี และน้องก็วนเวียนอยู่กับ Extra ตัวประกอบ ด้วยความที่น้องเป็นเด็กพิเศษ น้องจึงชอบจินตนาการเวอร์ พูดเวอร์ๆ ว่า น้องดัง น้องมีงานบันเทิง จนคนหมั่นไส้ จนคนมองว่า น้องเป็นเด็กพิเศษ ทำตัวเอ๋อ แต่น้องก็ยังขายพวงมาลัย ก็ช่วยกันอุดหนุนตามปกติ
ไม่ต้องไปขอบคุณคนพวกนั้นครับ คนพวกนี้ไม่ได้มองแบงค์เหมือนคนที่เคยเจอมานาน คนพวกนั้นเข้ามาหยิบน้องไปถ่ายคอนเทนต์เพราะพวกมันไม่มีไอเดียในการทำวีดีโอแล้ว ด้วยความไม่เต็ม 100 น้องจึงถูกวางเป็น “ตัวโดน” คอนเทนต์ที่ทำง่ายที่สุดแต่คนไทยส่วนใหญ่ชอบ คือ สั้นๆ แรงๆ เจ็บๆ
แบงค์ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีผู้จัดการ จึงไม่มีใครเกรงใจนึกภาพว่า เด็กคนหนึ่งที่ต้องไปเผชิญกับพวกกล้องหิวคอนเทนต์ กูต้องมีอะไรลงเย็นนี้ หันมา แบงค์ว่าง เคร ทุบมันดี หรือ ถีบ คิดสตอรี่ 30 วิ แล้วเรียกมากระทำ
*ส่วนตัวผมไม่ติดตามและกดบล็อกคนกลุ่มนี้ตลอด เพราะมันไม่ใช่แนวทางที่ชอบ เลยทำไม่เห็นแบงค์มานานมาก แบงค์โดนรังแก คนที่เคยเห็นก็ไม่เห็นน้อง เราก็คิดว่าน้องคงถ่ายบ้าง ขายมาลัยบ้าง จนมารู้ข่าว อ่านการกระทำก็ใจหาย
คนมองว่าน้องทำไปรอดแล้วไง ก็เลยไม่ได้ใส่ใจ (ไม่เห็นน้องในกระแส) ไม่คิดว่ากลุ่มที่พาน้องไปจบชีวิต คือ กลุ่มคนดังระดับประเทศ ที่มีแฟนคลับเป็นล้านรวมกันแต่เอาน้องไปเป็นกระสอบทราย และแฟนคลับทุกคนก็ล้วนเฮฮาสมน้ำหน้า กับการให้เด็กพิเศษกินอุจจาระเฮฮากับการที่แก้ผ้าจุดไฟใส่น้องชายเขา รวมถึงการทำร้ายร่างกายขั้นรุนแรง ที่เหมือนน้องต้องทนไม่ทนไม่ต้องเอาตังค์
หลายคนยกความผิดให้น้อง ว่าน้องโลภเอง ไม่มีใครกรอกปาก ไม่มีใครบังคับ แต่ในกรณีนี้โปรดจำไว้ว่าน้องเป็นเด็กพิเศษ เด็กมันเห็นตัวเงินที่เอาไปดูแลยายได้มันก็เอาสิ เจ็บนิดหน่อย
แรกๆ น้องก็ไม่เคยโพสต์นะ จนถึงโพสต์ที่หลายคนแคปมา คือ น้องคงเจ็บคงปวด คงทรมาน แต่ท้ายประโยคคือ เด็กมันก็ต้องอดทน ก้มหัวให้กับพวกที่เดินเข้ามาทำร้ายพร้อมมือถือ (ถ้าตรวจดีๆ น้องอาจมีช้ำใน)
คนพวกนี้เห็นลู่ทางว่า ถ้าไอ้เด็กพิเศษนี่เมา เราไม่ต้องมานั่งงัดกันเอง ในวงเด็กแว้น
เรียกแบงค์มันมา โยนเงินให้ ดูมันแดก แล้วหัวเราะสบายใจ ได้คลิปไปลงช่อง
เราจะสังเกตต้องทำหลายรอบมากเพราะบางกล้องถ่ายไม่ทัน กลัวของตัวเองไม่มีคอนเทนต์ลง น้องไม่มีสิทธิปฏิเสธย้ำว่า ในหลังกล้องจะเห็นว่า น้องโดนกระทำมา 3-4 วันติด โดยเสี่ยต่างๆ และซ้อด้วย
ถ้าบอก-ปฏิเสธได้ มีหลายคลิปที่น้องสลบอ้วกคาปาก แล้วยังโดนดึงหัวขึ้นมา เอาเหล้ากรอก มันติดกันหลายวันโดยคนกลุ่มเดิมๆ ที่หิ้วน้องไปเป็นเครื่องบำเรอแฟนคลับทั่วประเทศของพวกมัน ดังนั้น เหตุการณ์ไม่นับแค่วันงานที่น้องเสีย แต่ 3-4 วันก่อนหน้า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดควรต้องได้รับโทษ หากมีหลักฐานชัดเจน เช่น กินสาร มี หรือ อื่นๆ อีกมากมาย โดยเอาเงินมาล่อ
ถ้าบอกว่าจ้าง ยังดีกว่าบอกว่า มันมาเอง น้องจะมาทำไม ในเมื่อมาแล้วโดนอะไรแบบนี้ คนพวกนี้พยายามสื่อว่า น้องเก๋า น้องเจ๋ง แล้วโดนพวกมันกด เพื่ออวยยศตัวเองขึ้นไป และฐานแฟนคลับพวกเขาที่รอขำ รอสะใจ
ฟังนะ... แบงค์มันเด็กพิเศษ มันไม่รู้ด้วยมั้งว่าดื่มเหล้าเยอะแล้วจะเสียอะ มันรู้แค่ว่า พวกคนกลุ่มนี้ชอบให้มันกิน พอมันกินมันก็ได้การยอมรับ ได้เงิน มันก็กิน
มันคงคิดว่าอย่างมากก็แค่สลบไป การกินเจลหล่อลื่น สิ่งสกปรก อาหารเน่า และแอลกอฮอล์หลายประเภทติดๆหลายวัน แน่นอนน้องเสียชีวิต
คนพวกนั้นปล่อยให้ลูกจ๊อกพาน้องไปโรงพยาบาล ตอนพาออกไปโรงพยาบาล ยังคุย หัวเราะ เข็นชนนู่นนี่นั่นและน้องเสียชีวิต แต่คนพวกนี้ไม่ได้ไปเฝ้าหน้า ICU ไม่มีการโพสต์หาญาติ หรือแจ้งข่าวให้คนภายนอกรู้ แต่สิ่งที่เราได้มา คือ วีดีโอที่ค่อยๆ ถูกลบ ภาพต่างๆ ถูกลบ เวลานั้นมันคือ เวลาโพสต์หาญาติและแจ้งข่าวน้อง แต่พวกมันรวมตัวกัน โพสต์รอบเดียวก่อนเช้า “เกิดชาติหน้ามาเป็นพี่น้องกันอีก รักนะน้องชาย” น้องชายพ่อออออออ !!!!
พวกมึงทำเด็กพิการคนหนึ่งที่ตั้งใจมาหาเงินรักษายายมึงให้เขากิน 3-4 วันติด กินอย่างหนัก จนเขาจบชีวิต เด็กมันไม่ใช่คนกินเหล้า มันไม่รู้ว่าเกินลิมิตคือไม่รอด มันคิดว่าแค่กินให้สลบๆ แล้วเขาก็ลากเราไปนอนแต่คนที่รู้คือ พวกมึงที่ทรมานมัน พวกมึงคนปกติ พวกมึงชี้ทางมรณะให้คนพิการ
แล้วพวกมันก็ตัดให้จบเรื่องว่า แบงค์ เต็มใจ ฆ.ต.ต.หรือเรียกง่ายๆ แบงค์มันตั้งใจจะลาโลกเอง คนไปรับญาติมาดูศพ หาวัด คือ กัน จอมพลัง ไม่ใช่พวกมึงที่ร่ำรวยกว่าเขา เป็นไหนๆ พวกมึงควรไปรอที่วัดแถวสายไหม เพื่อกราบขอขมาน้องไม่ใช่ทิ้งร่างน้องไว้ในศาลาแบบนั้น”
3) เฟซบุ๊กของ นพ.เดชา ปิยะวัฒน์กูลจิตแพทย์ โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ระบุว่า “เสร็จงานแล้วมาตามอ่านข่าวน้องคนที่ดื่มจนเสียชีวิตจึงได้ข้อมูลเพิ่มพอให้มาอธิบายในฐานะแพทย์ที่มีความรู้ทางนี้บ้างดังนี้นะครับ
1. น้องน่าจะมีสภาวะ Intellectual Disability ครับ ไม่ใช่ Autism หลายปีหลังมานี้ ผมมักเห็นคนเรียก ID เป็นออติซึ่มบ่อยๆ จนมั่วไปหมด มันคนละอย่างกันนะครับ Intellectual Disability คือ สภาวะที่พัฒนาการทางสมองบกพร่องเกือบทุกด้าน เดิมเราเรียก Mental Retardation หรือปัญญาอ่อน แต่เนื่องจากคำเดิมถูกนำไปใช้ผิดๆ เป็นคำด่า แพทย์จึงเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ครับ ส่วน Autism นั้น คือ สภาวะบกพร่องทางพัฒนาการด้านการพูดและสังคมเป็นสำคัญ ดังนั้น ID กับออจึงมีลักษณะไม่เหมือนกันเลย คือ ID สติปัญญาด้านความฉลาดไม่ค่อยดี แต่ด้านสังคมมักพอใช้ได้ ในขณะที่ออนั้นสติปัญญาด้านความฉลาดมักจะดี ในขณะที่ด้านสังคมกลับบกพร่อง พูดเป็นภาษาบ้านๆ ให้เข้าใจง่าย ออนั้นฉลาดแต่ผูกพันกับคนไม่ค่อยเก่ง ขณะที่ปัญญาอ่อนนั้นไม่ค่อยฉลาดแต่รักและผูกพันกับคนได้เหมือนกับพวกเรา คนปัญญาอ่อนจึงสามารถเข้าสังคมได้ รักพ่อแม่รักคนรอบตัว
ดังนั้น ทีหลังเวลาจะด่ากันควรใช้คำด่าว่าไอ้ไม่ปัญญาอ่อน เพราะคนปัญญาอ่อนใจดีกว่าพวกเรานะ เมื่อเทียบกับระดับสติปัญญา มีแต่คนไม่ปัญญาอ่อนเท่านั้นที่ใจดำ แล้วไม่ค่อยรักคนอื่น
2.ถาม - ไอ้หมอมึงอย่ามั่ว มึงรู้ได้ยังไงว่าเขาสติปัญญาบกพร่อง
ตอบ - ไม่รู้หรอกครับ แค่ดูคลิปผิวเผิน ไม่ได้ตรวจ แต่ผมเคยทำงานโรงพยาบาลยุวประสาท เคยเรียนเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลราชานุกูลนิดหน่อย ผมชำนาญพอจะบอกได้ว่า ใคร IQ เท่าไหร่ แม้จะยังไม่ได้ตรวจนะครับ ถ้าใครไอคิวต่ำกว่า 140 ผมคุย 5 นาที ผมพอเดาได้เลย รับรองไปตรวจ WAIS-R ผลออกมาผมผิดไม่เกิน 10 คะแนน
น้องคนนี้ไอคิวคงไม่ถึง 70 ครับ คนมักเข้าใจผิดว่า ID จะต้องเดินตุปัดตุเป๋ น้ำลายยืดอะไรพรรค์นั้นไม่ใช่เลยครับ ID แบบนั้นคือระดับ severe ไอคิวแค่30-40 ID ทั่วไปไอคิว 60-70 จะพูดรู้เรื่อง คิดเลขง่ายๆ ได้ บางคนอ่านเขียนหนังสือง่ายๆ ได้ด้วยซ้ำ แล้วตรงนี้จะโยงไปถึงข้อต่อไป
3. ID เป็นหนึ่งในสามสภาวะทางจิตที่กฎหมายคุ้มครองนะครับ (ศาลฎีกาเคยตีความว่า ID คือสภาวะจิตบกพร่องครับ) ถ้ามีผลตรวจ IQ ยืนยัน มีบัตรผู้พิการ หรือมีหนังสือของศาลสั่งให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ ยายสามารถเอาเรื่องไอ้คนที่แกล้งน้องได้อย่างถึงที่สุดเลยครับ เพราะประตูสู้คดีที่ว่าผู้ตายเต็มใจดื่มเองนั้น ถ้าเจอทนายเก่งๆ สามารถชี้ช่องได้ว่า ผู้ตายเป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถอย่างเห็นได้ชัด ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้เต็มที่ดังเช่นคนปกติทั่วไป ผู้ใดรังแก ชักชวน หรือหลอกล่อให้ผู้ตายกระทำการใดอันอาจเป็นอันตรายต่อตนเองและ/หรือผู้อื่นย่อมมีความผิด โทษก็ระดับเดียวกับมอมเหล้าเด็กตายน่ะครับ ผู้ใหญ่ไอคิว 70 ระดับสติปัญญาก็พอๆ กับเด็กอายุ 8-9 ขวบ หลอกเด็ก 8 ขวบกินเหล้าจนตายผิดไหมล่ะครับ? ปัญหาคือผมเดาว่า ครอบครัวไม่เคยตรวจ IQ ให้ผู้ตาย แล้วทนายเผลอๆไม่รู้กฎหมายข้อนี้
4) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เผยถึงประเด็นการถ่ายคลิปทำคอนเทนต์ “แบงค์ เลสเตอร์” หรือ นายธนาคาร คันธี อายุ 27 ปี จนล่าสุดเสียชีวิตจากการดื่มสุราหนักและมีการกลั่นแกล้งลดทอนความเป็นมนุษย์ ว่า ตนมองว่าเป็นอาชญากรรมอุบัติใหม่ แม้แต่การกระทำต่อเด็ก อาทิ ภาพลามกหรือถูกกระทำรุนแรง ซึ่งในประเทศไทยไม่มีการล็อกระบบโซเชียลมีเดีย ซึ่งบางประเทศมีการออกกฎหมายควบคุม โดยขณะนี้มีการเสนอกฎหมายเรื่องการปล่อยสื่อลามกหรือยั่วยุกระทำผิดต่อเด็ก แต่บางส่วนสังคมต้องช่วยกัน ส่วนกฎหมายเดิมที่มีอยู่แล้ว ต้องตรวจสอบว่าสามารถที่จะควบคุมเป็นตัวอย่างไม่ให้เกิดขึ้นอีกได้หรือไม่
พ.ต.อ.ทวี เผยว่า ส่วนการเยียวยากรณี “แบงค์ เลสเตอร์” จะเข้าตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559) หรือไม่นั้น เนื่องจากอาจมีการว่าจ้างทำคอนเทนต์หรือให้เงินเป็นค่าตอบแทน เบื้องต้นต้องตรวจสอบว่าเข้าฐานความผิดต่อชีวิต ร่างกายและเพศหรือไม่ โดยจะมอบหมายกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพดำเนินการ ส่วนใช้เงินจ้างนั้นจะตรวจสอบข้อมูลก่อน หากมีเจตนาประสงค์ต่อผลบีบบังคับให้ฆ่าตัวตาย ก็ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริง รวมทั้งให้ยุติธรรมจังหวัดช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต
4) เฟซบุ๊ก “Allnop Boonswang” หรือ ทนายเป้ง อรรณพ บุญสว่าง ได้ออกมาโพสต์ข้อ กฎหมายความผิดของการว่าจ้างดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนเสียชีวิต โดยระบุว่า “จ้างดื่มเหล้าแล้วเสียชีวิต”
แม้การจ้างดื่มเหล้าจะมีลักษณะเป็นการจ้างประเภทหนึ่งเรียกว่า “จ้างทำของ” แต่การจ้างเช่นว่านี้ ไม่ใช่การจ้างทำกิจการงานใดๆ แต่จ้างเพื่อสนองความบันเทิงของผู้ว่าจ้าง ทำคอนเทนต์เรียกยอดวิว ผู้ว่าจ้างได้คำนึงหรือไม่ว่า การที่จ้างนั้นเสี่ยงอันตรายต่อชีวิต เพราะการดื่มสุราปริมาณมากในคราวเดียว ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าร่างกายอาจจะได้รับอันตรายเฉียบพลัน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อกลางปี’67 ก็เคยมีกรณีจ้างเด็ก 13 ดื่มจนเข้าไอซียูมาแล้ว กรณีจ้างพริตตี้ลัลลาเบล ก็พอจะเป็นอุทาหรณ์ได้แต่ก็ยังมีเกิดขึ้นอีก
เข้าใจว่า ผู้ว่าจ้าง ไม่มีเจตนาประสงค์ต่อชีวิต แต่การกระทำเช่นนี้ก็เข้าข่ายกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรค 4 ประกอบ มาตรา 291 เข้าข่ายการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
อย่าไปอ้างเลยว่า ผู้รับจ้างยินยอม หยิบขึ้นดื่มเอง ถ้าไม่มี เงินค่าจ้างมาจูงใจ ถ้าไม่หวังถ่ายจะทำคอนเทนต์เรื่องก็ไม่เกิด ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตครับ
สรุป : เรื่องนี้เป็นเรื่อง “สะเทือนใจ” ผู้คนในสังคม ต้องตามดูว่า กฎหมายจะเยียวยาผู้เสียชีวิตและครอบครัวได้แค่ไหน โดยเฉพาะการ “จัดการกับคอนเทนต์ขยะ” และ “ขยะสังคม” ที่ผลิตคอนเทนต์แบบนี้ออกมา!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี