สวัสดีปีใหม่ 2568 หรือ 2025 ตามปีใหม่สากลวันอังคารที่ 31 เป็นวันสุดท้ายของปีงูใหญ่ พรุ่งนี้เริ่มต้นปีมะเส็งงูเล็ก ตามคติโบราณว่า งูนำโชคลาภมาให้ คือ เห็นงูเลื้อยไปทางซ้ายได้ลาภ เห็นงูเลื้อยไปทางขวาโชคมาถึง
คนโบราณฉลาดในการปลุกขวัญกำลังใจให้คนมองโลกในแง่ดี ซึ่งต่างกับหมอดูในปัจจุบันที่ทำนายดวงเมืองปีไปตามสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในเวลานั้นที่สำคัญหมอดูมีอุดมการณ์ทางนี้เมืองแนวไหนก็ทำนายดวงไปตามที่ตัวเองถูกใจ
สแกนดูโหรดังทำนายดวงเมืองปีผ่านหน้าจอทีวี ปี 2568 พบว่า สามในสี่โหรทำนายดวงเมืองปีนี้ ในแง่ลบ ฟันธงว่า ปีมะเส็งงูพันขาม้า เป็นเหตุให้ผู้นำทางการเมืองต้องตกม้าตายภายในเดือนพฤษภาคม ส่วนหมอดูคนดังที่ชื่นชมรัฐบาลทำนายว่า ปีมะเส็งเศรษฐกิจจะดี คนไทย มีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี
โหรผู้ได้ชื่อว่านอสตราดามุสเมืองไทยทำนายว่า จะเกิดภัยพิบัติตั้งแต่ต้นปี และด้านการเมืองจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายเหมือนกับในประวัติศาสตร์และผู้มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์นั้น คือ นักศึกษาและทหาร
นอสตราดามุสเมืองไทยไม่ได้บอกว่าเหตุการณ์เลวร้ายเท่ากับประวัติศาสตร์ช่วงไหน เหมือน 6 ตุลาคม 2519 หรือ 18-20 พฤษภาคม 2535 หรือ 19-23 เมษายน 2553 คือ นอสตราดามุส ท่านพูดไว้กว้างๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้คือที่ว่า นักศึกษาออกมานำการชุมนุม
ด้านโหรภาณุวัฒน์ ก็ทำนายไปตามสถานการณ์ที่กลุ่มคนหลากสีเคลื่อนไหวต่อต้านผู้มีอิทธิพลเหนือรัฐบาลที่ย่ำยีระบบยุติธรรมของไทยและสั่งการให้นายกรัฐมนตรีตลอดถึงสมุนบริวารหันซ้ายหันขวาได้
โหรภาณุวัฒน์ทำนายว่า ความขัดแย้งทางการเมืองพัฒนาไปถึงขั้นยุบสภา ยุบสภากลางปีมะเส็ง และมะเล็งจะพันแข้งพันขานายกฯเกิดปีม้าเดินหน้าไปต่อไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม โอกาสที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมหาดไทยได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนต่อไป 50-50
ด้าน โหรบุศรินทร์ ปัทมาคม ทำนายว่า ดวงเมืองปี 2568 เศรษฐกิจดี เป็นเพราะเราได้ แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่? โหรบุศรินทร์ ระบุว่า ดวงเมือง ก็เป็นไปตามดวงเมือง แต่นายกฯ อิ๊งค์ ก็เหมาะสมกับเหตุการณ์ในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามปีนี้เศรษฐกิจจะดีขึ้น คนไทยจะมีกิน มีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรีหรือไม่โหรบุศรินทร์บอกไม่ได้ แต่เชื่อว่า จะดีกว่าเดิม ต้นปีหน้าดีกว่าปีนี้แน่นอน เพราะช่วงปลายปี 2567 ดาวพฤหัสฯ ถอย และเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ดาวพฤหัสบดี เริ่มเดินหน้าใหม่ ก็จะมีเกณฑ์เพิ่มเงินด้วย
สรุปว่าโหร คือ หมอเดา ที่ทำนายไปตามเหตุการณ์ความคิดอุดมการณ์ทางการเมืองของแต่ละท่าน ดังที่คำโบราณว่า “เห็นงูเลี้อยขวาไปซ้ายได้ลาภ งูเลื้อยซ้ายไปขวาโชคมาถึง” คนไทยที่มีถึง 70 ล้านคนต้องตรงกับคำว่าได้ลาภหรือโชคมาถึงเอาสักคนไม่ว่างูจะเลื้อยไปทางไหน
คำทำนายของโหรบุศรินทร์ ที่ท่านพูดว่าเศรษฐกิจไทยจะดีตั้งแต่ต้นปีคืออย่างน้อยในวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งก็ตรงกับการประเมินการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ว่า ในห้วงเวลาตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.ถึงวันที่ 2 มกราคม 2568 คนไทยจะเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับไปเยือนครอบครัวในจังหวัดต่างๆ ถึง 4.41 ล้านเที่ยว ทำให้มีกระแสเงินสะพัดในห้วงเวลา 10 วัน ถึง 17,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีใหม่ 2567 ถึง 7%
ท่าอากาศยานแห่งประเทศประมาณการว่า ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567- 2 มกราคม 2568 รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,671 เที่ยวบิน หรือ เฉลี่ยวันละ 668 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.32 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและฟื้นตัวร้อยละ 88.62 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ(ขาเข้า–ขาออก) จำนวน 1,980 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ (ขาเข้า- ขาออก) จำนวน 2,691 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากช่วงเทศกาลปีใหม่ของปี 2567
การเดินทางภายในประเทศทั้งทางบกและทางอากาศเพิ่มขึ้นพร้อมๆกับการใช้จ่าย ทำให้เงินหมุนเวียนภายในที่รัฐบาลเรียกว่าพายุเศรษฐกิจในช่วงปีใหม่
นอกจากนั้นยังมี Thailand Countdown Amazing 2025 ที่ “ลิซ่า มโนบาล” ซูเปอร์สตาร์โลกมาร่วม Countdown ที่ไอคอนสยามซึ่งนับว่าเป็นปรากฏการณ์เฉลิมฉลองสุดพิเศษ มอบเป็นของขวัญส่งต่อความสุขให้กับคนไทย และนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาเยือนประเทศไทยทำให้กระแสเงินหมุนเวียนในจุดนั้นนับพันล้านบาท
ท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมเดียว ที่ประคับประคองเศรษฐกิจไทยให้พอหายใจหายคอได้ ภาครัฐและเอกชนต่างรณรงค์สู่เป้าหมายของรัฐบาลในปี 2568 สร้างรายได้รวมการท่องเที่ยว 2.8 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2567 จากคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวในปี 2568 จะมีทิศทางที่ดีขึ้นจากปี 2567 เป็นกระแสกระตุ้นเศรษฐกิจ และการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศ ที่สำคัญจะเป็นปีที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะมาเยือนเมืองไทยแตะ 40 ล้านคนเป็นครั้งแรก สูงกว่าเป้าหมายที่ ททท.ตั้งไว้เดิมที่ 39.5 ล้านคน
รัฐบาลประกาศแคมเปญใหญ่ Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 และไทยจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ วันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 และการแข่งขันวอลเลย์บอล FIVB Women’s World Championships 2025 วันที่ 22 สิงหาคม -7 กันยายน 2568
ทั้งนี้ คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศจากตลาดระยะใกล้ จะมีจำนวน 29 ล้านคน และนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกลจำนวน 11 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ 77.5% และสัดส่วนจากนักท่องเที่ยวระยะไกล 22.5% ขณะที่รายได้รวมจากการท่องเที่ยวทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศของปี 2568 จะมีอัตราเพิ่มขึ้น 7.5% จากปี 2567
จะเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพียง Sector เดียวจะมีอัตราเพิ่มขึ้น 7.5% จากปี 2567
ส่วนการส่งสินค้าออกไปขายต่างประเทศยังซบเซา นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับภาคเอกชนในการผลักดันการส่งออกไทยปี 2568 ว่ากระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับภาคเอกชน และเห็นตรงกันว่าการส่งออกในปี 2568 ได้ตั้งเป้าหมายร่วมกันว่าจะเติบโตที่ 2-3% โดยหากเติบโต 2% มูลค่า 305,315.6 ล้านดอลลาร์
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวอยู่ในกรอบ 2.3–3.3% ที่น่ากังวล คือ ในภาคอุตสาหกรรมใช้แรงงานมีแนวโน้มคนตกงานมากกว่าปี 2567
ดร.ธนิต โสรัตน์ ประธานสภาที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแรงงานแห่งชาติ และ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผย
แนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางการจ้างงาน ปี 2568 ว่า ภาวะเศรษฐกิจของไทยปี 2567 ต่อเนื่องไปจนถึงอย่างน้อยครึ่งปี 2568 เศรษฐกิจยังอยู่ในสภาวะค่อนข้างนิ่ง ด้วยสภาวะแบบนี้อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมอัตราว่างงานไตรมาสสุดท้ายปี 2567 ไปจนถึงไตรมาสแรกปี 2568 อาจมีผู้ว่างงานมากขึ้น
ด้านอัตราการว่างงานของแรงงานในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ณ เดือนตุลาคม 2567 มีจำนวน 216,213 คน สัดส่วน 1.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 อัตราการว่างงาน 1.93% ในจำนวนนี้มีผู้ที่ว่างงานรายใหม่จำนวน 75,885 คน สูงสุดในรอบ 6 เดือน
ดังนั้นผู้ตกงานรายใหม่ประมาณหนึ่งแสนคนที่ได้รับโบนัส หรือชดเชยครั้งสุดท้ายหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยดูสดใสในเทศกาลปีใหม่ หรือในไตรมาสแรกของปีและตั้งแต่ไตรมาสสอง หรือเดือนเมษายน 2568 งูสิงเริ่มพันขาม้า ความยุ่งเหยิง ก็ประดังเข้ามาทั้งภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคงและสังคม
หากมองโลกด้วยความเป็นจริงไม่อิงโหรใช้สติปัญญาจะพบว่าประเทศไทยเผชิญชะตากรรมเลวร้ายตั้งแต่ปีมะโรงงูใหญ่ เมื่อประเทศชาติได้รัฐบาลไร้ประสบการณ์ ขาดสติปัญญา ไม่มีธรรมาภิบาล ในการบริหารประเทศ ปล่อยให้นักธุรกิจการเมืองทุนสามานย์มีอิทธิพลเหนือรัฐบาล สั่งการให้นายกรัฐมนตรีตลอดถึงสมุนบริวารให้หันซ้ายหันขวาได้ ประกอบกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บางคนเห็นแก่ได้รับใช้นักธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ย่ำยีความยุติธรรมของชาติ
ความอัปยศที่ปรากฏตั้งแต่ ปีงูใหญ่ นำมาสู่ปีงูสิงพันขาม้า ที่เรียกประเทศไทยให้ล้มลงได้ในปี 2568
วารดิถีปีใหม่นี้ ขออวยพรให้ทุกคนโชคดีและปลอบใจตัวเองด้วยคาถาว่า “งูเลื้อยไปซ้ายได้ลาภงูเลื้อยไปขวาโชคมาถึง”
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี